โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เรื่องจริงที่คุณควรปฏิบัติ ก่อนจะทำร้ายตับมากไปกว่านี้

ไทยรัฐออนไลน์ - Lifestyle

เผยแพร่ 17 ก.ค. 2559 เวลา 23.01 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ใครๆ ก็รู้ว่าตับเป็นอวัยวะสำคัญมากต่อร่างกาย แต่หลายคนก็อาจไม่รู้ว่าตับทำหน้าที่อะไร “ตับ” เปรียบเสมือนโรงงานกำจัดขยะ ที่จะคอยกำจัดสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย แต่ไม่ใช่แค่นั้น ตับยังเป็นแหล่งสังเคราะห์พลังงานต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ เช่น โปรตีน น้ำตาล และสร้างน้ำดีที่ใช้ย่อยไขมัน ลองคิดกันดูเล่นๆ สิว่า ถ้าหากเรานำสารพิษเข้าในร่างกายปริมาณมากๆ จนตับของเราเสื่อมประสิทธิภาพจนกำจัดสารพิษออกไปได้ไม่หมด แล้วร่างกายของเราจะเป็นยังไง?

ซึ่งสารพิษที่มีผลกระทบต่อตับ ที่เจือปนอยู่ในอาหารก็มีหลายรูปแบบ เช่น เชื้อรา ยาบางชนิด สารพิษอื่นๆ ในอาหาร ซึ่งสารพิษเหล่านั้น เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าที่เรากินไปจะมีหรือไม่? แต่มีสารพิษอีกหนึ่งชนิดที่เรารู้ และ เต็มใจนำมันเข้าสู่ร่างกายนั่นก็คือ “เหล้า” นั่นเอง

“เหล้า” คือสาเหตุสำคัญที่ทำร้ายตับมากที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะเหล้าไม่มีสารอาหารอะไรนอกจากเป็นสารพิษที่ต้องถูกส่งไปให้ตับทำลาย แต่เมื่อมีในปริมาณที่มากเกินกว่าที่ตับจะรับมือได้ และกลายเป็นผู้ถูกทำร้ายจนอักเสบเกิดรูรั่ว ทำให้ของดีอย่างเอนไซม์ในตับรั่วไหลไปตามกระแสเลือด ดังนั้นหากตรวจพบเอนไซม์ตับในเลือดเยอะแปลว่า “ตับของคุณกำลังมีปัญหาแน่นอน” ซึ่งในปัจจุบันนี้มีการสำรวจพบว่า วัยรุ่นไทยแม้จะยังอายุน้อยแต่ก็เป็นโรคความดันโลหิตสูง และส่วนใหญ่ก็มีสาเหตุมาจากการดื่มเหล้า โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังเสี่ยงต่อการเป็นหลายโรครุมเร้ามากมาย เช่น ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ โรคตับแข็ง หรือ มะเร็งตับ

หลายคนอาจจะบอกว่า “ก็กินมาตั้งนานแล้วไม่เห็นจะเป็นอะไร ยังแข็งแรงอยู่” แต่จริงๆ แล้ว พิษของแอลกอฮอล์นั้น จะไม่ได้แสดงในทันที แต่จะไปทำลายเซลล์ที่อยู่ภายในตับให้อ่อนแอและตายไปเรื่อยๆ ซึ่งหากเซลล์ตับเราตาย จะไม่สามารถสร้างใหม่ได้อีก เมื่อตับของเราเสื่อมประสิทธิภาพ ผลที่ตามมาร่างกายของเราจะค่อยๆแสดงออกให้เห็น เช่น เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ อ่อนเพลียง่าย ซึ่งถ้าเรายังเร่งทำร้ายตับในระยะยาวก็จะส่งผลรุนแรงถึงชีวิตเลยก็ได้ ไม่แปลกเลยที่นักดื่มทั่วไปจะไม่ทันได้ระวังตัว กว่าจะรู้ตัวก็อาจสายเกินแก้ ทำได้เพียงกินยา รักษาตัว ประทังชีวิตไปเท่านั้น ตับก็เปรียบเสมือนเครื่องยนต์หากคุณใช้รถอย่างไม่ถนอมตามสมรรถนะของมันล่ะก็ อายุการใช้งานมันก็จะสั้นลงตามไป ร่างกายของเราก็เช่นกัน

ดังนั้น ลองถามใจตัวเองดูว่า “อยากเลิกก่อนเป็น หรือ รอให้เป็นแล้วค่อยเลิก”

แต่ก็ยังไม่สายจนเกินไปหากจะเริ่มฟื้นฟูตับในตอนนี้ รู้ไหมว่า…อวัยวะสำคัญของร่างกายอย่างตับ สามารถฟื้นฟูตัวมันเองได้ง่ายๆ เพียงแค่คุณไม่ทำร้ายมันเพิ่ม และดูแลมันให้ดี เซลล์ที่เคยอ่อนแอ ก็จะกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม วันนี้เรามีเคล็ดลับในการดูแลและฟื้นฟูตับของเราให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ด้วยต่อไปนี้

1.เลิกดื่มเหล้า แอลกอฮอล์ทุกชนิดที่เป็นตัวบ่อนทำลายตับ แค่คุณ “พักตับ” เลิกดื่ม ก็ช่วยให้ตับไม่ต้องทำงานหนักและฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงได้อย่างรวดเร็ว

2.เข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม เพราะในช่วงเวลา 22.00-02.00 น. เป็นช่วงที่ตับจะซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุด

3.ไม่ควรทานยาหากไม่จำเป็น เพราะยาเป็นสิ่งที่ทำลายตับโดยตรง

4.ขับถ่ายให้เป็นเวลา เพราะอาการท้องผูกจะทำให้ตับทำงานมากขึ้น

5.ไม่ควรทานอาหารที่ปรุงแต่ง ใส่สีผสมอาหาร วัตถุกันเสียและ น้ำตาลเทียม

6.อย่าให้อ้วนและอย่ากินอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงปริมาณมาก เพราะอาจจะเสี่ยงเป็นไขมันแทรกในตับได้

เพราะตับของเรามีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ได้มีอะไหล่สำรองที่เสียไปก็เปลี่ยนได้ ดังนั้นมาถนอมรักษาให้ตับอยู่กับเราไปนานๆ ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มตอนไหน ในช่วง 3 เดือน เข้าพรรษานี้ ให้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาดูแลพักรักษา ฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของตับกันดีกว่า มาเริ่ม “พักตับ” งดเหล้าครบพรรษา เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรักไปพร้อมกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณหมอพงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการโครงการสร้างเครือข่ายแพทย์ชนบทเพื่อควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของ สสส.

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0