นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า จากการสำรวจเม็ดเงินโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ปรากฏว่าเป็นตัวเลขที่ติดลบไปถึง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 เนื่องจากความมั่นใจเรื่องภาวะเศรษฐกิจของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ชะลอการจับจ่ายใช้สอย กลายเป็นแรงกดดันให้ผู้ประกอบการหลายๆบริษัท ตัดงบโฆษณาลง เพื่อประหยัดรายจ่าย ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีผู้ประกอบการบางส่วนนำเงินที่เตรียมไว้ใช้ซื้อสื่อโฆษณา ไปทดลองใช้ในสื่อโฆษณาประเภทใหม่ๆ เช่น สื่อออนไลน์ เฟซบุ๊ก ไลน์ เนื่องจากสื่อเหล่านี้เข้าถึงประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศไทย
“ผมมองว่า 6 เดือนหลังของปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย อาจเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้อัตราการใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะไม่เติบโตจากปี 2558 มากนัก แม้ว่าไตรมาส 3 ของปีนี้ จะมีเทศกาลฟุตบอลยูโรมาช่วยกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มากนัก เพราะยังมีแรงกดดันเรื่องเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมาเป็นปัจจัยกดดันอยู่”
สำหรับช่องทีวีดิจิตอลที่คาดว่าจะมีรายได้ดีที่สุดในขณะนี้ คือ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพราะเรตติ้งเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือน มิ.ย. ปรากฏว่า เรตติ้งขึ้นมาอยู่ที่ 0.85 จากสิ้นปี 2558 ที่อยู่ที่ 0.59
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า คาดว่าครึ่งปีหลังของปีนี้ ยอดค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อโฆษณา จะดีขึ้นและตลอดทั้งปี ยอดค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น 0-3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่หากตัวเลขค่าใช้จ่ายโฆษณาในเดือน ก.ค.นี้ ยังไม่ฟื้นตัวขึ้นชัดเจน ก็คาดว่าตลอดทั้งปีนี้ ยอดค่าใช้จ่ายโฆษณาจะเติบโตติดลบ 3-8%.