โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

โพยหุ้น เปิดเหตุผลทำไม! ต้องสะสมหุ้นยั่งยืนพื้นฐานดี

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 10.32 น. • เผยแพร่ 27 ธ.ค. 2564 เวลา 01.41 น. • This’s Alano

การหาหุ้นสักตัวเข้ามาในพอร์ตแต่ละที เราต้องประเมินให้รอบด้าน เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกลับเข้ามา ดังนั้นโพยหุ้นครั้งนี้เราจะพานักลงทุนมาหาคำตอบไปด้วยกันว่าธีมการลงทุนปี 65 ทำไมต้องทยอยสะสมหุ้นยั่งยืนพื้นฐานดี และจะมีหุ้นอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบมาให้นักลงทุนแล้ว
สะท้อนจากมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ได้ออกมาระบุว่า ปี 2565แนะนำทยอยสะสมหุ้นยั่งยืนพื้นฐานดี โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นปีที่สภาพคล่องส่วนเกินล้นระบบ จากดอกเบี้ยที่ยืนอยู่ในระดับต่ำนาน ส่งผลให้นักลงทุนค้นหาผลตอบแทนที่สูงกว่า หนุนปริมาณซื้อขายหุ้นไทยเฉลี่ยสูงถึงเกือบ 9 หมื่นล้านบาท/วัน โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กที่ถูกเก็งกำไรอย่างร้อนแรง จนดัชนี MAI, SSET ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 70%ytd, 61%ytd ตามลำดับ ขณะที่ดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ SET50 และดัชนีหุ้นยั่งยืน SETTHSI ยัง Laggard ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 7.4%ytd และ 12.4%ytd เท่านั้น
อย่างไรก็ตามในปี 2565 หลายประเทศเริ่มกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว กดดันให้สภาพคล่องในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง บวกกับในประเทศไทยเริ่มมีข้อจำกัดในการเก็งกำไร ทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มความเข้มข้นของเกณฑ์ Cash Balance, คลังจะพิจารณาเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นไทย ส่งผลให้นักลงทุนอาจลดปริมาณการเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กลง และกลับมาพิถีพิถันในการเลือกหุ้นทั้งในมุมพื้นฐาน และความยั่งยืนมากขึ้น
“สรุปคือ มาตรการต่างๆ ที่ทางการเพิ่มเข้ามา ทั้งการเพิ่มเกณฑ์สภาพคล่องในการ คัดเลือกหุ้นเข้า SET50 และ SET100การเพิ่มกฏเกณฑ์ให้หุ้นที่ติด Cash Balance ให้มีการซื้อขายเบาลง รวมถึงความกังวลการเก็บภาษีซื้อขายหุ้นไทย ทุกสิ่งล้วนเป็น ตัวเร่งให้ปริมาณการซื้อขาย และการเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทยลดลง ในยามที่สภาพคล่องถูกดึงออกจากระบบจากการกลับมาขึ้นดอกเบี้ยในหลายประเทศ ทำให้นักลงทุนอาจกลับมาสนใจลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่ราคายัง Laggard มากกว่า และเน้น หวังผลในการลงทุนระยะยาว แทนการเก็งกำไรในช่วงสั้นๆ”
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ASPS จึงได้นำข้อมูล ESG Score ที่ทาง IAA รวบรวม มาผนวกกับ Valuation และความน่าสนใจในการลงทุนในปี 2565 จะได้รายชื่อหุ้น พื้นฐานเติบโตยั่งยืน น่าซื้อทยอยสะสม ดังตารางทางด้านล่าง

ทั้งนี้ปกติประเด็นโควิดมักจะกดดันดัชนีหุ้นปรับฐานไม่เกิน 1-2 เดือน และตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายจากกองทุน LTF ในปี 2559 ที่ครบกำหนดระยะเวลาในถือครองเพื่อประโยชน์ทางภาษีในช่วงต้นของปี 2565แต่หลังจากนั้นน่าจะเป็นโอกาสในการเข้าสะสม 12 หุ้นพื้นฐานดี ESG Score สูงดังกล่าว
รวมถึงคาดหวังเม็ดเงินลงทุน ใหม่ๆ จากกองทุนไทยและต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับ ESG เข้ามาหนุนเพิ่มเติม เนื่องจากหุ้นดังกล่าวอยู่ในดัชนี SETTHSI และ Down Jones Sustainable Index ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ โดย Top pick เลือก KBANK, ADVANC, SCC, CPALL, AOT มีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจ รวมถึงปัจจัยบวกเฉพาะตัวเด่นในปี 2565 ดังนี้
KBANK (ราคาพื้นฐาน 158.00บาท) เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์ในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น โดยคาด กำไรสุทธิปี 2564 เท่ากับ 3.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 22% YoY และปี 2565 ที่ 3.8 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 6.5% YoY จากรายได้ดอกเบี้ยรับฯ ตามฐานสินเชื่อขยายตัว และ รายได้ค่าธรรมเนียมฯ ขับเคลื่อนด้วยการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ADVANC (ราคาพื้นฐาน 245.00บาท) เป็นหุ้นปันผลสูงที่มีเกราะป้องกันโควิด มักจะ Outperform ตลาดได้ดีในช่วง 4 เดือนแรกของปี ขณะที่ผลประกอบการงวด 4Q64 คาดหวังการฟื้นตัวได้ หลักๆ หนุนจากรายได้ที่ดีขึ้น ตามกำลังซื้อกลับมา หลังจาก รัฐบาลผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น อานิสงส์ที่ ADVANC ทำได้ดีทั้งในส่วน การขยายฐานลูกค้า 5G จากผลบวกจากการเริ่มขาย iPhone 13 คาดหนุนลูกค้า 5G ที่มี ARPU สูงกว่าค่าเฉลี่ย
SCC (ราคาพื้นฐาน 500.00บาท) แรงขายจากต่างชาติค่อนข้างจำกัดจากสัดส่วนการถือครองที่ เหลือเพียง 12.8% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ราคาหุ้นย่อตัวลงมาจน Valuation น่าสนใจ ปันผลสูง 4.6% ต่อปี พร้อมกับแนวโน้มกำไร 4Q64 ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อย ไปตามภาพรวมเศรษฐกิจที่กลับมาหลังวิกฤตโควิด
CPALL (ราคาพื้นฐาน 70.20บาท) หนึ่งในหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาแรงในปีนี้ ถูก กดดันจากมาตรการคนละครึ่งต่อเนื่องถึง 3 เฟส ขณะที่คาดหวังการฟื้นตัวในปีหน้า โดยคาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวได้ถึง 107% ในปี 2565 สูงขึ้นจากฐานปี 2564 ที่ต่ำ
AOT (ราคาพื้นฐาน 69.60บาท) AOT เป็นหุ้นอิงกับการท่องเที่ยวที่น่าลงทุนในระยาว จาก สถานะการเงินที่แข็งแกร่ง และรูปแบบธุรกิจที่เป็นผูกขาดบริการสนามบินหลัก น่าจะ กลับมาเป็นหุ้นที่ตลาดสนใจอีกครั้งในระยะถัดไป หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาลึก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0