โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'ไก่อู' ปัดจัดฉาก! คลังแสง 'โกตี๋' ค้นตู้คอนเทนเนอร์ยก2-เหลว

ไทยรัฐออนไลน์ - Social

เผยแพร่ 19 มี.ค. 2560 เวลา 22.56 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ปฏิบัติการค้นตู้คอนเทนเนอร์วันที่สองคว้าน้ำเหลว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนโฆษกรัฐบาลยืนยันการตรวจค้นบ้านเครือข่าย “โกตี๋” ไม่ได้เป็นการจัดฉาก ก่อนตรวจค้นได้สืบสวนหารายละเอียดด้านการข่าวและเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง ส่วนอาวุธที่ยึดได้ที่ดูยังใหม่ เนื่องจากถูกเก็บไว้ในกล่องอย่างมิดชิด

กรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร กกล.รส. สนธิกำลังใช้มาตรา 44 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่มีนายธีรชัย อุตรวิเชียร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/30 หมู่ 7 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ เป็นผู้ดูแลบ้าน ผลการตรวจค้นพบอาวุธสงครามจำนวนมากและยาบ้าจำนวนหนึ่งโดยอ้างว่าอาวุธสงครามทั้งหมดเป็นของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มเรดการ์ด คนเสื้อแดงปทุมฯ เบื้องต้นแจ้งข้อหานายธีรชัย มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง, มีอาวุธปืนสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตออกให้ไว้ในครอบครอง, ครอบครองยุทธภัณฑ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตส่งตัวไปควบคุมไว้ที่ มทบ.11 เพื่อสอบสวนขยายผลต่อไป

ขณะเดียวกัน กำลังอีกส่วนหนึ่งรวม 400 นาย เข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทเกรทติ้ง ฟอร์จูน คอนเทนเนอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 10 หมู่ 12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อค้นหาอาวุธสงคราม วัตถุระเบิดและสิ่งของผิดกฎหมาย หลังขยายผลมาจากการตรวจค้นอาวุธสงครามและอื่นๆหลายรายการของนายโกตี๋ที่ จ.ปทุมธานี ตั้งแต่บ่ายวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา และยุติการค้นหาในช่วงเวลา 01.30 น. วันที่ 19 มี.ค. ผลตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 มี.ค. พ.ต.อ.วสันต์ บุญเจริญ รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.รักศักดิ์ เมฆจินดา รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย รอง ผกก.(ป.) พ.ท.พิเชียรรัฐ ภารัญนิตย์ ผบ.ร.21 พัน. 2 รอ. และนายวัฒน เจริญจิตร จ่าจังหวัดสมุทรปราการ นำกำลังผสมเข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ที่เหลือในลานของบริษัทดังกล่าวอีกครั้งโดยเน้นตู้ที่มีอายุการฝากไว้เกิน 300 วัน และ 1,000 วัน

กระทั่งเวลา 18.00 น. ชุดปฏิบัติการได้หยุดการตรวจค้นเพื่อสรุปผลการตรวจค้นตลอดทั้งวัน โดยช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13.00-18.00 น. สามารถตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ได้ 573 ตู้ รวมทั้ง 2 วันสามารถตรวจค้นไปได้แล้วจำนวน 1,128 ตู้ คิดเป็นร้อยละ 51.20 ของจำนวนตู้ทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจค้นยังไม่พบอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดพบเพียงตู้เปล่าเท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.กฤษรินทร์ ทองอุไร นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก ร.21 พัน.2 รอ. (ฝอ.3 ร.21 พัน.2 รอ.) นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ หน.ฝ่ายสืบสวนและปรามปราบศุลกากรกรุงเทพ และชุดสืบสวน สภ.บางพลี ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นตู้คอนเทนเนอร์เป้าหมายที่บริษัทเกรทเทนเนอร์ จำกัด เลขที่ 106/1 ถนนบางนา-ตราด กม.4 แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลจับกุมตามยุทธการสนธิกำลังทหารปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายใน จ.ปทุมธานี อ่างทอง หนองคาย สุรินทร์ นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ และสมุทรปราการ รวม 9 จุด ตรวจค้นเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับหมิ่นสถาบัน ร่วมกันวางแผนสะสมอาวุธสงครามและระเบิด เพื่อเตรียมก่อความไม่สงบในประเทศ มีแนวคิดลอบสังหารผู้นำประเทศ หากเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นยึดพื้นที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ทั้งหมดจะก่อเหตุรุนแรง

โดยปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยึดของกลางประกอบด้วย ปืน 13 กระบอก กระสุนปืน 5,949 นัด ชิ้นส่วนและส่วนควบปืน 7 รายการ สิ่งเทียมอาวุธปืน 8 กระบอก ระเบิดขว้าง 11 ลูก มีด 12 เล่ม วิทยุสื่อสาร 10 เครื่อง เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง ซองบรรจุกระสุน 37 ซอง ยาบ้า 393 เม็ด คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง เครื่องช็อตไฟฟ้า 1 เครื่อง พลั่วสนาม 1 อัน พลุแฟร์ 4 ชิ้น น้ำมันเครื่องบิน 7 ลิตร ลังบรรจุดินระเบิด 1 ลิตร เครื่องปั่นไฟ 2 เครื่อง ลำโพง 2 ตัว ป้ายผ้าสีแดงระบุข้อความ “โกตี๋ แดงปทุมธานี” 3 ผืนและเอกสารทางการเมืองจำนวนมาก

หลังตรวจค้นได้ควบคุมตัวนายธีรชัย อุตรวิเชียร อายุ 55 ปี นายประเทือง อ่อนละมูล อายุ 58 ปี นางปาลิดา เรืองสุวรรณ อายุ 62 ปี นายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ อายุ 56 ปี น.ส.เอมอร วัดแก้ว อายุ 44 ปี นายทศพล เกษโกศล อายุ 25 ปี นายอุดมชัย นพสวัสดิ์ อายุ 60 ปี จ.ส.อ.ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมพู อายุ 57 ปี และว่าที่ ร.ต.สุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล อายุ 49 ปี ไปซักถามรายละเอียด เบื้องต้นพบทั้งหมดเข้าร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงของกลุ่มนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ โดยเตรียมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ มีการชุมนุมที่บ้านนายธีรชัย เมื่อวันที่ 21 ก.พ.และปรากฏภาพการรายงานสดในยูทูบของรายการสู้เพื่อสหพันธรัฐไทยของนายวุฒพงศ์ หรือโกตี๋ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ปลุกระดมให้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายรุกขึ้นสู้กับรัฐบาลและพบ 1 ในกลุ่มบุคคลต้องสงสัยที่เข้าตรวจค้น เคยปรากฏตัวที่วัดจึงติดตามตรวจสอบจนนำไปสู่การปิดล้อมตรวจค้น

นอกจากนี้ นายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ ใช้นามแผงว่า “สหายหมาน้อย” จัดรายการวิทยุออนไลน์ รายการสู้เพื่อสหพันธรัฐไทย เผยแพร่ผ่านทางยูทูบ ช่องไฟเย็นชาแนล มีเนื้อหาแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อรัฐบาลคสช.กล่าวถึงการเตรียมลอบสังหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงกลุ่มบุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับวัดพระธรรมกาย ใช้ถ้อยคำอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน อีกทั้งยังมีการปลุกระดมมวลชนให้ออกมาต่อต้านสถาบันเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบบสาธารณรัฐ รวมทั้งพบเอกสารการจัดตั้งกองกำลัง ยืนยันได้ว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ต้องการสร้างสถานการณ์ขึ้นจริง

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจค้นบ้านพักเครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มการเมือง จ.ปทุมธานี พบระเบิด อาวุธสงคราม เครื่องกระสุนจำนวนมากและเอกสารสำคัญว่าของกลางทั้งหมดสะท้อนว่ามีการครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย สุ่มเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิดเป็นอันตรายต่อสังคม เจ้าหน้าที่จะรวบรวมไว้เป็นหลักฐานสอบสวนเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะถือเป็นภัยด้านความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลจึงต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกับคดีอื่นๆ ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กำชับให้ปฏิบัติการอย่างตรงไปตรงมาหาตัวผู้ครอบครองมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ไม่อยากจะเชื่อมโยงหรือกล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงในอดีตที่เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดของคนไทย พร้อมทั้งย้ำว่าประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไปด้วยกฎหมาย ผู้กระทำผิดทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่อาจจัดฉากใส่ร้ายโกตี๋ เนื่องจากอาวุธสงครามเหล่านั้นค่อนข้างใหม่ และเจ้าของบ้านไม่ได้อาศัยอยู่นานนั้น เรื่องนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนและเก็บข้อมูลมาระยะหนึ่ง ขณะเข้าปฏิบัติการมีสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานจำนวนมาก อีกทั้งผู้ที่ครอบครองอาวุธเหล่านี้เก็บทุกอย่างไว้ในกล่องที่ปิดผนึก ซุกซ่อนไว้ในที่ลับเฉพาะทำให้ของกลางทั้งหมดดูใหม่ จึงไม่ใช่การจัดฉากแต่อย่างใด” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

ส่วน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีเพจกลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้ตั้งข้อสังเกตกรณีทหาร ตำรวจ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นและยึดอาวุธสงครามเครื่องกระสุนวัตถุระเบิดจำนวนมากจนไม่น่าเชื่อว่า “โกตี๋” จะครอบครองอาวุธเหล่านั้นว่า อาวุธและวัตถุระเบิดที่เห็นถูกพบในสถานที่เป้าหมายในลักษณะหลบซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดในพื้นที่ส่วนบุคคลแบบชนิดที่บุคคลภายนอกไม่สามารถจะเข้าถึงได้ซึ่งการตรวจค้นจนพบในครั้งนี้อาศัยกระบวนการสืบสวนที่เป็นระบบ ควบคู่กับงานด้านการข่าวที่มีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งกรณีที่เป้าหมายใดๆ มีความชัดเจนในแง่ของพยานหลักฐานแล้วเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการ

ส่วนประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการเชื่อมโยงกับวัดพระธรรมกายเพื่อให้ความชอบธรรมแก่เจ้าหน้าที่จัดการกับวัดพระธรรมกายอีกรอบนั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับงานการรักษากฎหมาย งานดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่วัดพระธรรมกายโดยรอบได้อยู่แล้ว ข้อสังเกตดังกล่าวจึงดูไม่สมเหตุสมผลจริง ส่วนเรื่องของการเชื่อมโยงบุคคลในทางคดีจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใดคนไหนบ้าง คงต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อสอบสวนบุคคลต่างๆ ตามขั้นตอนต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0