โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ค่าโง่โฮปเวลล์ 1.18 หมื่นล้านมากขนาดไหน

ฐานเศรษฐกิจ

เผยแพร่ 25 เม.ย. 2562 เวลา 09.54 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3464 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย.2562 โดย…พรานบุญ

 

ค่าโง่โฮปเวลล์

1.18 หมื่นล้านมากขนาดไหน

 

                คำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่พิพากษาให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย จ่ายค่าเสียหายแก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย)ฯ กรณีถูกยกเลิกสัญญา เป็นเงินมูลค่า 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% คืนหนังสือคํ้าประกันจากธนาคารกรุงเทพให้กับโฮปเวลล์ 500 ล้านบาท กลายเป็นประวัติศาสตร์ค่าโง่ในข้อพิพาทจากสัญญาสัมปทานแบบเทิร์นคีย์ให้คนไทยได้อ้าปากค้างกันทั้งแผ่นดิน

                พรานฯ ให้นักข่าวไปถาม เนติบริกร “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรีว่าจะทำอย่างไร ท่านเกาหัวแกรกๆ ก่อนบอกว่า ยังตอบไม่ถูกว่า รัฐต้องชดใช้ค่าเสียหายเลยหรือไม่ แต่คำสั่งศาลปกครอง ถือว่าสิ้นสุดแล้ว และเป็นไปได้ที่กระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา

                กระจิบกระจาบพิราบน้อยถามว่า รัฐต้องไปไล่เบี้ยกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เห็นชอบให้ยกเลิกสัญญาหรือไม่ พรานฯ ได้ยินท่านวิษณุ บอกว่า ขอเวลา ตอนนี้ยังนึกไม่ออก แต่รัฐไม่สามารถใช้มาตรา 44 ไปลบล้างคำพิพากษาศาลได้

                ดังนั้น ทางออกคือ อาจใช้วิธีอื่น เช่น การเจรจาต่อรองกัน ต้องไปถามทางโฮปเวลล์ก่อนว่า ต้องการอะไร คดีนี้มันยาวนานมาแล้ว ผมไม่อยากพูดว่ามีวิธีการใด เพราะจะเสียรูปคดี การชดใช้อาจน้อยกว่าที่ศาลได้พิพากษาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเจรจา แต่หากคู่กรณีไม่เจรจาเลย คงไม่สามารถไปบังคับคู่กรณีได้

                ร่องรอยที่เป็นทางออกของรัฐดูจะมีแต่ทางตัน…เสียแล้วนายท่าน

                พรานบุญอยู่ในพงไพรมานานหลายปี ไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนั้น ลำพังเบี้ย 10 บาท 20 บาทยังพอจินตนาการได้ แต่ระดับหมื่นล้านนี้จินตนาการไม่ออกว่ามันจะสูงเท่าป่าหิมพานต์หรือไม่

                เอาแค่เงินต้น 11,888 ล้านบาท ไม่นับดอกเบี้ย 7.5% ซึ่งตกปีละ 891 ล้านบาทเข้าไปอีกบานตะไท พรานฯ จึงไปสืบเสาะข้อมูลมาให้คนไทยได้ประจักษ์ว่ามากโขแค่ไหน ได้ดังนี้

                ค่าโง่ดังกล่าวเท่ากับ การที่กรมทางหลวงชนบท ก่อสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยานนทบุรี 1-กาญจนาภิเษก และโครงการถนนต่อเชื่อมถนนนครอินทร์-ศาลายา 1.2 หมื่นล้าน

                ภาระดังกล่าวเท่ากับการที่ การท่าเรือฯ ลงทุนฟื้นฟูคลองเตยทั้งย้ายผู้คน 26 ชุมชน ชุมชนใต้ทางด่วน 5 แห่ง ประมาณ 12,000 ครัวเรือน พัฒนาที่ดิน อาคารสูง 119 ไร่ สร้างตึกสูง 25 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 6,144 ยูนิต ใช้เงิน 1.2 หมื่นล้านบาท

                เงินก้อนดังกล่าวเท่ากับการที่บริษัท STEC ของเสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกุล ใช้เงินซื้อ “หมอชิตแลนด์” จาก U มูลค่า 4.32 พันล้านบาท บนที่ดิน 11 ไร่ พัฒนาหมอชิตคอมเพล็กซ์อาคารแฝดสำนักงานให้เช่า สูง 36 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น เงินลงทุนอีก 7.79 พันล้านบาท รวม 1.2 หมื่นล้านบาท

                เท่ากับ เงินลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2561 จำนวน 135 โครงการ มูลค่า 12,740 ล้านบาท

                ค่าโง่ที่คนไทยต้องจ่ายเท่ากับการที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ของหมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญ “บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM ทั้งหมด 4,588,424 หุ้น คิดเป็น 38.24% ในราคาหุ้น 2,800 บาท ได้เงิน 12,847 ล้านบาท

                ค่าโง่ก้อนนี้เท่ากับ เงินกู้โครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และค้างหนี้เกิน 3 งวดขึ้นไป ของครูราว 99,189 คน รวมเป็นเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท

                อกนายพรานอย่างข้าจะแตกตายไปแล้วพี่น้องเอ๊ย และถ้ารวมดอกเบี้ย 7.5% เท่ากับว่า รัฐบาลไทยจะต้องจ่ายค่าโง่ 11,888 ล้านบาท ตกปีละ 891 ล้านบาท 10-11 ปี ตกประมาณ 9,807 ล้านบาท รวมต้องจ่าย 21,695 ล้านบาท

                เงินก้อนดังกล่าวมากเท่ากับการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ทอท.ลงทุน 2.1 หมื่นล้านบาท ก่อสร้างรันเวย์เส้นที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ

                ภาระนี้เท่ากับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วงรามอินทรา-พระราม 9 ระยะทาง 16 กิโลเมตร ที่ลงทุน 2.1 หมื่นล้านบาท

                มหึมาขนาดนี้เท่ากับการลงทุนรถไฟฟ้าจากทองหล่อ-พระราม 3 ระยะทาง 12 กม. ที่จะลงทุน 2.1 หมื่นล้านบาท

                ค่าโง่ที่ยังหาคนผิดมารับภาระไม่ได้นี้เท่ากับโครงการรถไฟฟ้าช่วงพระราม 3-ท่าพระ ระยะทาง 12 กม. เงินลงทุน 2.2 หมื่นล้านบาท

                ค่าโง่ก้อนนี้เท่ากับการลงทุนของกลุ่ม บริษัท แสนสิริฯ ที่ประกาศเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ XT พร้อมกันถึง 3 โครงการ 3 ทำเล ได้แก่ เอกมัย ห้วยขวาง พญาไท มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท เพื่อขายให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยู่อาคารสูง

                พรานฯ จินตนาการได้ดังนี้แหละครับนาย!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0