“เมื่อเป็นเชฟแล้วจะหยุดอยู่กับที่ไม่ได้” นี่คงเป็นคำตอบว่าทำไม เชฟเดวิด ทอมป์สัน ผู้เคยคว้าดาวมิชลินสตาร์มาให้กับร้าน Nahm ร้านอาหารไทยชื่อดัง ถึงขยันมีโปรเจ็คต์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากร้านอาหารอักษรที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน เราขอกระซิบดังๆ ว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง “จังหวัดกระบี่” ก็มีโอกาสจะได้ลิ้มรสชาติอาหารจากฝีมือการรังสรรค์ของเชฟเดวิดเช่นกัน! และที่พิเศษกว่าที่อื่นก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่เชฟทำสำรับอาหารใต้ หรือจะให้เฉพาะเจาะจงไปกว่านั้น “อาหารกระบี่” โดยเฉพาะ ให้เราได้ลิ้มรสกันที่ห้องอาหารอรุณดิน่า (The Arundina) โรงแรม เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท (The Tubkaak Krabi Boutique Resort)
เป็นเวลากว่า 4 เดือนที่เชฟเดวิดซุ่มศึกษาอาหารในจังหวัดกระบี่อย่างลึกซึ้ง ทั้งวัตถุดิบท้องถิ่นต่างๆ ไปจนถึงแหล่งผลิตที่ได้คุณภาพและตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน รวมทั้งเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารและเครื่องเทศที่ใช้ในพื้นที่ และเมื่อได้มาเจอกับคนท้องถิ่นที่มีความตั้งใจอยากให้นักท่องเที่ยวที่มายังกระบี่ได้มีอาหารระดับมิชลินสตาร์ลิ้มลองบ้างอย่าง คุณวิภาวรรณ เหล่าธนาสิน กรรมการผู้จัดการ เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท (The Tubkaak Krabi Boutique Resort) จึงจับมือกันสร้างสรรค์เมนูอาหารกระบี่แสนอร่อยให้บริการที่ห้องอาหารอรุณดิน่า ตั้งแต่16 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
ห้องอาหารแห่งนี้ให้บริการแบบออลเดย์ ไดนิ่ง แขกที่มาพักจึงสามารถลิ้มรสเมนูอาหารของเชฟเดวิดได้ทั้งมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น เลือกอร่อยกับเมนูที่ชอบได้แบบ อะ ลา คาร์ต แต่เนื่องจากครั้งนี้เราได้ไปเยือนในโอกาสพิเศษที่ทางโรงแรมจัดอีเวนต์ Chef’s Table by Chef David Thompson ขึ้นเพื่อแนะนำเมนูชุดใหม่นี้พอดี เราจึงได้ลิ้มรสคอร์สอาหารที่เชฟจัดให้อย่างจุใจตั้งแต่ของว่าง จานหลัก ไปจนถึงของหวาน
เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟเดวิด “ม้าฮ่อ” อาหารเรียกน้ำย่อยคำเล็กอร่อยเข้มข้นถึงเครื่องวางบนสับปะรดใต้รสหวานฉ่ำ ตามด้วย “เบือทอด” อาหารท้องถิ่นของภาคใต้ ใช้กุ้งตัวเล็กทั้งตัวและใบเล็บครุฑที่ปลูกในสวนครัวของโรงแรมทอดจนกรอบเคี้ยวดัง ตัวแป้งปรุงรสมาแล้วไม่ต้องมีน้ำจิ้ม กินง่ายและเพลินมากๆ จานต่อมา “ห่อหมกปิ้ง” ใช้เนื้อปลาสากบดปรุงรสจัดจ้านห่อด้วยพริกย่างจนหอมอร่อยมาก
จากนั้นเข้าสู่สำรับจานหลักซึ่งเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิที่หุงด้วยน้ำลอยดอกมะลิ เริ่มด้วย “แกงไก่ใส่ใบยี่หร่า” เนื้อไก่นุ่มละมุนในน้ำแกงเผ็ดร้อนด้วยเครื่องเทศ ชวนให้ตักคำต่อๆ ไปอย่างหยุดไม่ได้ ตัดรสด้วย “หมึกน้ำดำ” สีดำด้วยน้ำหมึกของหมึก รสหวานนิดๆ มาตัดรสเผ็ดกำลังดี
“น้ำพริกเม็ดมะม่วงหิมพานต์” จานนี้เด็ดมากๆ รสกลมกล่อม เผ็ดและมัน กินกับผักสดท้องถิ่นอย่างยอดผักหมุยเข้ากันมากๆ และแก้เผ็ดด้วย “หน่อไม้ต้มกะทิ” รสละมุน เห็นชิ้นหนาแบบนี้เชฟหั่นซอยบางๆ แบบไม่ให้ขาดออกจากกันก่อนนำไปต้มทำให้ทั้งกรอบทั้งนุ่มกินง่าย คนชอบหน่อไม้ต้องติดใจ
จานไฮไลต์ที่น่าสนใจ “ยำหอยนางรมกับสาหร่ายพวงองุ่น” ผลผลิตจากแหลมสักเป็นหอยนางรมสุดครีมมี่ นำมาคลุกเคล้าในน้ำยำตะไคร้และกะทิที่ให้รสชาตินวลเนียนน เสริมด้วยความเค็มและกรุบๆ จากสาหร่ายพวงองุ่น และทีเด็ด “เนื้อเค็ม” แม้ชื่ออาจฟังดูธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เป็นเนื้อเค็มรสเข้มข้น ทอดแล้วนำมาทุบจนเปื่อย เคี้ยวง่ายแต่ก็ยังคงความหนึบ ยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลินแบบหยุดไม่ได้เลยทีเดียว
อีกไฮไลต์หนึ่งที่เด็ดมากๆ จนอยากให้ทุกคนได้มาลอง “กุ้งมังกรย่าง น้ำบูดู” ใครจะไปคิดว่าจะเข้ากันขนาดนี้ ล็อบสเตอร์สดเนื้อแน่นเด้งแต่ไม่เหนียวเนื้อหวานกับน้ำบูดูที่รสออกนัวๆ มีทั้งเค็มเปรี้ยวและเผ็ด ยิ่งนำมาราดข้าวยิ่งอร่อยดีงามสุดๆ
ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่หากินได้ยาก “ขนมปำ และสาเกเชื่อม” ขนมปำใช้น้ำตาลจากยอดตาลหอมละมุน โรยหน้าด้วยครัมเบิลมะพร้าว ส่วนสาเกเชื่อมรสไม่หวานมาก เข้ากับกะทิที่ปรุงรสนวลๆ กลมกล่อมไปด้วยกัน เรียกว่าประทับใจกันทุกจาน ซึ่งเมนูเหล่านี้จะถูกนำไปใส่เป็นเมนูประจำของห้องอาหารอรุณดิน่าในราคาสุดน่ารักให้เลือกสั่งกันตามอัธยาศัย (แต่เราอยากแนะนำให้ลองทุกจานเลย)
เชฟเดวิดบอกว่าเมนูที่ได้ลิ้มลองไปในวันนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นนะ เพราะเมนูชุดใหม่นี้ยังมีอีกหลายเมนูที่น่าลิ้มลองไม่แพ้กัน ซึ่งใครที่ติดใจอยากชิมจานอื่นๆ อีกก็ขอชวนให้ตีตั๋วมาเข้าพักที่ โรงแรม ทับแขก บูติก รีสอร์ท กระบี่ เลยก็แล้วกันจะได้ไม่ต้องเดินทางไปมาให้ลำบาก เพราะสำหรับสายกินอย่างเราๆ แล้ว การได้เที่ยวไปกินของอร่อยไปมันสุขใจเป็นสองเท่าจริงๆ
