โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คนอเมริกันเริ่มทนไม่ไหว

ไทยรัฐออนไลน์ - Oversea

เผยแพร่ 23 พ.ค. 2562 เวลา 22.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ผู้นำโง่ตกเป็นเหยื่อสงครามการค้า

สงครามการค้าสหรัฐฯจีน ที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อขึ้นมา 10 เดือนเศษ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 25% หวังบีบจีนให้เจรจาการค้าที่สหรัฐฯได้เปรียบ กลับสร้างผลกระทบต่อบริษัทและชาวอเมริกันทั่วประเทศ

ล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้สั่ง ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย ห้ามบริษัทอเมริกันค้าขายด้วย และขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 25% อีก 300,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ความอดทนของชาวอเมริกันสิ้นสุดลง บริษัทอเมริกัน 170 แห่ง ได้ร่วมกันทำ จดหมายเปิดผนึก ถึง ประธานาธิบดีทรัมป์ เรียกร้องให้ปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯที่ทรัมป์กำลังจะทำลายให้ราบเป็นหน้ากลอง

สงครามการค้าจีนครั้งนี้ ฟันธงได้เลยว่า สหรัฐฯเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกประตู

จดหมายเปิดผนึก 170 บริษัท จาก 17 กลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งบริษัทผลิตรองเท้ากีฬายักษ์ใหญ่อย่าง อาดิดาส ไนกี้ พูม่า ระบุว่า การขึ้นภาษีรองเท้ากีฬานำเข้าจากจีนเป็น 25% จะกลายเป็นหายนะสำหรับ ผู้บริโภคอเมริกันและบริษัทอเมริกัน รวมทั้งเศรษฐกิจอเมริกา ทุกวันนี้อุตสาหกรรม 17 ประเภทของอเมริกาต้องพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าจากจีน จีนเป็นแหล่งที่มาของเสื้อผ้าชาวอเมริกัน 41% รองเท้า 72% อุปกรณ์การเดินทาง 84% รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆอีกมากมาย

จดหมายเปิดผนึก 170 บริษัทระบุว่า เราควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า คนที่จะต้องจ่ายภาษีศุลกากรนำเข้าจากจีน คือผู้บริโภคในสหรัฐฯเอง ไม่ใช่เป็นการรีดภาษีจากจีน อย่างที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลง ด้วยความเข้าใจผิดๆ แปลเป็นไทยก็คือ 170 บริษัทอเมริกันกำลังด่าประธานาธิบดีทรัมป์ว่า “โง่” ที่ขึ้นภาษีสินค้าจีน โดยคิดว่าเป็นการลงโทษจีน แต่ในความเป็นจริงเป็นการลงโทษชาวอเมริกัน เพราะภาษีที่ขึ้นไป 25% ผู้บริโภคอเมริกันต้องเป็นผู้จ่าย ไม่ใช่จีน และทำให้สินค้าที่จำหน่ายมีราคาแพงขึ้น

จากงานวิจัยของ มหาวิทยาลัยชิคาโก ระบุว่า การเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าจาก จีน 25% ทำให้ผู้บริโภคอเมริกันต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกปีละ 150,000 ล้านดอลลาร์ เป็นราคาค่าเครื่องซักผ้าที่เพิ่มขึ้นเครื่องละ 86 ดอลลาร์ เครื่องอบผ้าเพิ่มขึ้นเครื่องละ 92 ดอลลาร์ เพราะชาวอเมริกันทุกบ้านใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า เสื้อผ้ารองเท้าราคาถูกจากจีนก็เช่นกัน เป็นสิ่งจำเป็นของคนอเมริกันชั้นกลางและล่าง

จดหมายเปิดผนึก 170 บริษัท ยังระบุถึงข้อเรียกร้องของ ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ให้บริษัทอเมริกันย้ายฐานผลิตออกจากจีนกลับไปยังสหรัฐฯว่า การย้ายโรงงานจำเป็นต้องใช้เวลาวางแผนหลายปีก่อนจะตัดสินใจ เป็นไปไม่ได้ที่จู่ๆจะให้ย้ายโรงงานทันที เพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายเหล่านี้

วันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ เจอศึกในบ้านตัวเองแล้ว เมื่อชาวอเมริกัน 330 ล้านคน เริ่มเดือดร้อนจากสงครามการค้าของทรัมป์จนทนไม่ไหว ขณะเดียวกัน การบีบจีนด้วยการขึ้นภาษี 25% อีก 300,000 ล้านดอลลาร์ จะทำให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆเร็วขึ้น

ปี 2561 จีนได้ยื่นจดสิทธิบัตรใหม่ๆถึง 53,345 คำร้องเป็นที่ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ที่ยื่นจด 56,142 คำร้อง และ หัวเว่ย เทคโนโลยี ครองอันดับ 1 ของโลกที่ยื่นจดสิทธิบัตรมากที่สุดถึง 5,405 คำร้อง มากกว่าบริษัทอเมริกันทุกบริษัท

การถอนคำสั่งแบนหัวเว่ยออกไปอีก 90 วัน หลังจากที่ออกคำสั่งไปไม่ทันข้ามวัน ถือเป็น “ความโง่เขลา” อีกเรื่องของ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ไม่รู้ว่า การสั่งแบนหัวเว่ยทำให้บริษัทเซมิคอนดัคเตอร์ของสหรัฐฯเสียหายปีละกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้ขีดความสามารถการแข่งขันลดลง ที่สำคัญสหรัฐฯต้องซื้อแร่ที่ใช้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์จากจีนถึง 80%

ผมจึงเห็นด้วยกับ แจ็ค หม่า แห่ง อาลีบาบา ที่พูดถึง คุณสมบัติผู้นำประเทศ ว่า ต้องฉลาดและรอบรู้ แต่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ดูเหมือนฉลาด แต่โง่โดยไม่รู้ตัว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0