"ก็อต อิทธิพัทธ์" ยอมรับ หล่อขึ้นเพราะผลบุญและมีดหมอ!

"ก็อต อิทธิพัทธ์" เผยพ่อป่วยยังต้องดูแลใกล้ชิด กังวลตลอด ไม่ได้โล่งใจ แม้ไม่ติดเชื้อและหายใจเองได้ บั่นทอนใจแต่ก็โอเค เผยสัญญาค่ายบรอดคาซท์ฯ ยังมีอยู่ ไม่น้อยใจงานน้อย ไม่มีกระแส ก่อนยอมรับตรงๆ แก้ดั้งเสริมหล่อ มั่นใจขึ้น

หลังจากที่คุณพ่อเกิดอาการวูบ และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ทำให้ถึงตอนนี้ยังต้องรักษาตัว ล่าสุด "ก็อต อิทธิพัทธ์ ฐานิตย์" อัปเดตอาการป่วยว่ายังต้องดูแลใกล้ชิด และยังกังวลตลอด ไม่ได้รู้สึกว่าโล่งใจเต็มร้อย แต่ก็ทำทุกวันให้ดีที่สุด

"ก็ดูแลใกล้ชิด แต่ถามว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ก็ยังตอบไม่ได้ ถามว่ารู้สึกตัวไหม เป็นการตอบสนองทางร่างกายมากกว่า แต่เชื่อว่าในอนาคตน่าจะดีขึ้น เรื่องนี้ละเอียดอ่อนก็ค่อยๆ ให้กำลังใจ ดูแลกันไป ก็กังวลตลอด ไม่ได้รู้สึกว่าโล่ง ด้วยความต้องใช้เวลา และทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไปหมด ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ในระยะที่เราโอเค แต่เราก็ทำทุกอย่างให้เต็มที่"

"คุณหมอก็บอกว่าเหมือนเดิม ดีขึ้นทุกครั้งที่เช็กอัพ ไม่ได้ติดเชื้อ หายใจเองได้ มีการกายภาพและดูแลอย่างใกล้ชิด มีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด เราก็ให้กำลังใจคุณแม่ ก็ต้องใช้เวลาหน่อย ช่วงเวลาบั่นทอนต้องมีอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่คุณแม่ แม้แต่ตัวผมเอง เราก็อยากบอกนะว่าเราโอเคแล้ว แต่ถ้าถามตรงๆ ก็ดีขึ้นตามระยะเวลาแต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง"

สัญญากับ "หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธ์" ยังมี ไม่น้อยใจ ถูกป้อนงานน้อย ไม่เป็นกระแส

"สัญญากับพี่หน่อง น่าจะ 5 ปี ก็ยังอยู่ครับ เรื่องผลงานที่ไม่เยอะ ก็มีเรื่อยๆ แต่อาจเป็นผลงานที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นหรือดูกัน เอาจริงๆ ส่วนตัวผมเองทำงานตลอด ปีหน้าช่วงม.ค. ก็จะมีละครเรื่องนึงออนแอร์ ส่วนตัวเราคิดว่าการทำงานของเรา ไม่ได้ดร็อปหรืออะไร ทำงานเรื่อยๆ บางผลงานอาจเป็นกระแส ก็เป็นเรื่องปกติของการทำงาน เรื่องบทที่ได้มาไม่ยาก แต่ทำยังไงให้คนดูชอบ หรือสนใจมันยากกว่า ให้คนพูดถึงมันยากกว่า แต่เราไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว ก็ทำงานไป ใครให้โอกาสเรา เราก็ทำให้ดี เราก็ทำให้เต็มที่"

"ไม่ได้น้อยใจ อาจเป็นเพราะช่วงแรกมีงานตลอด แต่ช่วงหลังๆ หายไปบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ ผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ผู้ใหญ่ก็ป้อนงาน คุยโปรเจกต์กันตลอด แต่ด้วยเวลาไทม์มิ่ง อย่างปีนี้จะหมดปีแล้ว ก็ต้องรอดูปีหน้า ปีหน้ามีละครแน่นอน ช่วงม.ค. แต่ออนช่วงไหนอัปเดตอีกที"

เผยกรณีให้สัมภาษณ์ถูกบูลลี่จนอยากออกจากวงการ แค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่มันผ่านไปแล้ว แค่ได้พูดก็โล่ง

"มันเป็นช่วงที่พอเรามีกระแส มีผลงานเป็นที่พูดถึง ก็จะมีทั้งด้านดีและไม่ดี มีดรามาบ่อยๆ แต่มันก็ผ่านไปนานแล้ว แต่มันยังติดใจเรา ก็อยากพูดเฉยๆ การบูลลี่ติดอยู่ในใจเรา เรามองข้ามก็จริง แต่ก็คิดว่าเราน่าจะพูดนะ เผื่อคนเขาบูลลี่จะได้เลิกทำ ตอนนั้นเกิดเหตุมันลามไปถึงคนในครอบครัว ถึงน้องสาว ถ้าเราทำงานไม่ดีแล้วโดนด่า ก็เข้าใจได้ แต่นี่เราไม่ได้ทำอะไรเลย โดนคุกคาม ลามไปถึงคนในครอบครัว เราก็อยากพูด เหตุเกิดมานานแล้ว เกิดไปนานแล้ว ถ้าพูดมันออกมาจากใจก็จะได้โล่ง"

"ความรู้สึกท้อมีตลอด บางทีทำงานตรงนี้มีเรื่องที่เป็นปัญหาและแก้ไม่ได้ เรื่องชีวิตเราด้วย มันผ่านไปแล้วเราก็ดีขึ้น ตอนนี้สตรองขึ้นเยอะเลย เราทำงานมาเรื่อยๆ เราไม่ได้คาดหวังอะไร อยู่ดีๆ มันขึ้นมาปุ๊บแล้วมีสิ่งที่ตามมาด้วย แต่ไม่มีอะไรแล้วมันผ่านไปแล้ว"

คิดไม่ผิดยังไม่หันหลังให้วงการ เพราะไม่รู้จะทำอะไรกินเหมือนกัน

"ก็คิดถูกนะที่ไม่หันหลังให้วงการไปตอนนั้น เพราะถ้าหันหลังไป ไม่รู้จะทำอะไรกินเหมือนกัน (หัวเราะ) เราแค่รู้สึกว่าหน้างานหลังงานเราทำเต็มที่ แต่ยังมีคนหาข้อตำหนิเราอีก เรารู้สึกไม่เมกเซ้นส์ ก็อยากถอยออกมาเหมือนกัน"

"ส่วนตัวปัญหาผมที่เกิดขึ้น อาจไม่เป็นปัญหาที่คนรู้มากเท่าไหร่ เราเห็นข่าวทำนองนี้เยอะมาก ก็อยากให้กำลังใจคนที่โดน อยากให้มองข้ามไป แต่ทุกคนก็ไม่สมควรโดน ต่อให้ไม่ใช่ดารา นักแสดง คนธรรมดาก็ไม่ควรโดนบูลลี่จากสื่อหรือจากคนที่ไม่รู้จัก ก็อยากฝากถึงคนที่บูลลี่ดารา เขาอยู่ในที่สว่างแต่ก็ไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ ถ้าคุณเก็บกดจากอะไรบางอย่างมา ก็พูดกับคนในครอบครัว คนที่เราไว้ใจ ไม่ใช่มาลงกับดารา เครียดมากเจ้านายด่า เราก็ด่าแม่..เลยล่ะกัน ผมเชื่อว่าคนที่ทำงานตรงนี้เขาอ่านหมด เขาเช็กฟีดแบ็ก พอเห็นก็บั่นทอนใจ การทำงานก็ไม่สมูท เก็บมาคิด เป็นความสะสม แต่ก็ผ่านไปแล้วแหละครับ ที่หนักคือโดนไปถึงครอบครัวตกใจเหมือนกัน"

โมโห ส่งข้อความด่าตนผ่านน้อง แต่ทำอะไรไม่ได้

"น้องสาวมีทวิตเตอร์ก็ส่งข้อความมาด่าผมผ่านน้อง น้องเอาให้ดู เราโมโหมาก แต่เราทำอะไรไม่ได้ เราคิดมาในใจตลอดว่าสักวันพี่ๆ ถามก็อยากจะพูด สิ่งเหล่านี้จะได้ไม่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่อยากให้เขาลงมาอยู่ตรงนี้ ครอบครัวเขาไม่ได้รู้เรื่อง แต่โดนด้วย เราเป็นห่วงเขา ถามว่าเป็นปมในใจไหม ผมพูดแล้วผมหายแล้ว แค่อยากพูด"

เผยแก้ดั้ง บอกขำๆ ผลบุญทำให้หน้าตาชัดขึ้น

"หล่อขึ้น เพิ่งสึกไงครับ ผมยาวแล้ว บุญเยอะ หน้าตาชัดขึ้น ใสขึ้น (หัวเราะ) ไม่มีอะไรหรอกพี่ ก็ไปเสริมหล่อมา พอเราบวชเสร็จก็มีเวลาไปเสริมหล่อ ด้วยหลายๆ อย่าง เราทำงานตรงนี้อีกนาน ไม่อยากเกิดปัญหาในอนาคต เลยรีบแก้ปัญหาซะ มันคือการแก้ไข ก็มั่นใจขึ้น ห่วงเรื่องอนาคตทำงานไปแล้วเกิดหน้าเรามีปัญหา มีเอฟเฟกต์ก็ทำไว้ก่อน"

"ก่อนหน้านี้ไม่มีเวลาทำเพราะงานแน่น ช่วงนี้ละครปิดหมดแล้ว ก็เสริมหล่อมานิดนึง ทำแล้วดีขึ้น พี่ว่าไง โอเคไหม(หัวเราะ) คนรอบข้างก็บอกว่าโอเค ยูควรไปทำตั้งนานแล้ว เป็นช่วงบวชพอดี ก็ไปทำซะให้ดีขึ้น ไม่ได้เน้นโหงวเฮ้ง เน้นความสวยงามมากกว่า จริงๆ ก็กลัว แต่ถามว่าอนาคตจะทำอะไรอีกไหมก็คงไม่ แค่นี้ก็พอแล้วพี่"