Ehang บริษัท Start Up สัญชาติจีนที่มีบริษัทแม่อยู่ในมลฑลกวางโจว ได้ทำการพัฒนาและทดลองการใช้งาน โดรนรับ-ส่งผู้โดยสารทางอากาศแบบไร้คนขับ (AAV - Autonomous Aerial Vehicle) ที่ทางบริษัทคาดว่ามันน่าจะมาช่วย ลดปัญหาการจราจรภาคพื้นดิน ได้ด้วยการเจาะกลุ่มตลาดใหม่โดยใช้การจราจรทางอากาศแทนเพื่อเลี่ยงปัญหารถติด
และได้ร่วมมือกับรัฐบาลของมลฑลกวางโจวในการพัฒนาศูนย์ควบคุมและจัดการการจราจรทางอากาศ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะนำไปสู่การพัฒนา Vertiports หรือสนามบินสำหรับเครื่องบินไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้มีพื้นที่ในการขึ้นบินและลงจอดให้เป็นหลักแหล่งในอนาคต นอกจากนี้ทางบริษัทก็ได้วางแผนว่าจะพัฒนาห้องโดยสารให้ รองรับการขนส่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ รวมไปถึงถุงเลือดและอวัยวะต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วในการจัดส่งอีกด้วย
ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี2018 ทางบริษัท Ehang ก็เคยเปิดตัวโดรนที่มีชื่อว่า Ehang 184 ไปแล้ว แต่ผลการตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร เพราะผู้ใช้บางส่วนกล่าวว่า Ehang 184 นั้นมีเสียงใบพัดที่ดังมากจนเกินไปและ ลักษณะการบินยังไม่คงที่ มากนัก
ภาพจาก : https://idronecenter.com/ehang-184-worlds-first-drone-taxi/
ทางบริษัทจึงได้กลับไปพัฒนาและปรับปรุงจนออกมาเป็น Ehang 216 ที่ประกอบไปด้วยโรเตอร์ไฟฟ้า (ใบพัดเฮลิคอปเตอร์) จำนวน 16 ตัว (จากเดิมที่มีเพียงแค่ 8 ตัว) สามารถบินด้วยความเร็ว 80 ไมล์ต่อชั่วโมง (หรือราว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ตัวเครื่องมีน้ำหนักประมาณ 600 ปอนด์ (272 กิโลกรัม) และมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารจำนวน 2 ที่นั่ง สามารถรองรับน้ำหนักของผู้โดยสารหรือสินค้าต่างๆ ได้ราว 500 - 600 ปอนด์ (ประมาณ 226 - 272 กิโลกรัม)
ภาพจาก : https://www.theverge.com/2019/11/1/20943407/ehang-flying-taxi-drone-ipo-initial-offering-100-million
โดย Ehang 216 นี้ได้ทำการ ทดลองการบินมาแล้วกว่า 2,000 ครั้ง ทั้งในประเทศจีน, ออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์, กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรต ไปแล้วเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับการ รับรองการบินจากทาง FAA (Federal Aviation Administration) หรือองค์การบริหารการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา ให้สามารถขึ้นบินได้ในรัฐ North Carolina ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการได้ทดลองใช้ในสหรัฐอเมริกาที่อาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ (และนายทุนสนับสนุนในอนาคต) นั้นก็ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาและต่อยอดไปสู่การทำกำไรให้บริษัทเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
