แล้วให้ความพยาม ความทุ่มเทเป็นคะแนนเสริม
เป็นข่าวดีมากๆที่ในช่วงหลายปีมานี้ กระแสเรื่อง Coaching , การให้ Feedback รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการประเมินผลงานอย่างมีระบบมากขึ้นในหลายๆองค์กร ทั้ง KPI และ OKR
แต่หนึ่งในเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้นั่นคือเรายังไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของผลงานไปได้ ไม่ว่าจะเป็นหลักการไหน ผลงานก็ยังมีผลต่อการพิจารณาผลตอบแทนอยู่เสมอ
ขออนุญาตยกตัวอย่างในหลายๆองค์กรที่เคยได้ร่วมงาน และได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆหลายๆคนนะคะ เราเห็นตรงกันว่า Attitude หรือทัศนคติที่ดีมีผลต่อผลงานที่ดีค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าทัศนคติที่ดีต่อการทำงานของคนๆนึงอาจจะมีหลายองค์ประกอบที่ช่วยสร้างขึ้นมา ในขณะเดียวกันทัศนคติที่ดีก็ถูกบ่อนทำลายได้ด้วยหลายๆปัจจัยในแต่ละวันในการทำงาน จริงๆแล้วส่วนตัวเราก็เชื่อเรื่อง Attitude is everything มาตลอดนะ แต่เราก็ยังอยากรู้ว่าจริงๆแล้ว attitude มันมีผลจริงๆใช่มั้ย และ attitude แบบไหนอ่ะที่มันจะช่วยให้การทำงานใน “บริษัทกำลังพัฒนา” แบบหลายๆบริษัทที่เราเคยทำงานมา
จังหวะดีมาก ที่วันนึงได้ฟัง CEO พูดถึงเรื่อง Attitude ในการทำงาน ว่าเรามาเปลี่ยนวิธีคิดและคำพูดกันเถอะ จากเดิมที่เมื่อมีการคุยเรื่องเป้าหมาย เรื่องการมอบหมายภารกิจใหม่ๆ ใหญ่ๆ และท้าทายมากๆ 555 (ตอนแรกพิมพ์คำว่าภารกิจยากๆ แต่นึกขึ้นได้ว่าเคยอ่านหนังสื่อเรื่อง Coaching เล่มนึงเค้าให้เปลี่ยนคำว่ายาก เป็นคำว่าท้าทายให้หมด) เราชอบพูดกันว่า …
“จะทำให้ดีที่สุด หรือ จะพยายามให้เต็มที่”
ซึ่งสิ่งที่พวกเราทดลองทำกันก็คือ เราเปลี่ยนคำตอบมาเป็น “จะทำให้สำเร็จ” !!!
เริ่มต้นจากแนวคิดของ CEO ที่ว่าการพูดว่าจะทำให้สำเร็จให้ได้ นอกจากจะเป็นการสร้างพันธะผูกพันระหว่างกันจากคำพูดแล้ว การบอกว่าจะทำให้สำเร็จจะช่วยให้เราทุกคนต้องเริ่มจากการหาคำตอบว่าอะไรคือสำเร็จ เป้าหมายคืออะไร นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการพูดคุยกับพนักงานหลายๆคนและจากตัวเองด้วยอ่ะนะคะ ความรู้สึกที่มีต่อคำว่า “จะทำให้สำเร็จให้ได้” มันมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่จริงๆค่ะ แรกๆอาจจะดูดเหมือนเป็นการกดดันกันรึเปล่านะ 555 แต่อย่างที่บอกไปนะคะว่าทัศนคติที่ดีของพนักงานมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง หัวหน้าเองก็ต้องทำให้พนักงานรับรู้ด้วยว่าถ้างานสำเร็จ เค้าจะได้รับอะไรดีๆตอบแทนบ้าง ชีวิตเค้าจะดีขึ้นได้อย่างไร แล้วถ้ามันไม่สำเร็จจริงๆ หัวหน้าก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีมงานให้ได้ว่าความพยายาม ความทุ่มเทอย่างเต็มที่ก็เป็นคะแนนบวกนะ แต่ก็นั่นแหละค่ะ ต้องชัดเจนนะคะว่าในบริบทที่ว่ามอบหมายภารกิจที่มีเป้าหมายเดียวกันคนที่ทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย ย่อมต้องได้รับการตอบแทนที่ดีกว่าที่ทำไม่สำเร็จอ่ะเนอะ เค้าถึงจะเชื่อมั่นและยังมี Attitude ที่ดี และเราก็ไม่ได้คิดว่าความพยายาม ความมุ่งมั่นไม่สำคัญนะคะ ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ค่ะ แค่เราใช้เวลาพูดถึงความพยายามกันน้อยลง แต่ใช้เวลาสำหรับการพูดถึงวิธีการทำให้สำเร็จกันมากขึ้น สำหรับบริษัทที่กำลังพัฒนาจากจุดที่ดี ไปสู่จุดที่กว่าแบบเรา การโฟกัสที่เป้าหมายสำคัญมากๆ ค่ะ แรกๆก็จะเขินๆกันนิดนึง 55 แบบว่า อุ้ย ดูจริงจัง ดูมุ่งมั่นเกินไปรึเปล่า แต่ก็พยายามทักๆกัน สะกิดกัน เชียร์กันให้การกล้ารับปากกับเป้าหมายเป็นเรื่องปกติในทีมเรา
แล้วผลที่เกิดขึ้นก็คือในไตรมาสที่ผ่านมาที่เราเริ่มเปลี่ยน Attitude ด้วยการเปลี่ยนคำตอบที่มีต่อภารกิจต่างๆ ผลงานของเราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะทีมขายที่มีความท้าทายด้วยสถานการณ์หลายอย่างในตลาด แต่เราก็ยังสามารถทำยอดขายได้ดี เรามั่นใจว่าส่วนหนึ่งมาจากการเชื่อว่าเราจะทำได้ และเราก็บอกว่าเราจะทำให้ได้ สุดท้ายเราก็ทำได้จริงๆค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งกลัวดิชั้นนะคะ ดิชั้นไม่ได้ขายคอร์สบรรยายปลุกพลังอะไรทั้งนั้นค่ะ แค่เอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังว่า การเปลี่ยนแปลงแค่เล็กน้อยก็ช่วยให้มีผลลัพธ์ที่ดีได้ ถึงตอนนี้ เราก็ยังเชื่อมั่นในความพยายามอยู่นะคะ แต่เราเปลี่ยนจาก “พยายามทำให้เต็มที่” เป็น “พยายามทำให้สำเร็จ” แทนค่ะ
#รักนะคะ
#เจ้าหญิงแห่งวงการHR
ติดตามบทความของ เจ้าหญิงแห่งวงการHR ได้บน LINE TODAY ทุกวันพฤหัสบดี
