“อาบป่า” เมื่อร่างกายเรียกหาธรรมชาติ

   หยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ มีใครว่างไป “อาบป่า” กันมั้ยคะ บอกก่อนว่านี่ไม่ใช่การไปฟื้นฟูธรรมชาติ แต่คือการเข้าไปให้ธรรมชาติช่วยฟื้นฟูเรา ซึ่งการใช้ธรรมชาติบำบัดแบบนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น มากว่า 40 ปีแล้ว เรียกว่า “ชินริน-โยคุ” แปลตรงๆ ก็คือ “การอาบป่า” นั่นเองค่ะ

   วิธีการก็ไม่ยากค่ะ แค่เดินอย่างช้าๆ เข้าไปหาธรรมชาติ ค่อยๆ ใช้สายตาซึมซับความเขียวชอุ่มของใบไม้ แสงแดดที่ส่องผ่านร่มเงาไม้ลงมา เมื่อถึงจุดหนึ่งจึงหยุดเดิน ปิดตาเพื่อใช้ประสาทสัมผัสกับลมเย็นๆ  ที่มากระทบใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ รับอากาศบริสุทธิ์ กลิ่นดิน กลิ่นใบไม้ใบหญ้าเข้าสู่ปอด ส่วนหูฟังเสียงใบไม้ไหว นก และแมลงร้อง นอกจากนี้ อาจใช้มือระไปตามใบไม้ หรือลูบสัมผัสความขรุขระของเปลือกไม้ ถ้าแน่ใจว่าต้นไม้นั้นปลอดภัย(ไม่มีแมลง หรือสัตว์อาศัยอยู่)จะใช้สองแขนโอบกอดลำต้นไม้ไว้สักครู่ก็ได้นะคะ บางคนอาจจะนั่งขัดสมาธิ หรือนอนแผ่ลงบนพื้นหญ้า หลับตา และใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดเปิดรับธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย

   แค่ได้ลองจินตนาการตามที่แอดบอก ก็รู้สึกถึงความสดชื่น สมองปลอดโปร่ง ร่างกายผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยคะ ปัจจุบัน “ การอาบป่า” ได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก เช่น อิสราเอล มีแคมเปญเชิญชวนให้ประชาชนออกมากอดต้นไม้ หรือที่ไอซ์แลนด์ ก็มีโครงการส่งเสริมการกอดต้นไม้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 5 นาที 
  ส่วนบ้านเราก็ไม่น้อยหน้าค่ะ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงบำบัดด้วยการ “อาบป่า” ซึ่งสถานที่แนะนำ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ,น้ำตกเหวสุวัต จังหวัดนครนายก, ป่าฮาลา-บาลา จังหวัดนราธิวาส ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทนำเที่ยวจัดทัวร์ “อาบป่า” และมีการรวมตัวของคนที่มีความสนใจเรื่องนี้ เช่น กลุ่มอาบป่ากาญจนบุรี ค่ะ

  เริ่มสนใจไป “อาบป่า ”กันแล้วใช่มั้ยคะทุกคน เอาเป็นว่า ถ้าใครยังไม่มีเวลาไปอาบป่าตามธรรมชาติ แอดแนะนำให้ลองอาบป่าในเมือง(สวนสาธารณะ) หรือป่าที่บ้าน(สวนในบ้าน) ดูก่อน แล้วคุณจะพบว่า ธรรมชาติสามารถเยียวยาเราได้ จริงๆ นะคะ
 (ภาพจาก : https://thai.tourismthailand.org/ , https://thailandtourismdirectory.go.th/ , gettyimages)

  อ่านบทความสนุกๆเพิ่มเติมได้ที่ js100funparty