โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“สายป่าน” ฟ้องเรียกค่าเสียหายเกรียนโซเชียลทำธุรกิจเสียหาย

new18

อัพเดต 14 ส.ค. 2563 เวลา 07.59 น. • เผยแพร่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 07.55 น. • new18
“สายป่าน” ฟ้องเรียกค่าเสียหายเกรียนโซเชียลทำธุรกิจเสียหาย
“สายป่าน” ฟ้องเรียกค่าเสียหายเกรียนโซเชียลทำธุรกิจเสียหาย

เริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำครั้งแรกก็เจอบุคคลในเฟซบุ๊กสร้างดราม่าจนทำให้ธุรกิจเกิดความเสียหายไปแล้วสำหรับนักแสดงสาว"สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข" ที่ตอนนี้ได้ให้ทางทนายความส่วนตัวเดินหน้าฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย โดยทางสายป่านและทนายเกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า

สายป่าน : หลายท่านอาจจะเห็นว่าช่วงหลังตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ป่านข้างคลุกคลีกับวงการดำน้ำเพราะตัวป่านเองก็ชอบดำน้ำมากๆ เลยอยู่ในวงในของการดำน้ำมาสักระยะหนึ่ง แล้วป่านมีความสนใจในด้านธุรกิจ ซึ่งช่วงหลังมานี้ก็ได้ทำธุรกิจธุรกิจหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำเป็นฟิน ตีนกบยี่ห้อ Alchemy จริงๆตัวป่านเองศึกษามาสักระยะหนึ่งแล้ว ค่อนข้างมั่นใจในแบรนด์นี้ก็เลยนำเข้ามา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กยูสเซอร์หนึ่ง สืบทราบภายหลังว่าเขาเป็นครูสอนว่ายน้ำที่สระแห่งหนึ่งในย่านรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อโจมตีธุรกิจที่ป่านทำอยู่ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ป่านทำขึ้นมาเพื่อที่จะขายอุปกรณ์ดำน้ำโดยเฉพาะ การที่เขาโพสต์ภาพนั้นออกไปทำให้ประชาชนทั่วไป ความเข้าใจผิดว่าสายป่านหลอกขายของ ทำให้มีการรุมคอมเมนต์ว่าเราไม่น่าเชื่อถือ สร้างความไม่น่าเชื่อถือและสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับลูกค้าใหม่ และลูกค้าที่เคยซื้อของของเราไปแล้ว
ทนาย : เขานำภาพซึ่งไม่ได้รับอนุญาต จากคนที่ซื้อของของสายป่านด้วย แล้วเขาก็เอาไปบิดเรื่องอีกเรื่องจนเกิดความเสียหาย ตัวป่านเองก็เป็นดารา ต้องใช้ชื่อเสียงในการทำมาหาได้ต่างๆ รวมถึงกิจการร้านกาแฟและกิจการที่ได้รับผลกระทบ 

สิ่งที่เขาพูดคืออะไร?
สายป่าน : เป็นภาพถ่ายฟินกบดำน้ำ
ทนาย : ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการใช้งานไม่ได้เกิดจากตัวสินค้า จากสายป่านหรืออะไรเลย แต่เขาเขียนในทำนองว่าของที่ซื้อจากร้านนี้มีปัญหา ซึ่งจะทำให้คนเข้าใจผิดในส่วนของบุคคล ซึ่งผมได้ตรวจเอกสารบางส่วนแล้วแต่ขออนุญาตไม่เอาให้ดู เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมตัวที่เราจะฟ้องภายในเดือนนี้ครับ พบว่ามีการยกเลิก สอบถามต่างๆทำให้ยอดขายเสียหายหลายแสนหลายล้าน
สายป่าน : หลังจากนั้นก็มีพี่ๆ ทักเข้ามาถามป่านหลายคนเหมือนกัน คือหลังจากเกิดเรื่องวันที่ 16 มิถุนายนป่านยังไม่เห็น แต่ลูกค้าส่งเข้ามาให้ดูถามว่าเห็นไหมมีคนเขาไปโพสต์แบบนี้ ป่านก็เลยตามเข้าไปดู ก่อนหน้านี้ป่านไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ไม่เคยเห็นเขามาก่อน เพิ่งมาสืบทราบภายหลังว่าเขาเป็นครูสอนดำน้ำที่สระแห่งหนึ่ง และไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ดำน้ำสักเท่าไหร่หรืออาจจะมีอันนี้เราไม่ทราบ แต่การไปทางวิจารณ์หรือโพสต์ข้อความอะไรแบบนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง อย่างที่พี่ตั้มบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากการกระทำของเรา แต่เกิดจากการใช้งานของลูกค้าจริงๆ ป่านเลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องชี้แจงแถลงไข ต้องบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของป่าน สิ่งที่เค้าโจมตีค่อนข้างส่งผลกระทบต่อชีวิตของป่านและบริษัทด้วย
ทนาย : ต้องบอกว่าป่านเหมือนสวมหมวก 2 ใบ ใบแรกคือบุคคลธรรม คือตัวสายป่านเองที่เป็นดารา อีกอันหนึ่งก็คือในส่วนที่เป็นกรรมการของบริษัท เพราะว่ากิจการเพิ่งตั้งต้น การที่เขายอดขายตกลงไม่ได้เกี่ยวกับช่วงโควิด-19 เพราะตอนช่วงโควิดที่มีการคลายล็อกดาวน์ ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ สินค้าของป่านขายดีมาก พอตรวจสอบเอกสารอันนี้ เรามีให้ดูได้เลย แต่พอเกิดเรื่องในช่วงเดือนถัดมาคือถูกแคนเซิลหมดเลย เสียหายค่อนข้างมาก แล้วถูกโจมตีหลายอย่างเลยทีเดียว การกระทำครั้งนี้เหมือนความผิดมันสำเร็จไปแล้วเพราะว่าเขาก็ได้เขียนโจมตีใส่ร้ายขึ้นมา บุคคลภายนอกก็หลงเชื่อ มีคอมเมนต์ต่างๆมากมาย ตรงนี้เดี๋ยวเราจะตรวจสอบเพิ่มเติมอีกว่า มีใครที่เข้าค่ายอีกบ้าง นอกจากคนนี้

ที่เขาทำไปเพื่อต้องการดิสเครดิตเราหรือว่าอย่างไร?
ทนาย : อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจนะครับ เดี๋ยวยังไงต้องดูเจตนาของเขาด้วย แต่เจตนาที่เขากระทำการหมิ่นประมาทตรงนี้มันชัดเจนแล้ว แล้วก็เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วย โทษก็จะหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าในส่วนที่เขาโพสต์เฟซบุ๊กเขาโพสต์เป็นสาธารณะด้วย เปิดพลับบลิค มีคนเข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาแชร์ต่างๆมากมาย แล้วภายหลังจากวันที่ 17 มิถุนายน ทางสายป่านก็มีคนส่งเข้ามาให้อีก ก็เพิ่งจะมาทราบภายหลัง ว่ามีการไปคอมเมนต์ข้อความลักษณะแบบนี้ ที่โจมตีทางสายป่านกับบริษัทอีกก่อนหน้านี้ด้วย เพิ่งทราบ
เขาไม่ได้ใช้เอง แต่นำภาพของบุคคลอื่นมา?
ทนาย : เหมือนกับว่าไปเห็นคนวางของไว้ แล้วมีรอยก็ถ่ายมา แล้วก็พิมพ์ข้อความ

เราได้ติดต่อเขาไหม?
สายป่าน : หลังจากเกิดเรื่อง คือหลังจากสืบค้นแล้วว่าเป็นใคร ก็มีส่งข้อความไปบอกเขาว่าการกระทำแบบนี้ของเขาคือไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของตีนกบที่แท้จริง แล้วก็บอกเขาว่าการกระทำแบบนี้ทำให้คนหลงเชื่อแล้วก็เข้าใจผิดได้ ป่านขอแจ้งให้ทราบเพียงเท่านี้ ป่านบอกเขาแบบนี้ เขาก็บอกโอเคครับ แล้วหลังจากนั้นมาก็มีการลบโพสต์ ซึ่งไม่ได้แก้ไขข้อมูล ไม่ได้กอบกู้ชื่อเสียงที่มันเสื่อมเสียไปแล้ว ป่านจำได้ว่าตอนนั้นคอมเมนต์มันประมาณ 65 คอมเมนต์ ที่มีการเข้ามาเมนต์กันอย่างสนุกสนาน
ทนาย : ต้องเข้าใจด้วยว่าพอเป็นการคอมเมนต์สนุกสนาน แล้วเป็นสาธารณะแบบนี้ แล้วเป็นดาราด้วย คนก็เข้ามาอ่านค่อนข้างมาก เรื่องมันก็ไปไกล ทั้งวงการดำน้ำและอื่นๆ ครับ เสียหายเยอะเลยทีเดียว
มูลค่าที่เสียค่าทั้งหมดเท่าไหร่?
ทนาย : ที่ยกเลิกจริงๆ ถ้าฟ้องก็ยอดเยอะครับ เป็นแสนเป็นล้าน จริงๆมันมีความเสียหายในส่วนอื่น ที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้ด้วย
จะฟ้องเขาข้อหาอะไรบ้าง?
ทนาย : ที่แน่ๆ เลยก็คือหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาครับ เรียกค่าเสียหายด้วย ก็เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญาอยู่แล้ว ตอนนี้คือกำลังสรุปยอดอยู่ครับ เพราะมันมีความเสียหายอื่นๆด้วย เนื่องจากแบรนด์ที่ป่านนำเข้ามา เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศกรีซด้วย ถ้าใครเป็นนักดำน้ำก็จะทราบ ว่าเขาเป็นตัวแทนจัดแข่ง แล้วก็เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างแข็งแรงมีชื่อเสียง ก็กระทบหลายส่วนเลยทีเดียวครับ

ล้านเลยใช่ไหม?
ทนาย : เป็นล้านครับ แล้วก็ความผิดคือถึงเขาลบไปแล้ว แต่ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แทนที่เขาจะแสดงความรับผิดชอบต่างๆ ก็ไม่เลย กลับปล่อยให้ความเสียหายมันกระจายเป็นวงกว้างไปอีก
คือจะเอาเรื่องถึงที่สุด?
ทนาย : คือเหมือนทางน้องเขาต้องกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาครับ เพราะเขาก็มีเวลานานแล้วนะ ที่จะเข้ามาดำเนินการตรงนี้ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องต่างๆ ด้วย
แต่เราได้คุยกับเจ้าของภาพฟิน ตีนกบ แล้วใช่ไหม ว่ามันเกิดจากความเสียหายจากตัวเขาจริงๆ?
สายป่าน : ใช่ค่ะ
ทนาย : เรามีส่งตรวจแล็ปด้วย

หลังจากข่าววันนี้ออกไป ครูคนนั้นเขาติดต่อกลับมาเจรจากับเราไหม?
ทนาย : ทางครูและบุคคลที่เกี่ยวข้อง จากที่ได้คุยกับทางน้องและครอบครัวน้อง รวมถึงเรื่องของฟินในบริษัท ก็คิดว่าคงต้องไปคุยกันในศาลครับ
สายป่านรู้สึกอย่างไรบ้างที่ทำธุรกิจก็มาจออะไรแบบนี้?
สายป่าน : คือพี่ๆ ทุกคนก็จะรู้อยู่แล้ว ว่าหนูเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับใคร ป่านก็จะอยู่ของป่านแบบนี้มาตลอด เรื่อยๆ พยายามไม่ยุ่งกับเรื่องดราม่าต่างๆ แต่ว่าอันนี้มันไม่ได้กระทบกับแค่ตัวป่านคนเดียว ป่านเคยบอกว่าชื่อเสียงป่าน ป่านสะสมมาตลอดระยะเวลาการทำงาน ทำป่านคนเดียว ป่านไม่เคยโกรธเลยนะ ใครว่าป่านป่านไม่เคยโกรธเลย แต่ว่าในกรณีที่เป็นบริษัท และป่านมีคนอื่นๆ ที่ป่านต้องรับผิดชอบอีก ในบริษัทมันมีหลายคน ดังนั้นมันเสื่อมเสีย เวลาเขาทำแบบนี้ มันเสียทั้งองค์กร ถ้าเกิดป่านไม่ออกมาเพื่อที่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า ฉันออกมากอบกู้ชื่อเสียงนะ อย่างน้อยคุณทำลายแต่ว่าฉันรู้สึกนะ ฉันกอบกู้นะ มันก็จะสนุกกับแค่การโพสต์ของคนบางคน ซึ่งอันนี้ป่านรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับป่าน ป่านเลยต้องออกมาทำอะไรแบบนี้ เพื่อเป็นเคสตัวอย่าง

ทนาย : เหมือนเคสนี้ก็ฝากเป็นตัวอย่างว่าเวลาจะโพสต์อะไร คือสังคมมีกฏหมายเป็นกติการูปแบบหนึ่ง ก่อนโพสต์อะไรก็อยากจะให้คิดนิดหนึ่ง เพราะบางทีภายใน 2 นาทีของคุณมันทำลายอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นได้ อย่างน้องเป็นหัวเรือแบกรับพนักงานไว้ต่างๆ ค่าใช้จ่ายต่างๆ โควิดก็ไม่อยากจะเลย์พนักงานออก ถ้าพี่ๆเปิดกิจการสักกิจการหนึ่งกำลังรุ่ง อยู่ๆโควิดก็แย่ประมาณหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังขายได้ขายดี แล้วอยู่ๆมาเจอเรื่องนี้แล้วขายไม่ได้เลย มันหนักเหมือนกันนะครับ เพราะเขาก็สั่งของมาเพิ่มเยอะ จะลงทุนอีก โอเปอร์ชั่นคอร์สก็เยอะ

แต่เรายังไม่คิดจะถอดใจใช่ไหม?
สายป่าน : ไม่ถอดค่ะ คือป่านทำดำน้ำเพราะทำจากความชอบ ป่านพูดตรงๆว่าป่านรัก ป่านชอบ เป็นกิจกรรมที่ป่านมีความสุขมากๆ แล้วป่านก็ไม่เคย คือฟิน ตีนกบ ที่ป่านเอาเข้ามา เพราะป่านดูตลาดแล้วว่ายังไม่มีใครเอาเข้ามา ถึงเอาเข้ามาก็เป็นการหิ้วเอาเข้ามา ซึ่งป่านก็อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง และไม่ได้รวบรัดขั้นตอนอะไร ทำทุกอย่างตามขั้นตอนทั้งหมดเลย อยากให้คนไทยได้ใช้ของดีๆ เลยตัดสินใจนำเข้า แต่พอมาเจอแบบนี้ ป่านก็รู้สึกว่าเอาวะ เราก็ต้องสู้ เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราจะทำให้ดีที่สุด
ทนาย : แพลนของน้องเขาที่เอาแบรนด์ตัวนี้เข้ามาเพราะแบรนด์มีชื่อเสียง และมีจัดแข่งด้วย และน้องเป็นคนรักทะเล เริ่มจากความชอบ เขาก็ตั้งใจว่าเผื่ออนาคตว่าแบรนด์นี้จะมาสร้างงชื่อเสียง ทำจัดแข่ง จัดรายการท่องเที่ยวในประเทศไทย คือเขาวางแผนเป็นบิ๊กโปรเจกต์เลยที่ค่อนข้างดี แต่อยู่ๆมาเจอแบบนี้ ทำให้หลายๆ อย่างหยุดชะงักด้วย
อยากบอกอะไรกับลูกค้าเราไหม ที่เขาอาจจะหมดความเชื่อถือจากเราไป?
สายป่าน : คือลูกค้าตัวป่านเองได้คุยส่วนตัวไปบ้างแล้ว เอาจริงๆหลังจากเกิดเรื่องป่านเที่ยวไล่เช็คความรู้สึก ป่านทำเพราะป่านแคร์จริงๆ ป่านไม่อยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าป่านหลอกขาย เพราะคำพูดที่เขาใช้มันค่อนข้างสื่อมาได้ในทางนี้ ป่านก็พยายามไล่ถามทุกคนตลอดระยะเวลา 1-2 อาทิตย์หลังจากเกิดเรื่อง ป่านโทรถามลูกค้าทุกคนว่า ของพี่มีปัญหาไหมคะ พี่ยังมั่นใจในตัวเราอยู่หรือเปล่า ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน เพราะถ้ามีปัญหาเรายินดีที่จะดูแล แต่หนูคิดว่าไม่มีเพราะว่ามันอยู่ที่ลักษณะของการใช้งานของแต่ละคนด้วย หลายๆคนเขาก็จะมีคู่มืออยู่แล้วว่าเขาควรจะใช้งานอย่างไร และเคสนี้เป็นเคสแรกที่เกิดปัญหาขึ้น ดังนั้นป่านเชื่อว่า ลูกค้าหลายคนที่ได้ใช้ก็จะต้องมีความเชื่อมั่นว่าเป็นฟิน ตีนกบ ที่ดีจริงๆ ในส่วนกรณีของลูกค้าที่ยกเลิกไปแล้ว จริงๆหนูก็เสียใจแหละ ที่ตัดสินเราจากโพสต์ๆหนึ่ง ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ยังไงหนูก็จะพยายามทำแบรนด์นี้ต่อไปเรื่อยๆ นะคะ ถ้าสมมติในอนาคต เขามีความมั่นใจในตัวหนูมากขึ้น ก็ค่อยกลับมาว่ากันใหม่ แต่ว่า ณ ตอนนี้ก็ต้องแล้วแต่ผู้บริโภคแหละค่ะ ถ้าเกิดผู้บริโภคไม่เลือกเรา เราก็น้อมรับค่ะ ไม่เป็นไร

รู้สึกยังไงบ้าง พอมาทำธุรกิจจริงจังครั้งแรกก็โดนแบบนี้?
สายป่าน : อย่างที่ป่านบอกว่า ป่านไม่ค่อยได้ทำธุรกิจ ที่เป็นธุรกิจจ๋าขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกเพราะว่าก่อนหน้านี้ป่านนี้มีร้านกาแฟเป็นธุรกิจครอบครัวน่ารักๆ เป็นอาหารซื้อมาขายไป อันนี้เป็นธุรกิจแรก การที่ป่านตัดสินใจทำ ป่านก็ศึกษาเยอะมาก ป่านใช้เวลาประมาณ 2 ปี ที่จะดูที่มาที่ไปของแบรนด์ ดูความน่าเชื่อถือ แล้วก็ใช้เงินทุนประมาณหนึ่งเลยเหมือนกัน ก่อนที่จะตัดสินใจทำ ดังนั้นป่านก็ค่อนข้างชัวร์ ว่าเราอยากทำอันนี้จริงๆ

ธุรกิจนี้ลงทุนไปเท่าไหร่?
ทนาย : “ก็หลายล้านอยู่ครับ ก็ด้วยความที่แบรนด์ alchemy มันเป็นอุปกรณ์ที่เพียวคาร์บอน มันก็จะน้ำหนักเบา แล้วน้องเขาเลือกของค่อนข้างดีจริงๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ผมก็อยากฝากถึงลูกค้าที่ยกเลิกไป ว่าลองเช็คชื่อของสินค้าตัวนี้ในต่างประเทศก่อนก็ได้ เพราะมันค่อนข้างดีจริงๆ ปัญหามันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่โพสต์ แต่โอเคว่าตอนนี้ความผิดมันสำเร็จไปแล้ว แล้วน้องก็เสียหายค่อนข้างมากแล้ว อยากจะให้ช่วยกลับมาอุดหนุนน้องหน่อย

ตั้งแต่ทำธุรกิจมายังไม่เคยมีเคสไหน ที่เกิดจากปัญหาจากการขนส่งหรือการประกอบอะไรจากของทางเราใช่ไหม?
สายป่าน : ไม่เคยเลยค่ะ คือก่อนรับสินค้ามันจะมีการตรวจเช็คสินค้าอยู่แล้ว ก็ก่อนออกจากร้านไป ก็จะให้เขาดูหน้าดูหลัง แล้วก็เซ็นรับสินค้าก่อนที่จะเอาของออกไปนอกร้านอยู่แล้ว ซึ่งคู่นี้มันก็ไม่ได้มีปัญหา แล้วเจ้าของฟิน ตีนกบ เอง ก็ได้ใส่ใช้งานจริงๆแล้วในทะเล เราก็ยังมีรูปถ่ายคู่กันอยู่
ทนาย : ต้องบอกว่าพอผมเข้ามาตรวจสอบบริษัทของน้อง ทำให้รทราบว่านอกจากแผนกQC ต่างๆ ที่ตรวจเช็คของที่นำเข้ามาแล้วเนี่ย น้องก็จะมีฝ่ายคนเช็คอีกทีหนึ่ง ที่ช่วยตรวจสอบก่อนจะถึงมือลูกค้า ก็ค่อนข้างปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0