โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

GPSC โอกาสเติบโตภายใต้ธุรกิจใหม่ ที่เกาะไปกับเมกะเทรนด์พลังงานโลก

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 23.23 น. • เผยแพร่ 27 ธ.ค. 2564 เวลา 01.57 น. • Maratronman

หลังจากที่กระแสการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มรับนโยบายภาครัฐที่จะกระตุ้นการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มจะมีความชัดเจนมากขึ้น เพราะมีข่าวมาว่าภาครัฐจะประกาศใช้นโยบายที่สนับสนุนทั้งผู้ประกอบการ และผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในหลายๆรูปแบบก็ทำให้กลุ่มหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน
เช่นเดียวกับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ที่เป็นหนึ่งในหัวเรือจักรที่สำคัญของทางกลุ่มปตท.กลุ่มบริษัทพลังงานสัญญาติไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ได้รับมอบหมายให้ดูแลพัฒนาธุรกิจประเภท New S-curve ในด้านของพลังงาน อย่างเช่นการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม ด้วยเทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ SemiSolid
หากย้อนดูในแง่ของราคาหุ้น และธุรกิจประเภทโรงไฟฟ้าเดิมของ GPSC เองนั้นก็พอที่จะผลักดันราคาหุ้นให้ทะยานต่อเนื่องออกไปได้ จากการแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในรูปแบบพลังงานทดแทนที่สอดรับกับนโยบายด้านพลังงานอื่นๆทั่วโลกที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯออกสู่ชั้นบรรยากาศ
โดยความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ GPSC ย้อนหลังในช่วง 14 วันทำการ หรือตั้งแต่วันที่ 2-22 ธ.ค. จะพบว่าราคาหุ้นปิดตลาดไม่ปรับตัวลดลงเลย ซึ่งมีระหว่างวันที่ราคาหุ้นปิดเท่ากับตอนราคาเปิดบ้างเป็นบางช่วง ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวอาจจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจแบตเตอรี่ของ GPSC ในอนาคต

ธุรกิจแบตเตอรี่ เป็น New S-Curve

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส ( ประเทศไทย ) จำกัด มองว่าธุรกิจที่จะเป็น New S-curve คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ ซึ่งบริษัทได้ COD ธุรกิจแบตเตอรี่ 30MWh ไปแล้วเมื่อก.ค.21 และเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการจับมือกับพันธมิตรในจีน คือ AXXIVA (ผู้ผลิตแบตเตอรี่), จับมือกับ OR (สถานีบริการชาร์จแบตฯ), จับมือกับ Swap & GO (แบตฯรถจักรยานยนต์), และร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานภายใต้ระบบคลาวด์ เป็นต้น
สำหรับในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อลงทุนระยะกลาง ยาว ให้ราคาพื้นฐาน 98 บาท ทั้งนี้เราชอบที่บริษัทกำลังเดินหน้าในธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในอนาคต ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าก็ให้กระแสเงินสดที่มั่นคงต่อเนื่อง

แผนธุรกิจเกาะตามเมกะเทรนด์

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ทาง GPSC ได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2564 - 2573 ให้สอดคล้องกฎระเบียบด้าน สิ่งแวตล้อมในกติกาสากล, แผนพลังงานชาติ, และวิสัยทัศน์ Future Energy and Beyond ของกลุ่ม PTT โดยมุ่งเน้น 1) เพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก (Re liability, Safety, EnergyEfficiency, Cost) 2) ขยายสัดส่วนธุรกิจพลังงานสะอาด (ตั้งเป้ามีกำลังผลิตพลังงานหมุนเวียน 8 GW ในปี 2573) 3) พัฒนาธุรกิจ S-curve และแบตเตอรี่ 4) ให้บริการโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า
สำหรับแนวทางด้านสิ่งแวตล้อม GPSC ตั้งเป้าลดคาร์บอน 10% ภายในปี 68 และ 35%ภายในปี 2573 ด้วยการ 1.ลดสัดส่วนเชื้อเพลิง Fossil 2.ขยาย Portfolio พลังงานหมุนเวียน 3.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 4.แลกเปลี่ยน -ชดเชยการปลดปล่อยปริมาณคาร์บอน

ลงทุนรับการเติบโตระยะยาว

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส การลงนามความร่วมมือ (MOU) กับบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด พัฒนาต้นแบบแบตเตอรี่ และ ระบบขับเคลื่อนเรือโดยสารไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่ Lithium – ion เป็นส่วนหนึ่งในเรือโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งในส่วนของเรือโดยสารดังกล่าว และในด้านการสร้างกำไรของ GPSC ซึ่งยังเป็นประเด็นที่ต้องรอติดตาม โดยฝ่ายวิจัยกำหนดมูลค่าพื้นฐานปี 65 ไว้ที่ 90บาท/หุ้น แนะนำทยอยซื้อสะสมลงทุนรับการเติบโตระยะยาว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0