โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

"คมนาคม" ผุด 6 แนวปฏิบัติการเดินทางยุคนิวนอร์มอล กันโควิดกลับมาในเฟส 3

ไทยรัฐออนไลน์ - Economics

อัพเดต 29 พ.ค. 2563 เวลา 13.53 น. • เผยแพร่ 29 พ.ค. 2563 เวลา 13.53 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ก.คมนาคม ผุด 6 แนวปฏิบัติการเดินทางยุคนิว นอร์มอล วางแนวทางผู้ให้บริการ-ผู้โดยสาร ป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19 ด้าน “ชัยวัฒน์” สั่งมอนิเตอร์จำนวนผู้โดยสาร-ติดตามผลกระทบฯ หลัง ศบค.ปลดล็อกเฟส 3

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีมาตรการผ่อนปรน ระยะ 3 นั้น กระทรวงคมนาคมได้เตรียมออกแนวปฏิบัติการเดินทางวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ด้านคมนาคม ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะและผู้โดยสารนำไปปฏิบัติตาม ประกอบด้วย 6 ข้อ คือ

1.หน่วยงานผู้ให้บริการต้องมีการคัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ

2.ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาในการเดินทาง

3.การเว้นระห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งในเรื่องนี้ยอมรับว่า อาจจะทำให้ผู้โดยสารต้องใช้เวลาในการรอเข้าใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้า แต่ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและลดการแพร่ระบาดการติดเชื้อไวรัสฯ

4.จุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

5.การบันทึกข้อมูลของผู้โดยสารที่ต้องเดินทางระยะทางไกลหรือข้ามจังหวัดผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” หากผู้โดยสารที่ไม่มีอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ยังคงสามารถกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพตามแบบ ต.8-คค. ได้

6.ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะต้องทำความสะอาดยานพาหนะก่อนที่จะนำออกมาให้บริการประชาชน เช่น รถเมล์ ขสมก., รถทัวร์ บขส., รถไฟ, รถไฟฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แนวทางปฏิบัติ 6 ข้อดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการอยู่แล้ว และจะเป็นการประชาสัมพันธ์แนวทางการปฏิบัติให้ผู้โดยสารอย่างเป็นทางการ

“หลังจากที่ ศบค. ได้ผ่อนปรนระยะ 3 แล้วนั้น คาดว่าจำนวนผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยบระบบขนส่งสาธารณะจะเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอนิเตอร์ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น และติดตามผลกระทบหลังจากมีการคลายล็อกดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งขอความร่วมมือส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ทำงานอยู่บ้าน (Work From Home) และเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อลดความหนาแน่นในการเดินทาง” นายชัยวัฒน์ กล่าว

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0