คุณบุญส่วน แก้วไพฑูรย์ เจ้าของไร่มะม่วงสวนอุดม บ้านสว่างพัฒนา ม.4 ต.หนองแซง อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น นอกจากจะเป็นต้นแบบของเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออกในจังหวัดขอนแก่นแล้ว ยังได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการเกษตรที่ดีที่เหมาะสม(GAP)ดีเด่น โดยคุณบุญส่วนได้ให้คำแนะนำถึงวิธีการขยายพันธุ์มะม่วงแบบทาบกิ่งและวิธีการเสริมรากเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับต้นมะม่วง ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก
ลักษณะของการทาบกิ่งมะม่วง
คุณบุญส่วน เล่าให้ฟังว่า การทาบกิ่งมะม่วง เป็นวิธีการขยายพันธุ์มะม่วงที่กำลังเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน นอกจากจะได้ต้นพันธุ์มะม่วงตามที่ต้องการแล้ว มะม่วงจะไม่กลายพันธุ์ และให้ผลผลิตได้เร็วกว่าวิธีการเพาะเมล็ด แต่วิธีการทาบกิ่งจะได้ต้นพันธุ์มะม่วงที่ไม่มีรากแก้ว แต่คุณบุญส่วนจะใช้ต้นตอของมะม่วงป่าหรือมะม่วงกะล่อนที่ได้จากการเพาะเมล็ดมาเสริมรากทดแทนกิ่งพันธุ์ที่ผ่านการทาบกิ่งมาแล้ว เนื่องจากมะม่วงป่าและมะม่วงกะล่อน เป็นมะม่วงสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม มีความต้านทานต่อโรคสูง หาอาหารได้เก่ง และมีอายุยืนยาว
คุณบุญส่วน จึงนำเอาต้นตอของมะม่วงป่าหรือมะม่วงกะล่อนมาช่วยเสริมรากแก้วให้กับมะม่วงพันธุ์ดีที่ผ่านการทาบกิ่งมาแล้วเพื่อเป็นตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับต้นมะม่วง ช่วยให้มะม่วงหาอาหารได้มากขึ้น ส่งผลให้มะม่วงติดผลดก ให้ผลผลิตสูง ดังนี้
ขั้นตอนการเตรียมต้นตอมะม่วงที่จะนำไปทาบกิ่งกับมะม่วงพันธุ์ดี :
- นำเอาผลของมะม่วงแก้วสุกที่ปอกเปลือกแล้วมาขูดเอาเนื้อของมะม่วงออกให้เหลือไว้เฉพาะเปลือกหุ้มเมล็ด ก่อนนำไปตากแดดให้แห้ง
- ใช้กรรไกรหรือมีดแกะเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออกให้เหลือเฉพาะเมล็ดด้านในแล้วนำไปเพาะในถุงเพาะต้นกล้า โดยใช้ดิน 1 ส่วน ผสมกับ ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน และแกลบดำ 1 ส่วน
- กลบดินให้มิดเมล็ดแล้วทำการรดน้ำ เช้า-เย็น ใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 เดือน จะได้ต้นตอมะม่วงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 ซม. ที่พร้อมจะนำไปทาบกับกิ่งของมะม่วงพันธุ์ดี
ขั้นตอนการทาบกิ่งมะม่วง : - นำเอาต้นตอของมะม่วงแก้วที่เพาะเมล็ดแล้ว 1-2 เดือน หรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 ซม.มาตัดรากและใบออกให้หมด เหลือไว้แค่ลำต้น ความยาวประมาณ 25-30 ซม. โดยนำส่วนที่เป็นรากไปใส่ในถุงพลาสติกใสที่มีขุยมะพร้าวใส่ตรียมไว้ แล้วใช้เชือกมัดเป็นตุ้มเช่นเดียวกับวิธีการตอนกิ่ง
- เมื่อเตรียมต้นตอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คัดเลือกกิ่งของมะม่วงพันธุ์ดีที่ต้องการให้มีขนาดใกล้เคียงกันกับขนาดของต้นตอ
- ใช้มีดกรีดเปลือกของมะม่วงกิ่งพันธุ์ที่ต้องการทาบให้มีความยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ขนาดความกว้างของแผลให้ได้ใกล้เคียงกับขนาดของต้นตอ
- ใช้มีดปาดแผลกิ่งของต้นตอมะม่วงที่เตรียมไว้ให้มีขนาดเท่ากับแผลของกิ่งพันธุ์ที่จะนำไปทาบแล้วนำไปประกบกัน โดยใช้พลาสติกใสมัดบริเวณรอบๆแผลให้มิดชิดและแน่นหนาไม่ให้อากาศและน้ำจากภายนอกเข้าไปได้
- ใช้เชือกมัดตุ้มที่มีขุยมะพร้าวให้ติดกับลำต้นหรือกิ่งของมะม่วงที่นำไปทาบเพื่อไม่ให้ตุ้มขยับเขยื้อน แล้วปล่อยทิ้งไว้ 1 เดือน จะสังเกตเห็นรากมะม่วงงอกอยู่ในถุง แล้วตัดเอากิ่งของมะม่วงที่นำต้นตอไปทาบ เพื่อนำไปเพาะชำในถุงต่อไป
การเสริมรากแก้วให้กับมะม่วงพันธุ์ดีที่ได้จากการทาบกิ่ง : ก่อนอื่นให้นำมะม่วงที่ได้จากการทาบกิ่งมาทำการเพาะชำไว้ในถุงไปพร้อมกับการเพาะเมล็ดของมะม่วงป่าหรือมะม่วงกะล่อนไว้ในถุงเพาะชำเดียวกัน และรดน้ำตามปกติ จนกระทั่งมะม่วงป่าหรือมะม่วงกะล่อนเจริญเติบโตและมีขนาดของลำต้นใกล้เคียงกันกับต้นมะม่วงที่ได้จากการทาบแล้ว ให้ตัดปลายของมะม่วงป่าหรือมะม่วงกะล่อนแล้วโน้มไปทาบกับกิ่งของมะม่วงพันธุ์ดีที่ทาบมาแล้ว โดยใช้วิธีเช่นเดียวกันกับการทาบกิ่งมะม่วง จากนั้นให้พันด้วยพลาสติกหุ้มรอยแผลให้แน่น ทำการบำรุงรักษาต้นมะม่วงตามปกติ
การเสริมรากทำให้มะม่วงหาอาหารได้เยอะขึ้น
ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เมื่อแผลของมะม่วงป่าหรือมะม่วงกะล่อนติดกันกับมะม่วงทาบกิ่งจนสนิทดีแล้วจึงเอาพลาสติกหุ้มแผลออก จะทำให้มะม่วงที่อยู่ในถุงเพาะชำมีรากแก้วเพิ่มขึ้น ก่อนนำมะม่วงไปปลูกลงหลุมต่อไป ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับต้นมะม่วงพันธุ์ดีที่ได้จากการทาบกิ่ง มะม่วงจะสามารถหาอาหารได้เพิ่มมากขึ้น มะม่วงติดผลดก ให้ผลผลิตสูง และต้านทานโรคได้ดี