เมื่อเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นเวลานาน หากเป็นการบินตอนกลางคืนคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการดื่มเครื่องดื่มโปรดสักแก้วสองแก้วเพื่อช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น ในขณะที่หากเป็นการเดินทางตอนกลางวันการจิบเครื่องดื่มระหว่าการเดินทางก็จะเป็นการช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาเดินทางที่น่าเบื่อได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมี 7 เครื่องดื่มที่คุณควรเลี่ยงเมื่ออยู่บนเครื่องบินซึ่งนอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วยังมีเครื่องดื่มอื่นที่คุณคิดว่าน่าจะดีต่อสุขภาพรวมอยู่ด้วย
ไอริชคอฟฟี
หากสังเกตให้ดีเมื่อเดินทางโดยเครื่องบินจะพบว่าน้ำดื่มที่ได้รับบนเครื่องบินจะมาจากขวดแบบใช้แล้วทิ้ง แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิดขยะพลาสติกจำนวนมากรวมทั้งยังสร้างกังวลใจให้กับผู้ที่เป็นห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่การทำแบบนี้จะทำให้ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัยจากสิ่งต่างๆ ที่ไม่ถูกสุขอนามัย เนื่องจากน้ำที่อยู่ในแท็งก์เก็บน้ำของเครื่องบินไม่มีใครรู้ว่าอยู่มานานแค่ไหน และ EPA ซึ่งเป็นหน่วยงานป้องกันด้านสิ่งแวดล้อมก็ได้เคยพบว่ามี 13 เปอร์เซ็นต์ที่น้ำในแท็งก์บนเครื่องบินไม่ผ่านการตรวจสอบด้านการปนเปรื้อนเนื่องจากมีการทำความสะอาดไม่บ่อย โดยน้ำสำหรับการทำกาแฟรวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีพื้นฐานมาจากกาแฟมาจากการใช้น้ำในแท็งก์บนเครื่องบิน ดังนั้นนี่จึงอาจเป็นสาเหตุให้คุณป่วยหลังการเดินทางได้
น้ำก็อก
แม้ว่าตามปกติแล้วเมื่ออยู่บนเครื่องบินผู้โดยสารจะไม่มีโอกาสดื่มน้ำจากก็อกนอกจะขอกาแฟจากเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน เนื่องจากน้ำเปล่าสำหรับดื่มบนเครื่องบินที่เสริฟจะมาจากน้ำที่สะอาดไม่ได้มาจากน้ำก็อกซึ่งมีที่มาจากแท็งก์เก็บน้ำของเครื่องบิน แต่ใครจะรู้ว่าในเที่ยวบินระยะไกลจะมีปัญหาน้ำดื่มหมดหรือไม่ ซึ่งหากเกิดปัญหานี้ขึ้นมาที่มาเดียวของน้ำดื่มแท็งก์น้ำ ดังนั้นหากไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มอื่นแทนน้ำเปล่าได้ก็ควรมีน้ำเปล่าติดตัวขึ้นไปสำรองไว้ในปริมาณภายใต้ข้อกำหนด
ขอดับเบิลทุกอย่าง
นอกจากขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดับเบิลช็อตจะทำให้คุณดูไม่ดีสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแล้ว การดับเบิลช็อตเมื่ออยู่บนอากาศยังจะทำให้คุณเมาหนักขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับการดื่มบนพื้น เนื่องจากสภาพขาดน้ำที่มาจากคุณภาพอากาศที่ไม่ดีในเครื่องบินจะช่วยเร่งความเมารวมทั้งยังทำให้คุณเวียนหัวเล็กน้อยด้วย FAA เคยพิสูจน์ว่าความกดในห้องโดยสารของเครื่องบินสามารถทำให้เลือดจางลงได้ซึ่งทำให้เกิดอาการมึนงง ดังนั้นคุณจึงไม่ควรไปเร่งให้เกิดสิ่งนี้
แจ็กหรือรัมหรืออะไรก็ตามกับน้ำอัดลมไดเอต
เมื่ออยู่บนพื้นน้ำอัดลมไดเอตที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลอาจเป็นทางเลือกของคุณ แต่คุณไม่ควรใช้เป็นมิกเซอร์เมื่ออยู่เหนือพื้น 30,000 ฟุต ภายในความกดอากาศของเคบินเครื่องบินจะทำให้น้ำอัดลมมีฟองมากขึ้น แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเคมีของน้ำอัดลมไดเอตกลับส่งผลมากกว่านั้นโดยอาจทำให้ต้องใช้เวลามากกว่าปกติถึง 3 เท่าหากจะเทน้ำหนึ่งกระป๋อง
อะไรก็ตามที่หวาน
เมื่อดื่มบลัดดี้แมรีในอยู่บนเครื่องบินจะรู้สึกว่ารสชาติดี นั่นไม่ใช่ความรู้สึก แต่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ เพราะมีการศึกษาของ Cornell ที่พิสูจน์ว่ารสชาติของอาหารจะเพิ่มมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังในเครื่องบิน แต่การรับรู้รสหวานที่เพดานปากจะลดลง จึงทำให้อาหารบนเครื่องบินถูกเพิ่มเครื่องปรุงรสเพื่อที่ผู้โดยสารจะสามารถรับรู้ทุกรสชาติได้ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่คุณควรเลี่ยงค็อกเทลที่มีน้ำผลไม้หรือมีรสหวานบนเครื่องบิน แต่เลือกบลัดดี้แมรีแทน
วิสกี้
หากวิสกี้เป็นเครื่องดื่มโปรด และรสนิยมของคุณคือวิสกี้ราคาแพงที่จะให้ความเพลิดเพลินในขณะจิบ บนเครื่องบินไม่มี Johnnie Walker Blue Label ซิงเกิลมอลต์ชั้นดี หรือวิสกี้หรูๆ เหมือนที่คุณสั่งได้ตามบาร์เนื่องจากบนเครื่องบินไม่ได้มีสต็อกเครื่องดื่มมากขนาดนั้น ดังนั้นหากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นไม่ใช่ทางของคุณ รวมไปถึงวิสกี้ทั่วไป การเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงบนเครื่องบินอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ไวน์ราคาแพง
แม้คุณจะเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาสซึ่งมีไวน์ดีๆ เสริฟ แต่นี่ก็ไม่ไช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ได้ระบุว่าระบบหมุนเวียนอากาศที่แห้งในเครื่องบินจะทำให้ภายในจมูกของคุณแห้งซึ่งส่งผลต่อความสามารถการรับกลิ่นไวน์ หรือแม้คุณจะรักษาความชื้นภายในจมูกเพื่อยังคงรับกลิ่นได้เหมือนเดิม อากาศที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วรอบแก้วไวน์จะทำให้กลิ่นของไวน์หายไป ซึ่งทำให้การดื่มไวน์นั้นไม่สมบูรณ์
