โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

5 คนสำคัญที่ทำให้ทุกๆ วันเป็นวันที่ดี - เพจบันทึกนึกขึ้นได้

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 13 ส.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • เพจบันทึกนึกขึ้นได้

ปกติแล้วสำนักข่าว นิตยสารหัวใหญ่ๆ มักจะทำสรุปบุคคลสำคัญ

บุคคลผู้มีอิทธิพลกับโลกใบนี้ เรียงลำดับกันออกมา ว่าใครเด่นด้านไหน

ใครทำอะไรกันมาบ้างในทุกๆ ปี

 

ผมชอบเข้าไปอ่าน แล้วก็มีหลายๆ คนที่เราชื่นชม อยู่ในนั้นด้วย

เวลาได้รับรู้เรื่องราวของบางคน มันก็สร้างแรงบันดาลใจให้เราได้เหมือนกัน

 

ผมก็เลยคิดว่า ภาพของโลกมันดูกว้างเกินไปในความคิดผม

จริงๆ แล้วในชีวิตเนี่ย ปีที่ผ่านมา วันที่ผ่านไป ถ้าจะคิดว่าคนที่สำคัญ

คนที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

คนที่คอยสนับสนุนความฝันของเรา เราควรจัดลำดับเค้าเหล่านั้นขึ้นมา

เพื่อขอบคุณ เพื่อได้ย้อนกลับไปคิดว่า ถ้าไม่มีเค้าคนนั้น ตอนนี้เราจะเป็นยังไง

 

ถึงเวลาจะผ่านไป มันก็จะมีคนที่เปลี่ยนค่าหน้าตาไปไม่กี่คนหรอก

แต่เราเคยได้กลับมานั่งคิดเงียบๆ คนเดียวมั้ยว่า

การมีอยู่ของเราตอนนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเป็นอยู่ของเราเพียงคนเดียว

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการมีใครอีกหลายๆ คนที่เป็นตัวหล่อหลอมให้เราเป็นตัวเองในวันนี้

 

เราต่างเป็นบทเรียนให้กันและกัน

เค้าอาจเป็นบทเรียนที่ดีให้เรา

เราก็อาจจะเป็นบทแย่ๆ ที่ใครบางคนก็ไม่อยากจำ

 

แต่เมื่อจะต้องคิดถึงกันก่อนที่วันนี้จะผ่านไป

ลองมานั่งคิดกันนะครับว่า

5 คนสำคัญ ที่ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ดี มีใครบ้าง

 

1.

 

คนแรกที่คิดว่าขาดไม่ได้ คือ แม่ ของผมเอง

คือ ถ้าตอนนี้พ่อยังอยู่ก็คงให้ยืนคู่กันในตำแหน่งนี้

(อย่างที่เคยเล่าไปในตอนสิ่งที่นึกขึ้นได้จากการสูญเสียตอนที่พ่อผมจากไปด้วยโรคมะเร็ง)

 

แม่ผมเนี่ย ไม่ค่อยเหมือนแม่คนอื่นๆ

ผมมาเลิกคิดว่า แม่จะต้องเป็นเหมือนนิยามคำว่าแม่ตามที่ใครๆ เค้ารู้กัน

ว่าแม่คือคนที่อย่างนั้น อย่างนี้ ตอนที่ผมเสียพ่อไป

 

แม่ผมนี่ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคนอื่น

เป็นผู้หญิงคนนึง ที่ไม่ได้เพรียบพร้อม

ไม่ได้ทำหน้าที่แม่ได้ดีอะไรแบบที่ใครๆ

หรือผมสร้างมาตราฐานไว้

 

ลองคิดภาพเรามีเพื่อน ที่มันมีเริ่มจะมีลูก

เราก็จะรู้ว่า เพื่อนเรามันก็ไม่ได้เป็นคนที่ดี คนที่ยอดเยี่ยม

แต่มันก็พยายามทุกอย่างที่จะเลี้ยงลูก แล้วก็นำพาไปให้ตลอดรอดฝั่ง

 

แม่ผมก็เป็นคนแบบนั้นแหละ

ปีนี้ผมทะเลาะกับแม่บ่อยมาก

บ่อยแบบมากๆ ด้วยความที่ผมชอบคิดไปเองว่า

เค้าควรจะทำแบบนี้สิ เค้าควรจะเป็นแบบนี้สิ

จนวันนึงก็มาคิดว่า นี่เราอยากได้อะไรจากแม่หรอ

แม่ก็เป็นคนนะ จะอะไรกับเขามากมาย

 

ดูตัวเองก่อนว่าบางทีเรายังไม่ได้ดั่งใจกับตัวเองเลย

 

ผมก็เลยจะปล่อยให้แม่เป็นตัวของตัวเองไปนั่นแหละ

ก็ยังดูแลกันอยู่ใกล้บ้าง ห่างบ้าง พอเว้นระยะให้เราทั้งสองสบายใจ

 

แต่สิ่งหนึ่งที่แม่ทำให้ทุกวันเป็นวันที่ดี

เพราะแม่คือคนที่คิดถึงผมเป็นคนแรกของทุกวันเสมอ

 

เอาจริงๆ คุณผู้อ่าน

แม่ส่งรูปสวัสดีวันจันทร์ อังคาร พุธ

ส่งมาหาทุกเช้า เที่ยง เย็น ก่อนนอนส่งมาตลอด

ในขณะที่บางทีผมเองก็มัวแต่ไปส่งหา ถามหาจากคนอื่น

 

เวลาแม่ไปที่ไหน แม่ชอบเอาเราไปอวด

แม่ชอบโทรมาหาแล้วให้เราคุยกับเพื่อนแม่

แล้วชอบถามว่า จำป้าคนนี้ได้มั้ย น้าคนนี้ได้มั้ย

ซึ่งเราไม่เคยจำได้

 

แต่เรารู้ว่าลึกๆ นั่นคือเราคือความภาคภูมิใจของแม่

นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า เออ เรามีค่ากับใครสักคนเหมือนกันนะ

 

ซึ่งพอเรารู้ว่าเราสำคัญกับใคร

ผมว่านั่นทำให้เรามีแรงที่จะเดินหน้าต่อไป

เวลาเรารู้ว่าที่เรากำลังทำอยู่ทำเพื่อใคร

มันก็ทำให้ทุกวันของเรามีความหมายเพิ่มขึ้นนะ

 

 

2.

 

เจ้านาย

 

ถ้าอ่านกันมาตั้งแต่แรก คุณจะรู้ว่าผมทำงานประจำ

เป็นมนุษย์เงินเดือนในโรงงานสัญชาติญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง

 

เจ้านายผมเป็นผู้หญิงครับ

ขยายความต่อได้ด้วยว่า เป็นผู้หญิงที่เก่งมากๆ

 

เป็นอีกคนที่ผมยึดถือทั้งการทำงาน

การวางตัวของเค้าเป็นแบบอย่าง บางอย่างในการใช้ชีวิต

 

ผมชอบทำงานกับคนที่ทำให้ผมเก่งขึ้น

แล้วตลอดเก้าปีที่ผมทำงานกับเจ้านายผมคนนี้มา

ผมรู้สึกว่าผมไม่เคยยืนอยู่กับที่เลย

 

เวลาทำงาน เรื่องเงินก็สำคัญนะ

แต่เรื่องสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเจ้านาย ผมว่ามันเป็นแก่นเลยนะ

 

ถ้าเราได้เจ้านายดี เราได้คนที่เป็นผู้นำให้เรา

แถมเค้าก็สามารถดึงศักยภาพตัวเราออกมาให้เราได้เห็นว่า

เออ จริงๆ เราไม่เชื่อนะว่าเราทำแบบนี้ได้ จนกระทั่งได้ทำงานด้วยกัน

 

แกเป็นทั้งเจ้านาย เป็นทั้งพี่สาวที่เข้าอกเข้าใจ

คนที่ Multi skill แบบผม แล้วเป็นSkill แบบเป็ดๆ ด้วย

คือแกสนับสนุนผมทุกทาง ไม่ว่าเป็นงานหลัก หรืองานอดิเรกที่ผมสนใจ

เรียกว่าถ้า วันนี้ ปีนี้และปีก่อนไม่มีเจ้านายผมคนนี้

 

ก็น่าจะเป็นปีที่ชีวิตการทำงานลำบากอยู่พอสมควรเลย

 

3.

 

คนที่สามเนี่ย ผมว่ามันเป็นความบังเอิญนะ

คือ คุณผู้ฟัง เคยคิดมั้ยว่า เราจะได้รู้จักกับคนที่

เหตุการณ์ในชีวิตของเรา แล้วก็ของเค้า

มันจะพาราเลลกันไปเรื่อยๆ

 

เวลาที่เราเจออะไรในชีวิต เหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นในชีวิตมันด้วย

ฉาก บทสนทนา ความรู้สึก จะไม่เหมือนก็แค่ตัวละครที่แตกต่างกันไป

 

มันเกิดขึ้นกับผม แล้วก็เพื่อนสนิทอีกคนนึง

 

คือเอาง่ายๆ อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ไม่ว่าจะดีหรือร้าย

เกิดขึ้นในชีวิตมันด้วย

แล้วพอเราต้องโคจรมารู้จักกัน แล้วรู้สึกว่า

นี่มึงคือกู กูคือมึงรึเปล่า

 

นั่นทำให้ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกัน เราแชร์ความคิดเห็นกันเยอะมาก

ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่สนิทใจ ในระดับที่เรียกว่า

ไม่ต้องพูดกันเยอะแล้ว

 

ซึ่งการมีเพื่อนที่ดี นี่มันสำคัญในการเติบโตต่อไปในชีวิตเลยนะ

ผมเป็นคนที่เพื่อนน้อยมาก

ยิ่งเพื่อนสนิทนี่นับคนได้

ยิ่งถ้านับแบบสนิทที่เล่าทุกเรื่องได้นี่ หน่วยนับจะถึงคนรึเปล่าก็ไม่รู้

 

แต่คนนี้เป็นอีกคนที่เข้ามาทำให้ผมรู้สึกว่า

การได้มีเพื่อนที่ดี ที่ให้กำลังใจกัน ในทุกช่วงตอนของชีวิต

เป็นรางวัลที่ดีที่สุดในช่วงเวลาที่ท้อแท้เลยนะ

 

ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้มันก็น่าจะอ่านอยู่

แล้วผมก็อยากจะบอกมันว่าขอบคุณสำหรับการทำให้ทุกวันเป็นวันที่ดี

แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ยังมีเรื่องที่หนักหนาสาหัสรอมึงอยู่

 

แต่ก็ยังเชื่ออยู่เสมอว่า มึงจะผ่านมันไปได้

แล้วเราก็จะผ่านมันไปด้วยกัน

 

 

 

4.

 

คนที่สี่นี่มีหลายคน เรียกว่าทั้งกลุ่มเพื่อนสนิทของผมทั้ง7 คนเลย

 

ผมคิดว่าเป็นคนโชคดีนะ

ที่เพื่อนสนิททุกคน สนับสนุนความฝันของผม

 

มันจะมีเพื่อนสนิทอีกสองคนที่เป็นคนคอยกรองการทำพ็อดแคสและงานเขียนของผมอยู่

ตั้งแต่เริ่ม

ผมจะอัดให้มันฟังก่อน คอยถามมันตลอดว่า หัวข้อแบบนี้ดีมั้ย

ใช้คำแบบนี้ดีมั้ย ตอนนี้พูดเป็นยังไง เร็วไปช้าไป

เขียนแบบนี้คนจะอ่านไหม จะรู้สึกยังไง สำหรับมุมคนอ่าน

 

ถือว่าเป็นผู้ให้ความเห็นแบบตรงๆ แบบที่ไม่เกรงใจ

แบบที่ยังมีความห่วงใยในความฝันของผมเสมอ

 

คือผมไม่อยากมองไกลเลยว่า

คนที่สำคัญจริงๆ มันต้องเป็นใครที่ยิ่งใหญ่

คนที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิต

 

จริงๆ เพื่อนผมมันก็คือคนที่อยู่ข้างๆ

คอยสนับสนุนเราในวันที่เราไม่มั่นใจในตัวเอง

คนที่โทรไปร้องไห้กับมัน คนที่เราบอกให้มันเก็บเสื้อผ้ามานอนเป็นเพื่อน

คนที่มันทำให้ช่วงเวลาที่เลวร้าย มันผ่อนคลายลง

แล้วก็คนที่มันทำให้ช่วงเวลาที่ดี มันน่ายินดีขึ้นไปอีก

 

5.

คนสำคัญคนสุดท้าย ที่ทำให้ทุกๆ วันเป็นวันที่ดี

 

นั่นคือ ตัวผมเอง

 

แบบนี้ก็ได้หรอ?

ใช่ๆ แบบนี้ก็ได้แหละ

 

นอกจากจะต้องขอบคุณคนสำคัญทั้งหมดที่เล่าไป

ผมคิดว่าคนที่เราควรจะต้องขอบคุณอีกคนมากๆ เลยในปีนี้ก็คือตัวเราเอง

 

สำหรับผม ผมอยากขอบคุณตัวเอง

ขอบคุณในความอดทน ที่ทำให้เราผ่านแต่ละวันไปได้

ทุกอย่างมันผสมกันจนทำให้เรารู้สึกว่า เออ เดินทางมาถึงวันนี้ได้

กูก็เก่งเอาเรื่องเหมือนกันนะ

 

จริงๆ ผมไม่รู้เลยว่า ทุกวันที่กำลังจะผ่านไป จะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง

ทุกสิ่งที่ผมทำในแต่ละวันจะนำพาผมไปที่ไหน

 

ผมแค่คิดว่า ผมได้ทำสิ่งที่ผมเชื่อ สิ่งที่ผมมีความสุขกับมัน

มันจะพาผมไปพบกับใครกับอะไร ทุกอย่างน่าจะเป็นกำไรของการได้ทำทั้งหมด

 

ขอบคุณตัวเองที่ไม่เคยหยุด

ผมชีวิตผมวุ่นวายมาก ทำงานประจำ สอนพิเศษ เขียนคอลัมน์

ทำพ็อดแคส ออกไปบรรยายตามองค์กรต่างๆ

แต่ทุกอย่างที่ทำคือความสุข แม้จะโคตรเหนื่อย

 

ขอบคุณทุกคนที่ผ่านเข้ามาในปีนี้ แล้วก็ขอบคุณบางคนที่ค่อยๆ หายไปจากปีนี้ด้วยเช่นกัน

คนที่ยังอยู่ด้วยกัน หวังว่าเราจะทำให้ทุกๆ วันมันเป็นวันที่ดีขึ้นไปอีก

ส่วนคนที่จากกันไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลหรือความไร้สาระของช่วงวัย

ก็หวังว่าวันเวลาจะสอนให้เราได้รู้คุณค่าของความสัมพันธ์

 

ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกคนที่ทำให้เป็นอีกวันที่ดีของผมเช่นกันนะครับ

 

ทีนี้แล้วอยากให้คุณลองลิส5 คนสำคัญที่ทำให้ทุกๆ วันเป็นที่ดีของคุณบ้าง

 

มาเล่าให้อ่านกันในคอมเม้นท์ข้างล่างนะ เดี๋ยวจะมาตามอ่าน

ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก เพจบันทึกนึกขึ้นได้ ได้บน LINE TODAY ทุกวันศุกร์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0