หลังลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา“กรณ์ จาติกวณิช” เดินหน้านับหนึ่ง ประกาศจับมือกับ“อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งยื่นใบลาออกมาจากพรรคในวันถัดมา เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งมีสถานที่บัญชาการตั้งอยู่ย่านห้าแยกลาดพร้าว
แม้การประกาศจัดตั้งพรรคของ“กรณ์” เพิ่งจะเริ่มขึ้น 2 วันหลังประกาศลาออกจากพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม แต่“กรณ์” ยืนยันจะตั้งพรรคการ เมืองให้เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ดึงผู้บริหารธุรกิจสตาร์ตอัพ ฟินเทค ผู้นำธุรกิจในแต่ละสาย รวมถึงแกนนำชุมชนที่ต้องการทำงานเพื่อชุมชน ให้เข้าร่วมงาน
แนวทางของพรรคใหม่
อดีตขุนคลัง“กรณ์ จาติกวณิช” เปิดใจในรายการ“คมชัดลึก” ซึ่งออกอากาศทาง เนชั่นทีวี ช่อง 22 ถึงแนวคิดในการจัดตั้งพรรคใหม่ว่า ต้องการให้มีการรวมพลของคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่มีความมั่นใจ และคนที่รู้จริง ที่ต้องการทำให้บ้านเมืองมีความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ เช่น ด้านเทคโนโลยี การเตรียมพร้อมสู่โลกดิจิทัลรวมทั้งมีความตั้งใจที่จะยกระดับการเกษตรของไทย ต้องการให้เห็นความเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ทุกกระบวนการต้องอาศัยคนที่มีความมุ่งมั่น ต้องการคนที่มีความรู้ ต้องการทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ถ้ามี 100 คน อยากได้ 80 คนที่“มีของ” เป็นคนกล้าคิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจ กล้าทำ ทำเร็ว และกล้าที่จะเรียนรู้เร็ว และกล้าชนกับผู้ที่มีผลประโยชน์ คนเหล่านี้อยากให้มาอยู่ด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาประชาชน
ส่วนเรื่องเงินของพรรคก็ต้องหา ต้องระดม เป็นความจริงที่จะปฏิเสธไม่ได้ แต่เรามีวิธีการทำพรรคการเมืองโดยไม่ต้องใช้เงินมากเกินไป
“ชีวิตหนึ่งมีโอกาสไม่เยอะที่จะตั้งพรรคการเมือง โดยเจตนาในการตั้งพรรคจะอาศัยประสบการณ์ของผมและคุณอรรถวิชช์ เป็นจุดเริ่มต้นในการวางกรอบจัดตั้งพรรค แต่ทำแง่ของผู้ขับเคลื่อนผู้กำหนดนโยบาย ผู้ที่จะเป็นตัวเล่น และตัวละคร
ไม่จำกัดว่าต้องเป็นนักการเมือง สัดส่วนของผู้สมัครในอนาคตไม่ควรมีอดีตส.ส.มาก เกินไป แต่อยากให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถมีความตั้งใจที่จะทำงาน ผู้ที่เห็นความจำเป็นที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ”
หวังเกิดการเปลี่ยนแปลง
นายกรณ์ ยํ้าว่า เมื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จึงออกมาขับเคลื่อนข้างนอกพรรคด้วยตัวเอง ซึ่งพรรคที่จะตั้งขึ้นจะค่อยๆ ขยายฐานผู้ร่วมกระบวนการให้ไปสู่วงกว้างมากขึ้น ตั้งใจที่จะให้มีคนที่ประสบความสำเร็จด้านใดด้านหนึ่ง มีความคิดความตั้งใจที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้บ้านเมือง
“ต้องการให้เห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตการขาย ที่ต้องอาศัยคนที่มีความตั้งใจมุ่งมั่น ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการเกษตรของไทย เพื่อทำให้อุตสาหกรรม การเกษตรที่เป็นเกษตรกรไทย ได้เปลี่ยนแปลงมากขึ้น ไม่ต้องการตั้งพรรคการเมืองเพื่อหวังอยู่ขั้วใดขั้วหนึ่งทางการเมือง แต่ต้องการขับเคลื่อนนโยบายให้ไปสู่การปฏิบัติมากที่สุด” นายกรณ์ ระบุ
วาง“ธรรศพลฐ์”นั่งเลขาฯ
ต้องขอบอกว่าพรรคใหม่ที่“กรณ์” กำลังดำเนินการจัดตั้งขึ้น ไม่ธรรมดา เพราะมีชื่อ“โจ-ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์” ผู้บุกเบิกสายการบินต้นทุนตํ่า“ไทยแอร์เอเชีย” และนั่งเก้าอี้ซีอีโอ บริหารสายการบิน และเป็นธุรกิจการบินที่มีมูลค่ามหาศาล จะมานั่งเป็น“เลขาธิการพรรค” ซึ่ง“กรณ์” ยอมรับว่า รู้จักกับ“โจ” มานานกว่า 10 ปี เป็นนักธุรกิจที่ต้องการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ เป็น 1 ใน 10 นักธุรกิจที่สนับสนุนความเห็นในการตั้งพรรคเพื่อนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศมาตลอด
“ธรรศพลฐ์” เป็นบุตรบุญธรรมชาวฝรั่ง บิดาเป็นช่างทำรถ คุณแม่เป็นแม่บ้าน เป็นครอบครัวชาวบ้านธรรมดา จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอแบค) คว้าปริญญาโท สาขาการตลาด จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สร้างชื่อในฐานะผู้บุกเบิกสายการบิน“ไทยแอร์เอเชีย” สายการบินราคาประหยัดของประเทศจนขึ้นแท่นสายการบินต้น ทุนตํ่าเบอร์ 1 ของไทย และมีประสบการณ์การทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง บริษัท อาดัมส์(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มอนซานโต้ไทยแลนด์ฯ ทำงานเกี่ยวกับการตลาด และโฆษณา รวมถึงบริษัทวอร์เนอร์มิวสิก(ประเทศไทย) จำกัด
ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์
“ธรรศพลฐ์” เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มามากมาย อาทิ เป็นกรรมการ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น, กรรมการ บจ.ไทยแอร์เอเชีย, กรรมการ บจ.ทรู มันนี่, กรรมการ บจ.เร้ด เอวิเอชั่น, กรรมการ บจ.วันเดอร์เฮลธ์, กรรมการ บจ.บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์, กรรมการ บจ.คำภีร์ คอร์ปอเรชั่น, กรรมการ บจ.คำภีร์ ลอจิสติกส์, กรรมการ บจ.เสือดำ คอร์ปอเรชั่น, กรรมการ บมจ.ทูนประกันภัย, กรรมการ บจ.ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, ปัจจุบัน กรรมการ บจ.ไอวอรี่ คอฟฟี่และกรรมการ บจ.เอฟเวอร์มอร์ แอสเซท ทั้งยังนั่งเป็น ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น รวมถึงเป็น ประธานกรรมการบริหารและกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน บจ.ไทยแอร์เอเชีย เป็นต้น
ดึงพ.ต.อ.ณรัชต์ร่วมงาน
อีกคน“พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์” หรือ ดร.เอ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สามีของ“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ลํ่าซํา อดีตผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน) และอีกหลายบริษัท ที่ถูกทาบทามให้เข้ามาร่วมงานการเมืองกับพรรคใหม่ หลังเกษียณอายุราชการ
ในเร็วๆ นี้ ต้องจับตาพรรคใหม่ รวมพล“คนมีของ” ภายใต้การนำของ“กรณ์ จาติกวณิช” จะสวยหรูอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,541 วันที่ 19-22 มกราคม 2563
