ราคาที่ดินกรุงเทพฯและปริมณฑลพุ่ง สะท้อนภาพเศรษฐกิจยังคงเติบโต แลไม่ได้รับผลกระทบจากภาษีที่ดินมากนัก
วันนี้ (17 พ.ค. 60) นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยบจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตทแอฟเฟร์ส เปิดเผยผลสำรวจราคาที่ดินทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 59 ราคาที่ดินปรับเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 4 โดยราคาที่ดินที่แพงที่สุดได้แก่ บริเวณสยามสแควร์ ที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีราคาตารางวาละ 2.13 ล้านบาท จากเดิม 2 ล้านบาท ต่อตารางวา สาเหตุที่แพงที่สุดเนื่องจาก เป็นที่ดินใจกลางเมืองมีสาธารณูปโภคโดยเฉพาะรถไฟฟ้า ทำให้เข้า-ออกเมืองได้สะดวก เหมาะเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ และเป็นสำนักงาน จึงมีราคาสูงขึ้นตลอดเวลาแม้ปัจจุบันจะไม่มีการพัฒนามากนักในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนอันดับที่ 2 ได้แก่ที่ดิน บริเวณชิดลมที่มีราคาประมาณ 2 ล้านบาทต่อตารางวา อันดับ 3 บริเวณสุขุมวิทช่วงต้นๆ ราคาที่ดินแตะ 2 ล้านบาท อันดับ 4 บริเวณจุดตัดอโศกและสุขุมวิทราคาที่ดินประมาณ 1.8 ล้านบาท และอันดับ5บริเวณสีลมราคาที่ดิน 1.7 ล้านบาทต่อตารางวา ส่วนราคาที่ดินที่ถูกที่สุดในบริเวณปริมณทลรอบ ๆ กรุงเทพฯ อยู่ที่ถนนเลียบคลอง 13 กม. 5 โดยวัดจากขนาดที่ดินราคา 4 ไร่ มีราคาตารางวาละ 2,300 บาท หรือไร่ละ 920,000 บาท สาเหตุเพราะบริเวณลำลูกกาไม่มีโครงการสาธารณูปโภคใดที่จะพัฒนา หรือ แม้จะมีการพัฒนาคือถนนวงแหวนรอบนอก(สุด) คงใช้เวลาอีกนานพอสมควร.
นายโสภณ กล่าวว่า จากการที่ราคาที่ดินยังคงพุ่งสูงขึ้น ทำให้เห็นได้ว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโต จึงมีการอัพราคาที่ดินเพิ่มได้ เพราะยังเชื่อมั่นว่าจะยังมีผู้ซื้อ ขณะที่ในเรื่องของภาษีที่ดินเองนั้นเชื่อว่าจะไม่มีผลกับราคาที่ดินมากนักเพราะกลุ่มเศรษฐีต่าง ๆ คงตัดสินใจโอนที่ดินให้กับลูกหลานต่าง ๆ เพื่อลดภาระเรื่องการโอนกันไปหมดแล้ว ทั้งนี้ยังมีที่ดินบางส่วนที่อยู่นอกเหนือการเก็บการประเมินโดยศูนย์ข้อมูลฯจะเก็บข้อมูลที่ดิน 4 ไร่ขึ้นไป
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า ยังถือว่าราคาประเมินที่ดินของราชการ ต่ำกว่าราคาตลาดมาก ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ราชการประเมินที่ดินสีลม มีราคาแพงที่สุด ประมาณตารางวาละ 1 ล้านบาท เพราะทางราชการมองว่าสีลมเป็นย่านศูนย์กลางทางการเงินมีอาคารสำนักงาน แต่จริง ๆ แล้วราคาที่ดิน บริเวณสยาม-ชิดลม-เพลินจิต มีค่าสูงกว่า เพราะเป็นทำเลการค้า ที่สร้างรายได้ ได้มากกว่าอาคารสำนักงาน.