"จตุพร" ขนแกนนำเสื้อแดงแห่ให้กำลังใจ "กี้" ถึงเรือนจำพิเศษหนองปลาไหล ที่โดนคุก 4 ปี พร้อมเผยต่อสู้มานับ 10 ปี รู้ชะตากรรมดีมีแค่ 2 ทางออก คือ "ไม่ตายก็ติดคุก" เท่านั้น…
จากกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีกลุ่ม นปช. ที่มี นายอริสมันต์ หรือกี้ พงษ์เรืองรอง จำเลยที่ 1 กับแกนนำกลุ่ม นปช.พัทยา อีกจำนวน 12 คน (จำเลยที่ 2-13) เป็นแกนนำ พามวลชนบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2552 ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคือจำคุก นายอริสมันต์ กับพวก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญาและไม่อนุญาตให้ประกันตัว ก่อนนำส่งไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษหนองปลาไหล ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมานั้น
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 มี.ค.60 ที่เรือนจำพิเศษหนองปลาไหล นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. พร้อมด้วย นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงและญาติจำนวนกว่า 50 คน เดินทางไปยื่นขอความจำนงเข้าเยี่ยม นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง พร้อมพวกที่ถูกควบคุมตัว โดยทางเรือนจำได้อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ตามสิทธิเป็นเวลาประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะพากันออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการให้กำลังใจ "อริสมันต์" พร้อมพวกหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุก 4 ปี ซึ่งจากการสนทนาพบว่าทุกคนเข้มแข็ง และมีกำลังใจที่ดีไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีดังกล่าวคงจะไม่ขอกล่าวอะไรมาก เพราะคงต้องปล่อยให้เรื่องของตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทุกคนก็เข้าใจเป็นอย่างดี แต่ที่ผ่านมาก็เห็นว่าทุกคนให้ความร่วมมือมาตลอดตั้งแต่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ โดยที่ไม่คิดจะหลบหนีหรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ซึ่งจากนี้ก็คงจะต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายประกันและทนายความของกลุ่มในการเดินเรื่องเพื่อขอประกันตัวตามสิทธิของผู้ต้องหา ส่วนจะได้หรือไม่นั้นก็คงต้องรอความเมตตาจากศาลฎีกาว่า จะพิจารณาอย่างไร ซึ่งคงจะทราบผลภายในวันนี้ สำหรับตนเองในฐานะที่ได้ร่วมกับกลุ่ม นปช.ที่ได้ต่อสู้งานทางด้านการเมืองมานับ 10 ปี ก็คงบอกได้แต่เพียงว่ารับรู้ชะตากรรมเป็นอย่างดีว่าสุดท้ายแล้วทางออกคงมีแค่ 2 ทางเท่านั้นคือ "ไม่ตายก็ติดคุก”.
