ภาคใต้เริ่มช่วงฤดูมรสุม ภาพที่เห็นเด่นชัดคือขยะพลาสติกที่ถูกซัดขึ้นบริเวณชายหาดโดยเฉพาะที่ทะเลตรังและกระบี่ จนท.บอกว่าขยะเพิ่มขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับอาจารญ์ธรณ์ โพสต์ภาพขยะพลาสติกพร้อมระบุว่าวอลเปเปอร์แห่งความล่มสลายของระบบนิเวศ ของห่วงโซ่อาหาร และของวิถีชีวิตพวกเราทุกคน
วันที่ 17 ก.ย.2562 จากกรณีที่อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับขณะทะเล ระบุข้อความว่า ผมตั้งชื่อภาพนี้ว่าวอลเปเปอร์แห่งความล่มสลายของระบบนิเวศ ของห่วงโซ่อาหาร และของวิถีชีวิตพวกเราทุกคน เป็นภาพที่เกิดจากขยะพลาสติกของมนุษย์ ถูกคลื่นลมกระแทกกระทั้น จนป่นเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อย ลองคิดดูว่า หากเราอยากให้คนอื่นช่วยเก็บ พวกเขาพวกเธอจะเก็บไมโครพลาสติกพวกนี้จากเม็ดทรายได้อย่างไร ?
บางคนอาจถามว่าที่ไหน ? บอกได้ว่าในไทยนี่แหละ ไม่ขอบอกสถานที่เพราะเดี๋ยวพี่ๆ แถวนั้นจะโดนต่อว่า ทั้งที่เขาก็เก็บกันทุกวัน จนใกล้หมดปัญญาแล้ว ผมไม่ต้องการให้เกิดปัญหาต่อคนทำงาน ทั้งหมดที่พยายามบอกให้เพื่อนธรณ์ทราบ คือความจริงจากท้องทะเล เพื่อให้พวกเราช่วยกัน มันเป็นความจริงว่า 2 ปีที่ผ่านมา เราตระหนักและตื่นตัวอย่างมาก แต่มันก็เป็นความจริงอีกเช่นกันว่า ขยะทะเลทำร้ายทะเลไทยแสนสาหัส เราคงต้องพยายามมากกว่านี้ มิฉะนั้น อีกไม่นาน หลายต่อหลายหาดของเราจะเปลี่ยนเป็นสภาพเช่นนี้ ลูกหลานเราจะก่อปราสาทจากเศษพลาสติก แทนที่จะเป็นเม็ดทรายและนั่นคงเป็นความหมายของคำว่า “จบบริบูรณ์”
ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ระดมกำลังลงพื้นที่เก็บขยะบริเวณชายหาดเจ้าไหมถึงหาดฉางหลาง กว่า 1 กิโลเมตร เพื่อรณรงค์เก็บขยะ หลังพบสัตว์ทะเลตายจากขยะพลาสติก รวมทั้งพบไม่โครพลาสติกในสัตว์น้ำจำนวนมาก
นายชุติพงศ์ พลวัฒน์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ระบุว่า แบ่งเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บขยะบนพื้นที่อุทยานเป็น 4 หน่วย หน่วยละ 8-10 คน ใช้เวลาช่วงเช้า ประมาณ 1 ชั่วโมง เก็บขยะที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งมาคัดแยก ซึ่งแต่ละวันมีปริมาณขยะมากถึง 400 กิโลกรัม ซึ่งพบขยะหลายชนิดต้องช่วยกันจัดเก็บขยะทะเลที่ถูกคลื่นลมพัดขึ้นมากองตามซอกหินและชายหาด บริเวณอ่าวนุ้ย หมู่เกาะพีพี เพื่อนำขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง โดยเฉพาะช่วงมรสุมทุกปีจะมีขยะถูกคลื่นพัดขึ้นตามชายหาดและเกาะต่างๆ จำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกปี
