โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คดีฆ่าข่มขืน!!! ‘เตือนใจ พวงนาค’ 40 ปี แห่งความหลังที่สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ

Horrorism

อัพเดต 10 มี.ค. 2563 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 10 มี.ค. 2563 เวลา 07.40 น. • Horrorism

 

       ‘เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม’ เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริง! ที่เป็นคดีดังในประวัติศาสตร์ของไทย ถูกฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2522 ที่โรงภาพยนตร์สยาม-ปารีส-พาราเมาท์-วอชิงตัน นำแสดงโดย สุพรรษา เนื่องภิรมย์, อรัญญา นามวงศ์, มนฤดี ยมาภัย และ ทวนธน คำมีศรี สร้างโดย อดุลย์โปรดักชั่น ของสารวัตรอดุลย์ บุญเสริฐ และกำกับการแสดงโดย ดุลย์พิจิตร์ หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังเปิดตัว สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักและเป็นขวัญใจของคนดูในยุคนั้น

 

ที่มาของภาพ : postjung

 

       หากย้อนเวลากลับไปเมื่อสักประมาณเกือบ 40 ปีที่แล้ว คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักคดีสะเทือนขวัญของ นางสาวเตือนใจ พวงนาค ที่ถูกจิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งฉุดไปข่มขืนแล้วฆ่าชิงทรัพย์อย่างทารุณ โดยคนร้ายได้ทิ้งร่องรอยเป็นรอยกัดไว้ที่ร่างกายของเธอ ก่อให้เกิดความหวาดกลัวกับบรรดาหญิงสาวในยุคนั้นเป็นอย่างมาก 

ที่มาของภาพ : tnews

 

       ‘เตือนใจ' เป็นเด็กสาววิทยาลัยครูสวนสุนันทาหรือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในปัจจุบัน พ่อและแม่ของเตือนใจเปิดร้านขายของอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 101 ซึ่งเป็นซอยที่ลึกและเปลี่ยวมากในขณะนั้น วันหนึ่งขณะนั่งรถเมล์กลับบ้าน เตือนใจได้เหยียบเท้านักเรียนนายร้อยคนหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ ทำให้ได้รู้จักและสนิทสนมกันมานับแต่นั้น นายร้อยคนนั้นท่าทางหน้าตาดีมีชื่อว่า นตท.วีระเดช สุบรรณรักษณ์

 

 
ที่มาของภาพ : tnews

 

       เตือนใจมีเพื่อนสนิทอยู่ด้วยกัน 4 คน ชื่อว่าตุ๋ย, เปิ้ล, หนิง และแป๋ว ทั้งหมดสนิทสนมกันมากไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เนื่องจากบ้านของพวกเธออยู่ในซอยเดียวกัน หลังจากที่เตือนใจได้รู้จักกับ นตท.วีระเดช ทั้งคู่ก็ติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมา ซึ่งในเวลาต่อมาเตือนใจก็แนะนำ นตท.วีระเดช ให้เพื่อนสนิททั้ง 4 คนได้รู้จัก และเมื่อ นตท.วีระเดช ได้เจอเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คน ของเตือนใจ ก็นำไปเล่าให้เพื่อนที่เรียนนายร้อยตำรวจด้วยกันฟังว่า เพื่อน ๆ ของเตือนใจทั้ง 4 คนสวยมาก ทำให้เพื่อน ๆ ของ นตท.วีระเดช ทั้ง 4 คนสนใจอยากทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ของเตือนใจ ทั้งหมดจึงตกลงนัดเจอกันและพากันไปเที่ยวพัทยา การไปเที่ยวในครั้งนั้นทำให้ทุกคนมีความสนิทสนมกันมากขึ้น

       ขากลับจากพัทยา กลุ่มนักเรียนนายร้อยได้ไปส่งเตือนใจและเพื่อน ๆ จนถึงบ้านทุกคน แต่ระหว่างทางที่ไปส่งนั้น กลุ่มนักเรียนนายร้อยได้มีเรื่องกับกลุ่มจิ๋กโก๋ภายในซอยจนเกือบมีเรื่องชกต่อยกัน แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องกันบานปลายเพราะกลุ่มสาว ๆ ได้ช่วยกันห้ามไว้ก่อน

       วันหนึ่งทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้จัดงานการแข่งขันกีฬาประจำปีขึ้น เตือนใจและเพื่อน ๆ ทั้ง 4 ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย แต่วันนั้นบังเอิญแม่ของ นตท.วีระเดชเกิดป่วยกะทันหัน นตท.วีระเดชจึงไม่ได้ไปร่วมงานกีฬาโรงเรียนนายร้อย ทำให้เพื่อน ๆ ของเตือนใจทั้ง 4 อยู่กันครบคู่กับแฟนหนุ่มนายร้อย มีแค่เตือนใจเท่านั้นที่ต้องอยู่คนเดียว เตือนใจไม่อยากรบกวนเพื่อน ๆ จึงขอตัวกลับบ้านก่อน เนื่องจากไม่ได้บอกที่บ้านไว้ว่าจะมา

 

       และแล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ขณะที่เตือนใจกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลาค่ำ ผู้คนบางตาจนแทบจะไม่มีคนเดินผ่าน รถราในสมัยนั้นก็ไม่มีเข้าซอย บวกกับซอยที่พักอาศัยเป็นซอยที่เปลี่ยวสนิท เตือนใจที่เดินเข้าซอยเพียงลำพังถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมข่มขืนด้วยความทารุณ ตรงจุดเกิดเหตุมีร่องรอยของการต่อสู้อย่างสุดชีวิต แต่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเตือนใจคงยากที่จะสู้แรงเดนสังคมทั้ง 4 ได้ ท้ายที่สุดเตือนใจถูกข่มขืน ฆ่าและชิงทรัพย์ โดยพ่อแม่ของเตือนใจเป็นผู้พบศพลูกสาวอยู่ที่ข้างทางในคืนที่เกิดเหตุ เนื่องจากพ่อแม่ของเตือนใจเห็นลูกสาวกลับบ้านผิดเวลาจึงออกตามหา สภาพศพของเตือนใจในขณะนั้นสร้างความอเนจอนาถใจให้แก่ผู้พบเห็นเสียเหลือเกิน

       หมวดทวนธน คำมีศรี สายสืบพิเศษที่เป็นคนดูแลคดีนี้ ถึงกับเบนหน้าหนีเมื่อเห็นสภาพศพของเตือนใจ ที่คอมีร่องรอยของการโดนกัด โดยคนที่กัดนั้น ฟันหน้าหักหนึ่งซี่ จากรอยแหว่งของรอยฟันบนผิวหนังของเหยื่อ และที่ซอกเล็บของเตือนใจมีหนังของคนร้ายติดอยู่เป็นจำนวนมาก หมวดทวนธนจึงพุ่งเป้าไปที่คนร้ายที่มีฟันหน้าหัก 1 ซี่และมีรอยข่วนบนร่างกาย จึงเร่งให้ลูกน้องออกหาตัวคนร้ายทันที และไปได้ตัวผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง ชื่อว่า เทพ เทียนชัย นักร้องในห้องอาหารแห่งหนึ่ง เพราะมีรอยข่วนและฟันหน้าหัก แต่เมื่อมาถึงโรงพัก หมวดทวนธนก็สั่งให้ลูกน้องปล่อยตัวเทพ เทียนชัยทันที เพราะ รอยฟันไม่ตรงกับรอยบนตัวศพ นั่นเพราะว่าเทพฟันหักทั้งแถบ

 

ที่มาของภาพ : tnews

 

       หมวดทวนธนลงสืบคดีในพื้นที่ด้วยตัวเองกับลูกน้องอีก 2 คน และต้องการจับผู้ร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะนี่คือคดีดังที่ทุกคนจับตามอง หลังจากจับวัยรุ่นกลางซอยมาเค้นอย่างหนัก จนกลุ่มวัยรุ่นยอมบอกว่า มีจิ๊กโก๋กลางซอยที่ฟันหน้าหักหนึ่งซี่อยู่คนหนึ่ง ชื่อว่า ‘ไอ้หลอ’ จะหาตัวได้ตามลานโบว์ลิ่งและโต๊ะบิลเลียด ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไอ้หลอชอบไปเป็นประจำ

       เมื่อรู้ตัวผู้ต้องสงสัย ตำรวจพิเศษทั้งสามนายก็ออกตามหาทันที โดยไปตามลานโบว์ลิ่งและโต๊ะบิลเลียดตามที่วัยรุ่นบอกกล่าว แต่ก็ไม่พบตัว ผ่านไปสองสามวัน ตำรวจทั้งสามก็ย้อนกลับไปที่โต๊ะบิลเลียดอีกครั้ง ครั้งนี้เจอตัวไอ้หลอและพวก แต่ปรากฏว่าไอ้หลอและพวกไหวตัวทัน จึงรีบหลบหนีออกไป ซึ่งในขณะที่หนีออกไปไอ้หลอและพวกก็ได้จี้รถแท็กซี่คันหนึ่งไปด้วย 

       ตำรวจพิเศษทั้งสามออกตามอย่างกระชั้นชิดและวิทยุแจ้งให้ตำรวจทุกคันที่อยู่ในพื้นที่ปิดกั้นรถแท็กซี่คันดังกล่าว จนสุดท้ายไอ้หลอและพวกก็ไปไม่รอด ถูกจับได้คารถแท็กซี่ที่จี้มา หลังจากที่ถูกจับกุมไอ้หลอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จนกระทั่งหมวดทวนธนทนไม่ไหว จับไอ้หลอพามาที่ห้องเก็บศพและเปิดศพออกมาให้ไอ้หลอดู เมื่อไอ้หลอได้เห็นสภาพศพ ไอ้หลอทนไม่ไหวกับการกดดันของตำรวจจึงได้ทำการรับสารภาพ

       แต่เมื่อกลับมาถึงโรงพักไอ้หลอก็ให้การปฏิเสธอีกครั้ง ทั้งที่คราวนี้มีหลักฐานมัดตัวเต็มที่ ทั้งรอยนิ้วมือบนตั๋วจำนำสิ่งของที่เป็นสมบัติของเตือนใจ และรอยนิ้วมือบนข้าวของเครื่องใช้ของเตือนใจที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ หมวดทวนธนทนกับความยั่วยวนกวนประสาทของไอ้หลอไม่ไหว จึงทำการซ้อมไอ้หลอและบอกว่าเพื่อน ๆ ที่ร่วมมือกับมันยอมรับสารภาพหมดแล้ว ไอ้หลอจึงยอมรับสารภาพในที่สุด!

 

ที่มาของภาพ : thairath

 

       ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยผู้หญิงและเด็กมักจะตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงและอาชญากรรมในสังคม ผู้รู้บางคนได้แสดงความเห็นไว้ว่า การที่จะยุติเรื่องเหล่านี้ได้ นอกจากต้องมีการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมและกระบวนการทางกฎหมาย เช่น เพิ่มโทษแก่ผู้กระทำความผิดเพื่อให้เกิดการเข็ดหลาบหรือเกรงกลัวต่อโทษทัณฑ์ที่จะได้รับนอกจากนี้ ในแง่ของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมเอง ก็มีความสำคัญไม่น้อย เพื่อให้คนเหล่านั้นเกิดความตระหนักและเข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้งถ่องแท้ ควรจัดให้ทั้งตำรวจ แพทย์ พยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ อัยการ และผู้พิพากษา เข้าคอร์สฝึกอบรม เพื่อให้เข้าใจถึงสภาพแวดล้อม ปัญหาการใช้ความรุนแรง และวิธีให้ความยุติธรรมที่เหมาะสมแก่เหยื่อที่ถูกกระทำด้วยความรุนแรงด้วย

       สุดท้ายทุกฝ่ายควรหาทางส่งเสริมให้สถาบันครอบครัวมีความรัก ความอบอุ่น ให้ความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งในครอบครัวโดยไม่ใช้ความรุนแรง ให้สมาชิกในครอบครัวดำรงชีวิตอยู่ในกรอบของหลักศาสนา สิ่งเหล่านี้จะเป็นภูมิคุ้มกันสกัดกั้นมิให้เด็กและสตรีในสังคมไทยต้องกลายเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จบ…

 

ข้อมูลอ้างอิงและรูปภาพประกอบ : คดีฆ่าข่มขืน!!! ‘เตือนใจ พวงนาค’ 40 ปี แห่งความหลังที่สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0