สถานการณ์ด้านสิทธิของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในเอเชียยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาติอาเซียน ที่ยังคงกีดกันสิทธิของกลุ่มคนเหล่านี้ กระทั่ง ในบางประเทศใช้กฎหมายที่รุนแรงจัดการกับกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน
แม้ว่า เมื่อไม่นานมานี้ สังคมเอเชียมีข่าวดีกับชาว LGBTQI หรือ ชาวเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล คนข้ามเพศ ผู้ที่ไม่กำจัดกรอบทางเพศ และผู้มีสภาวะเพศกำกวม ซึ่งเกิดขึ้นในไต้หวัน โดยศาลรัฐธรรมนูญไต้หวันได้ประกาศคำตัดสินที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายสนับสนุนการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ซึ่งทำให้ไต้หวันจะเป็นดินแดนแรกในเอเชีย ที่ยอมรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ส่งผลให้ชาว LGBTQI จำนวนมากตื่นเต้นและดีใจกับความเหลื่อนไหวทางสิทธิดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ศาลรัฐธรรมนูญของไต้หวัน ระบุว่า ทางการไต้หวันต้องออกกฎหมายฉบับใหม่ หรือแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ภายในเวลา 2 ปี ซึ่งจะทำให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวด้านสิทธิของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในอาเซียน กลับสวนทางกับกระแสในใต้หวัน
ล่าสุด รัฐบาลมาเลเซียสนับสนุนให้เยาวชนอายุ 13 ถึง 24 ปี สร้างสรรค์คลิปวิดีโอที่มีเนื้อหา “กีดกันการรักเพศเดียวกัน” เพื่อแข่งขันชิงรางวัล
เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย ระบุว่า ผู้ที่ชนะการแข่งขันจัดทำคลิปวิดีโอขจัดความสับสนทางเพศนี้ จะได้รับเงินรางวัลประมาณ 35,000 บาท
โครงการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อคนหลากหลายทางเพศ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า กิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้เกิดความรู้ทางเพศและความคิดสร้างสรรค์ในกลุ่มวัยรุ่น และไม่ถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนกลุ่มใด
ขณะเดียวกัน ในสิงคโปร์ ทางการได้ประกาศห้ามไม่ให้กลุ่มคนหลากหลายทางเพศที่เป็นชาวต่างชาติ หรือ ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิเป็น ผู้พำนักถาวรในสิงคโปร์ เข้าร่วมเดินขบวนเกย์ไพรด์ รวมถึงกิจกรรมพิงค์ด็อท ซึ่งเตรียมจะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ โดยให้เหตุผลว่า สิงคโปร์ไม่ต้องการให้ชาวต่างชาติมีส่วนร่วมกับการเมืองภายในของสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม กฎหมายสิงคโปร์ยังคงกำหนดว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และผู้กระทำผิดต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี แม้ว่าจะไม่ค่อยพบเห็นการดำเนินคดีนี้มากนักในปัจจุบัน
ด้านอินโดนีเซีย ทางการท้องถิ่นบางแห่งยังคงเคร่งครัดกับการเอาผิดกรณีมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน โดยเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ตำรวจศาสนาในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียเฆี่ยนชาย 2 คน ต่อหน้าสาธารณชนที่มัสยิดในเมืองบันดาอาเจะห์ จากการมีเพศสัมพันธ์กัน โดยทางการจังหวัดอาเจะห์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวชายทั้งสองคน หลังจากทั้งคู่ถูกเฆี่ยนครบ 82 ครั้ง
ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ประณามการลงโทษดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการลงโทษตามกฎหมายต่อต้านการรักเพศเดียวกันที่ประกาศใช้ในจังหวัดอาเจะห์ตั้งแต่ปี 2557 เป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ปัจจุบันจังหวัดอาเจะห์เป็นเพียงจังหวัดเดียวของอินโดนีเซีย ที่การมีความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันถือเป็นความผิดอาชญากรรม รวมถึงยังคงใช้กฎหมายอิสลามควบคู่ไปกับการใช้กฎหมายอาญา
ส่วนอีกชาติอาเซียนคือ เวียดนาม ที่มีความเคลื่อนไหวด้านสิทธิของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ในแง่กฎหมายมาตั้งแต่ต้นปี 2558 โดยบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการแต่งงานและครอบครัวฉบับปรับปรุงใหม่ ซึ่งยกเลิกการห้ามแต่งงานของคนเพศเดียวกัน แต่ก็ยังคงมาตราที่ระบุว่า รัฐจะไม่รับรองสถานะการแต่งงานระหว่างบุคคลเพศเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า ในแง่การยอมรับของสังคมนั้น กลุ่ม LGBTQI ในเวียดนามยังคงต้องเผชิญการถูกกีดกันจากสังคม