โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กูรูเปิดโผหุ้น 7 กลุ่ม"ได้-เสีย" รับ New Normal

efinanceThai

เผยแพร่ 02 มิ.ย. 2563 เวลา 10.36 น.

โบรกเกอร์ เปิดโผหุ้น 7 กลุ่ม ที่ได้รับผลดีจากการเปลี่ยนแปลงสู่ New Normal ของเศรษฐกิจยุคหลังโควิด-19 ชี้มี 20 หุ้นเด่นที่ได้ประโยชน์ ทั้งในแง่การใช้ดิจิทัลและออนไลน์แพลตฟอร์ม การทำงานที่บ้าน และการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น พร้อมแนะเลี่ยงหุ้นกลุ่มนิคม หลังมองต่างชาติอาจดึงฐานผลิตกลับประเทศ

*** เศรษฐกิจหลังโควิด-19 อาจเปลี่ยนสู่ New Normal ถาวร

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ดีบีเอสวิคเคอร์ส (DBSV) เปิดเผยว่าหลังจากการเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในหลายอุตสาหกรรม รวมถึงระบบการทำงาน และพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย ซึ่งพฤติกรรมบางอย่างอาจมีเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร 

อย่างเช่นสัดส่วนการทำงานจากที่บ้าน(Work Frome Home) จะเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับในอดีต, สนใจดูแลสุขภาพและทำประกันสุขภาพและประกันชีวิตมากขึ้น, ใช้ไอที ดิจิตอลแพลทฟอร์มมากขึ้น, ซื้อสินค้าและอาหารผ่านออนไลน์เยอะขึ้น, ประชุมผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก, การเดินทางเกี่ยวกับธุรกิจน้อยลง, หาซื้อที่พักอาศัยนอกเมืองเพื่อตอบรับการทำงานที่บ้านแทนการซื้อคอนโดกลางเมือง เป็นต้น

จึงทำให้หุ้นบางกลุ่มอาจกลายเป็นหุ้นที่เสียประโยชน์ หรือได้ประโยชน์ขึ้นมาในทันทีจากวิถีชีวิตแบบ New Normal

*** เปิด 7 พฤติกรรม New Normal และหุ้นได้-เสียประโยชน์

ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า New Normal จะทำให้ผู้บริโภคเกิดพฤติกรรมใหม่ขึ้นมาทันที และมีหุ้นที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากพฤติกรรมดังนี้

1.พฤติกรรมการใช้ Digital & Online Platform มากขึ้น ทั้งระดับองค์กร และภาคประชาชน (ชีวิตประจำวัน)   

หุ้นได้ประโยชน์ : ADVANC, DTAC, TRUE,DELTA, HANA, DIF, JASIF, HUMAN, VGI (ในส่วนของ Kerry), SCC, UTP

หุ้นที่เสียประโยชน์ : CPN, CPNREIT, BKER, TLGF, FUTUREPF, MJLF, BBL, KTB, KBANK, SCB, TMB 

2.พฤติกรรมเดินทางน้อยลง ทำงานจากบ้าน (WFH) และประชุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น และการจ้างงานลดลง

หุ้นได้ประโยชน์ : ADVANC, DTAC, TRUE, DELTA, HANA, DIF, JASIF   

หุ้นที่เสียประโยชน์ : BOFFICE, CPNCG, CPTGF,   GVREIT, POPF, TPRIME, AOT, AAV, NOK, THAI, BEM, BTS,BTSGIF, TFFIF, ERW, CENTEL,MINT, LHPF, LHHOTEL, QHHR, DREIT

3.พฤติกรรมใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น และลดใช้พลังงานฟอสซิล

หุ้นได้ประโยชน์ : SPCG, EA 

หุ้นที่เสียประโยชน์ : PTTEP, PTT, BANPU, LANNA

4.พฤติกรรมใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV)มากขึ้น ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง

หุ้นได้ประโยชน์ : DELTA, KCE, EA

หุ้นที่เสียประโยชน์ : LHK (ชิ้นส่วนที่จะหายไป คือ เครื่องยนต์,ตลับลูกปืน, เกียร์, ท่อไอเสีย, หม้อน้ำ,ถังน้ำมัน, ชิ้นส่วนระบบส่งกำลัง,เพลา, ลูกสูบ และเทอร์โบ เป็นต้น)

5.พฤติกรรมหันมาทำประกันชีวิตและสุขภาพมากขึ้น  

หุ้นได้ประโยชน์ : BLA, TIP, AYUD, SMK เป็นต้น

6.สังคมสูงวัยขยายตัวใหญ่ขึ้น  (เกิดขึ้นอยู่แล้วแม้ไม่มีโควิด-19)

หุ้นได้ประโยชน์ : BDMS, BH, CHG, RJH, BCH,  RPH เป็นต้น

7.พฤติกรรมเลือกซื้อที่พักอาศัยแนวราบนอกเมืองที่พร้อมด้วย Digital Facilities มากขึ้น

หุ้นได้ประโยชน์ : AP, LH, QH, SPALI, SC เป็นต้น

หุ้นที่เสียประโยชน์ : ANAN, ORI, LPN เป็นต้น (ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์ธุรกิจ)

*** เตือน! เลี่ยงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม

ขณะที่โควิด-19 ลุกลามจนรัฐบาลแต่ละประเทศออกมาตรการล็อกดาวน์(Lockdown)ทำให้ห่วงโซ่อุปทาน(Supply Chain)ทั่วโลก เกิดปัญหาการ ดังนั้นจึงมองว่าจะเกิดการดึงฐานการผลิตกลับประเทศ  เพื่อลดการพึ่งพาภายนอกลง

คาดบริษัทที่จะเสียประโยชน์จากประเด็นนี้ ได้แก่  AMATA, WHA, AMATAR, HREIT, FTREIT, WHART

*** แจกหุ้นเด่นรับ New Normal

หากมองเป็นรายกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จาก New Normal แนะนำเลือกซื้อลงทุนในกลุ่มและหุ้นเด่นในธีม New Normal ดังนี้

1) กลุ่มไอซีที & ดิจิตอล หุ้นเด่นเป็น ADVANC, DELTA, HANA, DIF

2) กลุ่มโลจิสติกส์ & ดิจิตอลมีเดีย หุ้นเด่นเป็น JWD, VGI

3) กลุ่มที่พักอาศัยแนวทาง & ทาวน์โฮม หุ้นเด่นเป็น AP, LH, SC, SPALI

4) กลุ่มโรงพยาบาล หุ้นเด่นเป็น BDMS, BCH, CHG

5) กลุ่มพลังงานทางเลือก หุ้นเด่นเป็น EA, GPSC

6) กลุ่มท่องเที่ยวและอาหาร หุ้นเด่นเป็น AOT, CPF, GFPT

7) กลุ่ม REITS หุ้นเด่นเป็น AIMIRT, HREIT

*** ยักษ์ใหญ่แห่ปรับ รับ New Normal

จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง กำลังให้ความสำคัญกับการปรับธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับ New Normal นำโดย บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM กล่าวว่า โควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้ทุกธุรกิจต้องทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ โดยในส่วนของ TQM ได้เร่งปรับแผนพัฒนางานขายและงานบริการใหม่

ขณะที่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM นายสมบุญ เรืองสุรเกียรติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ BAM ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของโลก สู่วิถีการใช้ชีวิตในสังคมแบบใหม่ (New Normal)

BAM เองได้มีการปรับกลยุทธ์ในการส่งเสริมการขาย และสื่อสารการตลาดผ่าน Online Platform ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการเปิด Social Media ของ BAM ทั้ง Facebook, Line, Youtube และ Instagram และล่าสุดได้ร่วมมือกับ Shopee ผ่านช่องทางออนไลน์ นำทรัพย์ออกขายมูลค่า 4 พันล้านบาท ตั้งเป้าทำยอดขาย 1 พันล้านบาท เล็งลุยทำแพลตฟอร์มเอง ด้วยงบลงทุน 300 ล้านบาท คาดเปิดบริการต้นปีหน้า

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0