'ความเศร้าทำให้เราเติบโต' พูดคุยและรับมืออาการใจสลายไปกับ Whal & Dolph

‘ใจสลาย’ หลายคนได้รับความรู้สึกนี้หลังจากอกหัก ผิดหวัง สูญเสียคนรักหรือของสำคัญ แม้คำมันอาจจะฟังดูเกินจริง แต่ก็อธิบายความเจ็บปวดขณะนั้นออกมาได้เป็นอย่างดี หรือบางทีไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ตรงเลยด้วยซ้ำ แค่เสียบหูฟัง เปิดเพลงโดนๆ ในห้องที่เงียบและว่างเปล่า เราก็สามารถใจสลายได้เหมือนกัน อย่างเช่นเพลงของ Whal & Dolph เป็นต้น

ปอ—กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ และ น้ำวน—วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ สองศิลปินหนุ่มวง Whal & Dolph จากค่าย What The Duck ที่เคยทำให้ใครหลายคนฉีกยิ้มและเสียน้ำตาไปพร้อมๆ กัน กับเพลงที่เข้าใจหัวอกทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ยิ้ม, ฝากไว้กับดาว, ไม่รู้ทำไม, รอให้เธอบอก, ใจเดียว และอีกมากมายที่ไม่ว่าพวกเขาจะปล่อยออกมาสักกี่เพลง ก็มีคนยินดีที่จะสุข เศร้า เหงาไปกับดนตรีและเนื้อหาเหล่านั้น

และล่าสุดกับเพลง ‘ใจสลาย’ (Jai 0) ซิงเกิ้ลใหม่ที่ทำเอาแฟนเพลงเสียน้ำตากันหลายก๊อก เพราะนอกจากจะจมไปกับเนื้อเพลงที่พูดแทนความรู้สึกของคนที่โลกพังครืนจากความรักที่จบลง พวกเขายังพาอารมณ์ให้ดำดิ่งไปกับดนตรี slow rock ประกอบกับเอ็มวีที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคน ในขณะที่ยังมีกันและกัน ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมาย จนในที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดจบ

คร่าวๆ ก็คงเข้าใจกันแล้วว่าทำไมเพลงนี้ถึงทำให้ใครบางคนรู้สึกใจสลายได้จริงๆ ถ้าอยากเข้าใจมากกว่านี้ เราไปพูดคุยกับชาวปลาทั้งสองคนกัน

เป็นยังไงบ้างกับซิงเกิ้ลใหม่ กระแสตอบรับดีมาก ทั้งเพลงและเอ็มวีเลย

ปอ: ต้องบอกว่าดีใจนะครับที่มีคนฟังเพลงเรามากขึ้น แล้วแฟนเพลงเก่าๆ ก็ยังรู้สึกว่าเรายังมีคุณค่าต่อพวกเขาอยู่ รู้สึกภูมิใจและก็หายเหนื่อย

นั่งดูฟีดแบ็คจากแฟนเพลง เห็นคนอินกับเพลงนี้เยอะเลย และหลายคนก็ไม่กล้าเปิดฟังเพลงนี้บ่อยๆ เพราะกลัวจะร้องไห้ด้วย

ปอ: อาจจะร้องไห้ได้มั้ง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เพราะผมฟังบ่อยมากแล้ว เพราะเราเป็นคนทำไง

น้ำวน: สู้ๆ นะครับทุกคน (หัวเราะ)

ปอ: ก็หวังว่าถ้ากลับมาฟังอีกรอบแล้วไม่ร้องไห้ ก็แปลว่าคุณอาการดีขึ้นแล้ว อยากให้เป็นแบบนั้น

เพลงนี้มีที่มายังไง ประสบการณ์ตรงหรือเปล่า ทำไมถ่ายทอดความรู้สึกใจสลายออกมาได้ดีขนาดนี้?

ปอ: มันเป็นเรื่องของเพื่อนที่เราสนิทด้วย เขาเลิกกับคนที่รักมานาน เราแค่อยากลองเป็นเขาดู อยากรู้ว่าถ้าเราเป็นเขาเราจะรู้สึกยังไง ก็เลยเอาวิญญาณเขามาสวมและเขียนเพลงนี้ออกมา ก็น่าจะไปโดนใจใครหลายๆ คนที่กำลังเจอเรื่องนี้อยู่ และด้วยดนตรีที่เราทำออกมา มันก็ส่งเสริมเนื้อเรื่องอีกที ก็ดีใจที่ทุกคนชอบกัน

ปกติจะดนตรีสดใสเนื้อหาใจร้าย ทำไมเพลงนี้ดึงอารมณ์ให้ดิ่งทั้งเนื้อเพลงทั้งดนตรีเลยล่ะ?

น้ำวน: เราคุยกันว่าอยากลองให้มันไปในทิศทางเดียวกันดูบ้าง แต่จริงๆ ในทุกๆ เพลงเราก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้มันขัดแย้งกันนะ ผมคิดว่ามันเหมาะสมกับเพลงนั้นๆ แล้ว ก็เลยทำแบบนั้นขึ้นมา แต่เพลงนี้ ผมมองว่ามันควรจะเป็นแบบนี้แหละ บรรยากาศเพลงน่าจะต้องเป็นแบบนี้ครับ

ปอ: เพลงนี้ค่อนข้างจะเปลี่ยนจากเพลงแรกๆ ไปเยอะเหมือนกันนะ มันไม่มีเพลงที่เป็น slow rock หรือ vintage อะไรแบบนี้

เห็นหลายเพลงของ Whal & Dolph ที่มีเนื้อหาประมาณว่า เคยรักกันมาดีๆ แต่วันนี้ไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว ‘ภาวะหมดรัก’ มันเกิดขึ้นได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?

ปอ: ผมคิดว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายนะ แต่แค่ว่าช่วงชีวิตของคนเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราหรือเปล่า บางคนอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตเขาเลยก็ได้ แต่กับบางคน ทุกๆ ครั้งที่มีความสัมพันธ์มันอาจจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็ได้ ผมว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตาแล้วครับ (หัวเราะ)

เพลงเศร้าทั่วๆ ไปมักจะพูดถึงในมุมมองของผู้ถูกกระทำ อย่างโดนทิ้ง โดนหลอก โดนให้ความหวัง แต่ทำไมเพลงของเราถึงเข้าใจมุมมองของคนที่เป็น 'ฝ่ายกระทำ' ขนาดนั้น

ปอ: เราแค่เล่าสิ่งที่เราเจอ เราโดนมาแบบนี้ เราก็เล่าแบบนี้ มันแค่อาจจะบังเอิญไปทำให้คนมองว่าใจร้าย แต่จริงๆ เพลงเราหลากหลายมากเลยนะ เพลงอื่นๆ เราก็โดนทิ้งเหมือนกัน (หัวเราะ) ผมว่าแค่คนเอาไปพูดถึงมากกว่า เขาก็เลยคิดว่าเราเป็นวงที่ใจร้าย แต่จริงๆ เรามีหลายแบบเลย

อย่างในเพลง ‘มีความจริงบางอย่างที่เธอไม่ควรรู้’ จริงๆ มันคือการนอกใจแฟนถูกมั้ย?

ปอ: มันเป็นเรื่องของผมเองครับ ช่วง 6-7 ปีที่แล้วเคยมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับผม ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมกำลังคุยกับผู้หญิงคนนึง ก็ใกล้จะเป็นแฟนกันแล้วแหละ แล้วผมก็ไปเที่ยว reunion กับเพื่อนเก่าๆ แล้วดันไปเจอกับเพื่อนเก่าคนนึงที่เป็นคนที่เรารู้สึกดีด้วยมานานแล้ว คืนนั้นที่เราไป มันเหมือนไปสปาร์คกับเพื่อนเก่าของเราคนนั้น มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าทำไมเราหลงไปกับคนนี้หมดเลย แต่พอกลับมา ผมก็มานั่งคิดว่าคนที่ผมกำลังคุยอยู่ เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกับเรานี่นา เขาก็เป็นคนดี เขาก็กำลังจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับเรา เราก็เลยคิดว่าอยากจะขอโทษ เราเผลอพลั้งไปจริงๆ ในคืนนั้น แต่ก็ขอโทษได้แค่ในใจ ก็เลยแต่งออกมาเป็นเพลง สุดท้ายก็ไม่ได้ไปหาเขานะ แต่คนเอาไปตีความต่อ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ความเป็นจริงผมไม่ได้เลือกคนที่ผมเผลอใจไปนะ

ในเอ็มวีใจสลาย สุดท้ายทุกอย่างจบลงที่การบอกลา 0 ประโยค คิดว่าทำไมบอกคนถึงเลือกจะบอกลาโดยไม่มีคำลา?

น้ำวน: ในทุกๆ คู่มันน่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่แล้วครับ บางคนก็กล้าที่จะพูดคำลาออกไป แต่บางคนน่าจะเฟดกันตั้งแต่ช่วงท้ายๆ แล้วล่ะ ก็เลยอาจจะบอกลาโดยไม่ใช้คำบอกลากันเลย

ปอ: ผมคิดว่ามันก็เจ็บทั้งคู่นะ ไม่ว่าจะเป็นการลาแบบไหน มันไม่มีคำว่า happy อยู่แล้ว ลาแบบไหนก็เจ็บเหมือนกัน

จากเพลงเก่าๆ อัลบั้มเก่าๆ คิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงหรือโตขึ้นมาขนาดไหนแล้ว?

น้ำวน: เราไม่ค่อยรู้ตัวเลยนะ สำหรับผม ผมเลิกนับไปแล้วว่าเรามีชื่อเสียงแค่ไหนแล้ว เราแค่อยากทำงานให้มันดี อยากโฟกัสแค่นั้นมากกว่า

ปอ: ถ้าถามว่าตัวตนเราโตขึ้นมั้ย ผมเชื่อว่ามันโตขึ้นแน่นอน 3 ปีผ่านไปกับการทำงาน แต่ถ้าถามว่าวงโตขึ้นแค่ไหน ผมตอบไม่ได้จริงๆ

เพลงเศร้าเยอะจัง คิดว่าความเศร้ามันช่วยขับเคลื่อนชีวิตและการทำงานของทั้งสองคนยังไงบ้าง

ปอ: จริงๆ เราไม่ได้มีเพลงเศร้าเยอะขนาดนั้นนะ แต่ด้วยเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา อาจจะมีช่วงหนึ่งหรือช่วงก่อนหน้านี้ที่เจอเรื่องเศร้าเยอะกว่า ก็เลยทำให้เหมือนว่ามีเพลงเศร้าเยอะ ถ้าถามว่าช่วยขับเคลื่อนมั้ย ผมว่าช่วยนะ มันอาจจะอยากขับเคลื่อนให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้น ทำอะไรประสบความสำเร็จมากขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องหันกลับไปมองมุมที่มันเศร้าอีก เราจะได้หลุดพ้นออกมา

อยู่กับการทำเพลงเศร้าบ่อยๆ รู้สึกจมมั้ย แล้วมีวิธีเอาตัวเองออกมาจากความเศร้ายังไงบ้าง?

ปอ: มันจะจมแค่ช่วงแรกๆ ครับ อย่างผมตอนที่ร้องเพลงใจสลาย มันจะเป็นแค่ช่วงที่เราแต่งมันออกมา เริ่มบันทึกเสียง เอากลับมาฟังเดโม่ที่เราทำ มันจะเศร้าและอินตอนนั้น หรือได้ฟังมิกซ์กับมาสเตอร์ครั้งแรก มันรู้สึกขนลุก เศร้าว่ะ แต่พอเราทำเสร็จ ถึงจุดๆ นึงมันก็จะค่อยๆ จางไป อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนผลิตมันออกมาเองก็ได้ แต่เราสัมผัสมันได้ตั้งแต่แรกๆ ที่เราทำนะ และมันจะมีแค่บางงานที่ไปเล่นแล้วรู้สึกถึงจริงๆ มันเกี่ยวกับบรรยากาศรอบนอกด้วย ถ้าบรรยากาศทุกอย่างมันส่งให้เรารู้สึกจริงๆ เราถึงจะขึ้นไปตรงนั้น อย่างในคอนเสิร์ต Fish Market ที่ผ่านมาก็ถึงนะครับ ตอนร้องเพลง 'รอให้เธอบอก' หรือ 'น้ำตาฟ้า' ก็คือเศร้าจริง

น้ำวน: ใช่ ทุกคนก็เงียบฟัง เป็นบรรยากาศที่ดี

ปอ: หรือที่เป็นบ่อยๆ ก็คือไปเล่นแล้วมีคนร้องไห้อยู่ตรงหน้า มันจะพาเราไปถึงจุดที่สะท้อนกลับมาหาเราอีกที เราเห็นว่าเขาเศร้า แล้วมันจะกลายเป็นว่าเราก็เข้าถึงกับเขาได้ ทำให้เราเศร้าไปด้วย

รู้สึกว่าตัวเองมาถึงจุดที่เคยตั้งไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการหรือยัง?

ปอ: ถึงแล้วครับ ตอนแรกแค่อยากมีอัลบั้ม มีคนจ้างงานไปเล่นคอนเสิร์ต มีแฟนเพลงร้องเพลงได้ ก็ทำได้แล้ว ตอนนี้เป็นอีกเป้าหมายนึงแล้ว

แล้วตอนนี้มีขีดกำจัดอะไรใหม่ๆ ที่อยากจะก้าวข้ามบ้างมั้ย?

ปอ: มีครับ ผมอยากมีเพลงในอัลบั้มที่ 2 ที่มันดีมากๆ แล้วก็ได้รับการยอมรับจากทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ ด้าน ทั้งแฟนเพลง ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ใช่ว่าเราอยากทำเพลงให้แมสขึ้นนะ ผมแค่อยากทำเพลงในแบบของเรา แต่ทุกคนยอมรับ ไม่ใช่แค่คนกลุ่มหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่านะ ตอนนี้ก็ทำอยู่ แต่ก็ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะผมคิดว่า ถ้ามันหมายถึงการต้องเปลี่ยนตัวเอง มันไม่ถูกต้องครับ ถ้าต้องเปลี่ยนสไตล์ เปลี่ยนแนวความคิด เปลี่ยนวิธีการทำงาน มันจะทำให้เสียตัวตนไป ผมยังอยากทำงานแบบเดิมที่ดีกว่าเดิม แล้วได้รับการยอมรับ มันก็ต้องอดทนหน่อย

น้ำวน: สำหรับผมก็น่าจะเป็นเรื่องโชว์ของวงครับ ตอนนี้ที่เราเล่นกันมันก็โอเคในระดับนึงแล้ว แต่เวลาผมไปดูคลิปดูวงอื่นที่เขาเล่น รู้สึกว่ามันเป็นโชว์ที่ดีมากๆ ผมคิดว่าทุกวันนี้ที่ผมเล่นอยู่ มันสามารถไปกว่านี้ได้อีก เคยลองพยายามทำแล้ว มันต้องใช้เวลากับเพลงด้วย มันมีความยากระดับนึง เหมือนพอเราคิดได้ แต่เราดันไม่มีเวลาทำมันเท่าไหร่ สมมติเราต้องไปใช้ห้องซ้อม มันก็ใช้เวลานาน เวลาซ้อมผมก็ยังไม่ค่อยมีเลย เพราะช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งมาก ก็อยากพัฒนาให้มันดี

ปอ: ต้องเก็บเพลงด้วย เพลงยังไม่พอ

น้ำวน: รู้เลยว่ายังทำไม่ได้ เพราะยังขาดเพลงประเภทอื่นอยู่บ้าง

อัลบั้มใหม่เร็วๆ นี้หรือเปล่า?

น้ำวน: กำลังทำครับ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเสร็จช่วงไหน (หัวเราะ) วางแผนว่าจะให้เสร็จทันปลายปี แต่อาจจะไม่เสร็จตามแผนก็ได้

ปอ: ไม่มีอะไรแน่นอนครับ

ตอนแรกหลังจากที่ออกเพลงใจเดียว แอบมีหวังแล้วว่า Whal & Dolph จะทำเพลงรัก เพลงสมหวังมากขึ้น

น้ำวน: ผมว่ามันเป็นจังหวะมากกว่าครับ พอดีเราทำเพลงนี้เสร็จ เราก็ปล่อยเพลงนี้ต่อ แต่ว่าอนาคตมันก็จะมีเพลงที่ดี ที่สมหวัง หรืออาจจะเล่าเรื่องอื่นเลยก็ได้

ปอ: เดี๋ยวต่อจากนี้จะมีหลายโหมดเลยครับ ที่คนตีความจะมีแต่เพลงรักกับเพลงเศร้า เราก็จะแบ่งเป็นเพลงรักหลายโหมด เพลงเศร้าหลายโหมด แต่ตอนนี้เราอยากจะเปลี่ยนโหมดเป็นเพลงที่ให้กำลังใจชีวิตคนมากขึ้น ฟังแล้วรู้สึกว่าเราจะผ่านเรื่องแย่ๆ ไปได้ อยากมีอะไรแบบนั้นให้กับผู้คน เพราะช่วงนี้กำลังอินกับการให้กำลังใจคนอื่น

งั้นให้กำลังใจคนที่กำลังใจสลายกับเพลงใหม่ของ Whal & Dolph หน่อย

"อดทนอีกหน่อยนะครับ จริงๆ เรื่องแย่มันผ่านมาให้เราจดจำ ไม่ได้ผ่านมาทำร้ายเราได้ตลอด มันผ่านเข้ามาได้ มันก็ผ่านออกไปได้เหมือนกัน" — Whal & Dolph

Illustration by Kodchakorn Thammachart

Photo by Nutcha Charoennith