บล.กรุงศรี ประเมินความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นกรอบจำกัดบริเวณ 1,640 จุดก่อนสลับอ่อนตัว โดยภาวะตลาดได้ปัจจัยหนุนเชิงบวกตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นจากความคาดหวังการประชุมทางไกลระหว่างสหรัฐ-จีนเพื่อหารือแนวทางการค้าในวันนี้ (15 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนจากความกังวล FED อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดหลังภาวะเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นซึ่งจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน:Selective Buy
กลุ่มเปิดเมือง AOT AAV BA MINT KBANK SCB CPN CRC HMPRO CPALL AMATA WHA BTS BEM VGI BH BDMS
กลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ HMPRO CPALL TNP KK
หุ้นแนะนำวันนี้
MAJOR ราคาหุ้นร่วง 13% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดกำไรสุทธิ 3Q21 อาจจะไม่ได้สูงอย่างที่เราและตลาดคาดไว้เนื่องจากบริษัทอาจจะบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษเข้ามาประมาณ 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเป็นรายการ one – time และงบปกติ 4Q21 กลับมาฟื้นตัวและมีลุ้นจ่ายปันผลพิเศษ 1 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield 5%
EA MSCI ESG Ratings เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ EA สู่ระดับ AA ขึ้นแท่นเป็น ESG Leader ด้านผลประกอบการคาดกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3 โตต่อเนื่องจากแรงหนุนของโรงไฟฟ้าพลังงานลมซึ่งเป็น high season และธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า(EV car) จะเริ่มมีกำไรหลังจากทยอยส่งมอบรถบัสไฟฟ้าแล้ว
ประเด็นสำคัญวันนี้
ต้นสัปดาห์ยังต้องระวังแรงขายปรับพอร์ตและ Sell on fact เนื่องจากวันที่ 15 พ.ย. เป็นวันสุดท้ายของการส่งงบ 3Q21 หุ้นที่งบออกมาดีแต่ราคาปรับขึ้นไปแล้วเสี่ยงถูกเทขาย เช่นเดียวกับหุ้นที่งบออกมาน่าผิดหวังและต่ำกว่าที่ตลาดคาดก็มีโอกาสถูกเทขายเช่นกัน
15 พ.ย. สภาพัฒฯ มีกำหนดประกาศ GDP ไตรมาส 3/21 ของไทย เบื้องต้นฝ่ายวิจัยธนาคารกรุงศรีฯ คาดว่ามีโอกาสพลิกเป็นหดตัว 1% ส่วน Bloomberg Consensus คาดหดตัว 0.8% จากการออกมาตรการล็อกดาวน์ 29 จังหวัด อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะมีผลกับบรรยากาศการลงทุนจำกัดเนื่องจากตลาดรับรู้อยู่แล้ว
เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์มีผู้ติดเชื้อ Covid-19 พุ่งทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาด ขณะที่เนเธอร์แลนด์ประกาศใช้มาตรการปิดเมืองบางส่วนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาการระบาดของไวรัส Covid- 19 ยังประมาทไม่ได้