โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

กลุ่มไลน์ กรุ๊ปไลน์ ผู้ปกครอง กลายเป็นดาบสองคม

Motherhood.co.th

เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 10.30 น. • Motherhood.co.th Blog
กลุ่มไลน์ กรุ๊ปไลน์ ผู้ปกครอง กลายเป็นดาบสองคม

กลุ่มไลน์ กรุ๊ปไลน์ ผู้ปกครอง กลายเป็นดาบสองคม

สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก หลายๆโรงเรียนจึงนิยมสร้าง "กลุ่มไลน์" ไว้สำหรับให้ผู้ปกครองของนักเรียนแต่ละห้องแต่ละชั้นได้มีโอกาสคุยกับคุณครูประจำชั้นของลูก เจตนาของทางโรงเรียนก็คงมีเพื่อให้คุณครูได้สื่อสารกับผู้ปกครองมากกว่าที่เคย ให้คุณพ่อคุณแม่ของเด็กๆได้มีโอกาสปรึกษากับครูได้โดยตรง รวมทั้งแลกเปลี่ยนความเห็นหรือให้ความช่วยเหลือกันระหว่างผู้ปกครอง แต่กลับกลายเป็นว่ากรุ๊ปไลน์ผู้ปกครองนี้เป็นแหล่งรวมดราม่าชั้นดี ที่มีให้เห็นบ่อยๆตามโซเชียล ผู้ปกครองทะเลาะกันเองเรื่องลูก อวดข่มกัน เททับกันบ้าง ผู้ปกครองบางคนที่ลูกไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษเลยชอบอยู่เงียบๆในกลุ่มไลน์ผู้ปกครอง ทำตัวอ่านแต่ไม่ตอบ เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันสินะคะ แต่จะออกมาก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะพลาดข่าวสารจากคุณครู พาให้คิดว่ากลุ่มไลน์ผู้ปกครองเหมือนดาบสองคมยังไงยังงั้นเลย

ในหลายๆครั้งกรุ๊ปไลน์ก็กลายเป็นที่ถามการบ้านประจำวัน
ในหลายๆครั้งกรุ๊ปไลน์ก็กลายเป็นที่ถามการบ้านประจำวัน

ไลน์กรุ๊ปผู้ปกครอง ใช้ยังไงให้มีประโยชน์

  • ใช้กรุ๊ปไลน์ให้ตรงตามจุดประสงค์ที่ทางโรงเรียนตั้งขึ้นมา เชื่อได้แน่นอนว่าทางโรงเรียนตั้งใจจะให้กรุ๊ปไลน์เป็นพื้นที่ที่ให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ได้ติดตามการเรียนและกิจกรรมของลูกๆ เพราะผู้ปกครองของเด็กแต่ละคนอาจจะได้รับข้อมูลมาไม่ทั่วถึง การได้มีกลุ่มผู้ปกครองไว้แลกเปลี่ยนและช่วยกันอัพเดทความคืบหน้าของเรื่องเรียนและกิจกรรมต่างๆที่ลูกต้องทำ ก็เท่ากับเป็นการเตรียมพร้อมให้ลูกในอีกทางหนึ่ง
  • เนื้อหาการคุยควรโฟกัสไปที่การให้คำแนะนำกันและการ การให้ความช่วยเหลือ การแลกเปลี่ยนเคล็ดลับและวิธีการเรียนรู้ของลูก หรือช่วยกันหาทางแก้ปัญหาบางอย่างที่ลูกของสมาชิกกลุ่มคนใดคนหนึ่งกำลังเผชิญ ในกรุ๊ปไลน์ไม่ควรเป็นพื้นที่ของการคุยโม้โอ้อวด พูดจาเกทับกัน หรือพูดจาว่าร้ายคุณครูแบบเสียๆหายๆถ้าในกรุ๊ปนั้นไม่ได้มีครูอยู่ด้วย มีแต่ผู้ปกครองกันเองที่ก่อตั้งกรุ๊ปขึ้นมา แม้แต่การนำสินค้าและบริการที่ไม่เกี่ยวข้องมาประชาสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์ของตนเองก็ไม่ควรให้มีขึ้น
  • ใช้กรุ๊ปไลน์เพื่อนัดหมายรวมตัวกันไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนและพัฒนาการของลูก ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มกันไปติวหนังสือ จับกลุ่มไปทัศนศึกษา หรือทำกิจกรรมนอกหลักสูตรต่างๆ ทำให้ทั้งเด็กเองและตัวผู้ปกครองได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น เด็กๆก็ได้เรียนรู้ที่จะเข้าสังคมแบบนอกห้องเรียน ฝ่ายคุณพ่อคุณแม่เองก็จะได้เห็นหน้าค่าตากัน ดีกว่าพิมพ์คุยกันแต่ในแอพฯอย่างเดียว
  • หากว่ากรุ๊ปไลน์นี้เป็นการจัดตั้งกันเองในหมู่ผู้ปกครอง ก็ควรจะมีกติกาในการใช้งานร่วมกันให้แน่ชัด เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งและมีปัญหากัน

 สิ่งที่ไม่ควรทำในกรุ๊ปไลน์ผู้ปกครอง

  • การคุยเกทับกันเรื่องการเรียนพิเศษ เรียนเสริม รวมทั้งการโพสต์ภาพเพื่ออวดผลการเรียนลูกหรือรางวัลอื่นๆที่เด็กได้รับมา เพราะการสร้างบรรยากาศแห่งการโอ้อวด แข่งขัน และกดดัน เป็นสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีสำหรับเด็กๆ คนเป็นพ่อแม่ควรต้องยอมรับความสามารถที่แตกต่างและหลากหลายของเด็ก
  • ไม่ควรใช้กรุ๊ปไลน์เป็นที่รายงานพฤติกรรมของลูกคนอื่น เพราะถือเป็นการประจานและตัดสินเด็ก หากคิดว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหาจริงๆควรแจ้งกับทางโรงเรียนโดยตรงจะดีกว่า หรือถ้าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัว ก็ควรทักหาผู้ปกครองคนนั้นไปคุยเอง ไม่สมควรคุยในกรุ๊ปใหญ่
  • หากลูกมีปัญหากับเพื่อนๆ ลองให้ลูกได้จัดการเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเองก่อน การที่คุณพ่อคุณแม่รีบมาเคลียร์ในกรุ๊ปไลน์ทันทีอาจทำให้บานปลายได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวลูกว่าเด็กก็มีวิธีจัดการกับปัญหาในแบบของพวกเขา
  • ไม่ควรให้ช่องทางนี้กลายเป็นช่องทางหลักในการสอบถามหรือตามงานในความรับผิดชอบของลูก ต้องให้ลูกรู้จักรับผิดชอบงานของตนเอง จดรายละเอียดของการบ้านและงานที่จะต้องทำมาเอง ไม่ใช่จะหวังพึ่งแต่การไลป็นน์ถามผู้ปกครองท่านอื่นๆ
  • เมื่อเกิดดราม่าขึ้นมาในกรุ๊ป ไม่ควรแคพภาพการแชทและไปเผยแพร่ข้างนอก โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้เป็นคู่กรณีกันเสียเอง เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้ดูไม่มีวุฒิภาวะ
  • ไม่แชร์ลิงก์หรือข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกกับเรื่องการเรียนหรือการดูแลลูกเข้ามาในกรุ๊ป โดยเฉพาะข้อมูลที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ้อเท็จจริง
หากเกิดดราม่าในกรุ๊ปไลน์ผู้ปกครอง ต้องรู้จัดวางตัวให้เหมาะสม
หากเกิดดราม่าในกรุ๊ปไลน์ผู้ปกครอง ต้องรู้จัดวางตัวให้เหมาะสม

จัดการอย่างไรกับดราม่าในกรุ๊ปไลน์ผู้ปกครอง

  • หากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เป็นคู่กรณีกันเอง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นดราม่านั้น ก็ทำตัวเฉยๆไปซะ ไม่ต้องแสดงความเห็นใดๆทั้งภายในกรุ๊ปหรือส่งหาใครเป็นการส่วนตัว ไม่ว่าจะส่งหาคนที่เป็นคู่กรณีหรือส่งหาไทยมุงคนอื่นๆก็ตาม
  • หากทางเราเป็นคู่กรณีเสียเอง ไม่ควรคุยกันในกรุ๊ป รอให้อารมณ์เย็นลงเสียก่อน แล้วจึงค่อยคุยกันเป็นการส่วนตัว และหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน ไม่ใช่หาข้อสรุปว่าฝ่ายไหนเป็นคนผิด
  • ถ้าไม่สามารถทนกับบรรยากาศดราม่าเดือดๆได้ ก็สามารถออกมาจากกรุ๊ปได้ แต่ควรทิ้งข้อความในการขอออกจากกรุ๊ปอย่างสุภาพไว้สักหน่อยก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เข้าใจผิดกันว่าจะไม่ติดต่อกันแล้ว เพราะยังสามารถพบปะกันที่โรงเรียนลูกได้อยู่

การจะใช้กรุ๊ปไลน์อย่างเป็นประโยชน์ก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำใจให้กว้าง เพราะพ่อแม่ของเด็กๆแต่ละคนก็มีวิธีคิดและรูปแบบการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน และเราไม่สามารถเห็นสีหน้าหรือน้ำเสียงผ่านการอ่านข้อความได้ ดังนั้น การทะเลาะกันในกรุ๊ปไลน์จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติ คุณพ่อคุณแม่ควรโฟกัสไปที่การใช้กลุ่มไลน์เป็นเครื่องมือช่วยเหลือกันและกัน เพื่อให้ลูกๆประสบความสำเร็จจะดีกว่า

 

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0