โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

IRPC ปรับแผนรับมือโควิดหวังสร้างผลประโยชน์กว่า 5 พันลบ.ในช่วง 5 ปี

อินโฟเควสท์

อัพเดต 03 ก.ค. 2563 เวลา 07.00 น. • เผยแพร่ 03 ก.ค. 2563 เวลา 06.59 น. • สำนักข่าวอินโฟเควสท์

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์เพื่อรับมือความผันผวนของสถานการณ์ราคาน้ำมันและเศรษฐกิจในตลาดโลก ที่เกิดจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและรักษาความสามารถในการทำกำไร ในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะสร้างผลประโยชน์ให้บริษัทกว่า 5 พันล้านบาท

ระยะสั้นในปี 63 ในด้าน 1. Growth Strategy คาดการณ์ผลประโยชน์ให้บริษัทได้เพิ่ม 200 ล้านบาท ได้แก่ โครงการขยายพลาสติก ABS เพื่อให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 6,000 ตัน/ปี ในปี 63 และการร่วมทุนกับบริษัท บริษัท เจแปน โพลิโพรพิลีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (JPP) เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 50% ของบริษัท ไมเท็กซ์ โพลิเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (Mytex Thailand) ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษพีพีคอมพาวด์ (Polypropylene Compound: PP Compound) สำหรับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ผ่านโครงการโซลาร์ลอยน้ำขนาด 12.5 เมกะวัตต์

2. Productivity Improvement คาดการณ์ผลประโยชน์เพิ่มขึ้นราว 1.2 พันล้านบาท ได้แก่ การดำเนินโครงการ E4E เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างกำไรส่วนเพิ่มจากการดำเนินธุรกิจทั่วทั้งองค์กร และโครงการ IRPC 4.0 ซึ่งนำระบบดิจิทัลที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร

ส่วนกลยุทธ์ระยะยาว Strengthen IRPC ซึ่งคาดการณ์ผลประโยชน์มากกว่า 3 พันล้านบาท ผ่านการดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ ดังนี้ เช่น โครงการ Utra Clean Fuel Project (UCF) รองรับการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 66 ,เพิ่มช่องทางขนส่งน้ำมันทางท่อ , การขุดลอกร่องน้ำท่าเรือ ทำให้รับเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งน้ำมันดิบ , การเพิ่มกำลังผลิตของสินค้าที่ได้มูลค่าเพิ่มสูง เพื่อให้มีสัดส่วนรายได้เพิมขึ้นจากปัจจุบันที่ 55% เป็น 60%

การปรับปรุงประสิทธิภาพการกลั่นเพื่อให้รับน้ำมันจากตลาดอื่น นอกเหนือจากตลาดตะวันออกกลางเพื่อทำให้ต้นทุนต่ำที่สุด รวมทั้งมีแผนพัฒนาที่ดิน โดยจากที่ภาษีดินและสิ่งปลูกสร้างมีผลบังคับใช้แล้วก็ทำให้ บริษัทจ่ายภาษีที่ดินเพิ่มขึ้นไม่มากนักจาก 54 ล้านบาทเป็น 63 ล้านบาท

นายนพดล กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทยังมีโครงการ Breakthrough เพื่อให้พนักงานเสนอแผนงาน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กร เช่น โครงการลดการสำรองน้ำมันดิบ (Crude &Product Inventory) ช่วยลดต้นทุนของบริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 1 พันล้านบาทในช่วง 3 ปี (ปี 63-65)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 63)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0