วานนี้ (20 พ.ค.62) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จ.เชียงราย นายมนต์ชัย ปาณธูป ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 36 นายส่งศักดิ์ เทพดวงแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ พร้อมด้วยคณาจารย์และนักเรียนจากโรงเรียนดังกล่าว ได้เดินทางมารอต้อนรับ น.ส.น้ำผึ้ง ปัญญา อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ คณะนักเรียนจากโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย ที่เดินทางไปร่วมการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์หรือ Science Project Compettition ที่งาน Intel ISEF2019 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12-17 พ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับ น.ส.น้ำผึ้ง ปัญญา เพิ่งได้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นสัญชาติไทยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.62 เป็นกรณีเร่งด่วนพิเศษ โดยที่ผ่านมา น.ส.น้ำผึ้ง ถือบัตรหัวศูนย์มาตั้งแต่แรกเกิดเพราะบิดาและมารดาเป็นชาวไทใหญ่ที่อพยพมาจากประเทศเมียนมาร์เมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งการเดินทางไปร่วมแข่งขันใน ครั้งนี้ น.ส.น้ำผึ้ง ร่วมทีมกับ นายพิรชัช คชนิล และนายเจษฎา สิทธิขันแก้ว ได้นำผลงานโครงงานการพัฒนาสารเคลือบเมล็ดพันธุ์อุ้มน้ำจากยางไม้ในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มอัตราการรอดตายของข้าวไร่ในสภาวะขาดน้ำ เนื่องจากฝนทิ้งช่วง ไปแข่งขัน ขณะที่อีกทีมประกอบด้วย น.ส.นัทธมน ศรีพรม น.ส.รมิดา เชื้อเมืองพาน และ น.ส.พันธ์อนงค์ ชื่นโชคชัย ได้นำโครงงานการพัฒนาไฮโดรเจลสำหรับกำจัดหอยที่เป็นศัตรูพืชในทางการเกษตรจากยางไม้ในท้องถิ่น ไปร่วมการแข่งขันในรายการเดียวกัน
โดยทีมของน้องน้ำผึ้ง คว้ารางวัลอันดับที่ 2 ขณะที่ทีมของ น.ส.นัทธมน ศรีพรม ได้รับรางวัลอันดับที่ 4 ถือเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการส่งเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติดังกล่าวจำนวน 17 ทีมจาก 22 สาขา แต่ได้รับรางวัลกลับมาเพียงจำนวน 8 รางวัล หนึ่งในนั้นคือโครงงานของทีม น.ส.น้ำผึ้ง ซึ่งได้รับรางวัลสเปเชียลอวอร์ดจาก USAID from the American People ด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในรายการแข่งขันดังกล่าวโดยได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนทีมของ น.ส.นัทธมน ศรีพรม ได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษา 500 ดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งบรรยากาศในการต้อนรับคณะครูและนักเรียนครั้งนี้เป็นไปด้วยความอบอุ่นโดยมีการนำป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนข้อความ"ยินดีต้อนรับพร้อม ถือธงประจำโรงเรียนและเพื่อนๆ นักเรียนร่วมกันร้องเพลงประจำโรงเรียน มาให้การต้อนรับ ก่อนที่นายมนต์ชัยและนายส่งศักดิ์พร้อมด้วยครูอาจารย์จะมอบช่อดอกไม้ให้กับทั้ง 6 คนเพื่อแสดงความยินดี ซึ่งสร้างความดีใจและตื้นตันใจให้กับทั้ง 6 คนโดยเฉพาะ น.ส.น้ำผึ้ง ที่ถึงกับร้องไห้ขณะเข้าสวมกอดกับนางเกี๋ยง ปัญญา อายุ 45 ปี แม่ของน้องน้ำผึ้ง
น.ส.น้ำผึ้ง บอกว่า โครงงานดังกล่าวมีที่มาที่ไปจากการที่มีเพื่อนในทีมที่ครอบครัวมีอาชีพทำนาและประสบปัญหาเมล็ดพันธุ์ข้าว มีอัตราความเสียหายสูงเมื่อต้องประสบกับความแห้งแล้ง จึงได้คิดค้นหาวิธีการเคลือบซึ่งก็พบว่ายางไม้ท้องถิ่นมีคุณสมบัติที่เหมาะจึงได้นำมาเคลือบรักษาและจัดทำเป็นโครงงาน กระทั่งพบว่าได้ผลดีสามารถทำให้เมล็ดพันธุ์คงทนต่อภัยแล้งได้และเติบโตได้ดี ซึ่งตนเห็นว่าสามารถนำไปต่อยอดกับพืชอื่นๆ ได้เพราะมีคุณสมบัติเดียวกัน สำหรับการได้รับรางวัลระดับนานาชาติครั้งนี้ทำให้ตนดีใจอย่างมาก ซึ่งต้องขอบคุณครูอาจารย์ ผู้ใหญ่ที่สนับสนุนทุกท่านและเพื่อนๆ ทุกคน
นอกน้องน้ำผึ้งยังบอกอีกว่า ตนยืนยันว่าทุกคนที่ไปแข่งขันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อมอบให้กับผู้ที่สนับสนุนพวกเราและเพื่อประเทศไทยของเราด้วย แม้ว่าแข่งขันจะถือว่ายากพอสมควรเพราะผู้เข้าแข่งขันมาจากต่างประเทศที่มีความเหนือกว่าในหลายเรื่องรวมทั้งได้เปรียบด้านภาษาด้วย แต่เราก็ถือว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะต่อสู้และทำให้คนต่างชาติได้รู้ว่าคนไทยเราก็สู้ได้จนได้รับรางวัลดังกล่าว
นางเกี๋ยง แม่ของน้องน้ำผึ้ง เล่าถึงความภูมิใจในลูกสาว ว่าเดิมพวกเรายากจนและบิดาเขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุได้ 8 เดือน ทำให้ตนหาเลี้ยงเขาและพี่ชายอีก 1 คนมาด้วยความยากลำบาก รวมทั้งตนก็อ่านหนังสือไม่ได้ และเขียนก็ไม่เป็นแต่พยายามสอนลูกให้เป็นคนดีมีความเมตตาต่อผู้อื่นเป็นหลัก กระทั่งเขาเรียนเก่งและได้รับรางวัลดังกล่าว ส่วนการเรียนในอนาคตนั้นลูกสาวตนไปสมัครสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เองหมดเรียบร้อย ซึ่งตนก็จะส่งเสริมให้ลูกสาวได้ร่ำเรียนจนประสบความสำเร็จในอนาคตต่อไปโดยสิ่งสำคัญที่เตือนใจเขาคือให้มีความเมตตาต่อคนอื่น
จันขอแสดงความดีใจกับน้องนำผึ้งและเพื่อนๆ ที่สามารถคว้ารางวัลมาได้สำเร็จ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนลุยกันต่อ หมั่นฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะต่อไปด้วยเน้อ #เก่งมากๆจ้า
