เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการคลี่คลายปมสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลมูลค่า 30 ล้านบาท ว่า ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคณะทำงานไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่ได้เร่งดำเนินการในการตรวจสอบวัตถุพยาน และการสอบสวนพยานปากต่างๆอย่างรัดกุมที่สุด ไม่ได้มีการดึงเวลาหรือยื้อคดีให้เกิดความล่าช้า แต่ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหา เพราะมีวัตถุพยานเป็นคลิปเสียงจำนวนประมาณ 6-7 คลิป ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) สามารถกู้ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีมาได้
ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าคลิปเสียงดังกล่าวจะไม่มีน้ำหนักในชั้นศาลได้ จึงส่งคลิปเสียงทั้งหมดให้กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เทียบเคียงเสียงบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันว่าเสียงที่ปรากฏเป็นของบุคคลที่ถูกอ้างถึงจริง
อีกส่วนที่มีความสำคัญคือ ต้องตรวจสอบให้ได้ว่าคลิปเสียงทั้งหมดไม่มีการตัดต่อหรือดัดแปลงภายหลังจากกู้มาจากโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวทางกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่ตรวจสอบแล้วเสร็จได้ เพราะขั้นตอนดังกล่าวเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ให้เกิดข้อบกพร่องหรือข้อโต้แย้งจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายและใช้ดำเนินคดีออกหมายจับได้
พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวต่อว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. แต่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนไปแล้ว และหลังจากนี้จะต้องมีการเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพยานปากใหม่ที่ยังไม่เคยถูกระบุชื่อลงในสำนวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) อีก 2 ปาก ส่วนรายละเอียดของพยานบุคคลทั้งสองขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อีกหลายส่วนที่ยังต้องรอผลการสรุป เพื่อนำมาใช้พิสูจน์คำให้การของพยานและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่า ใครพูดไม่ตรงกับความเป็นจริงตามลำดับเหตุการณ์ ทั้งนี้ไม่อยากให้ผู้ที่ติดตามข่าวหรือติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะมีความจำเป็นต้องสืบหาข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อไม่เกิดข้อโต้แย้งในภายหลังจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนของกองปราบฯเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเจ้าของหวยรางวัลที่หนึ่ง 30 ล้านบาทตัวจริง คือ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ ไม่ใช่ นายปรีชาใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามฯจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 2 คน และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 1 นาย
----------//-------------
