ปี21 การลงทุนใน “หุ้น” ยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน แต่ก็ไม่ใช่ในทุกกลุ่มหากแต่ต้องเลือกกันมากขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละภูมิภาคที่ไม่เท่าเทียมนั่นเอง
“หุ้นเทคโนโลยี” ในปีนี้ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่ไม่สู้จะดีเท่าไรนักหลังจากที่ดีมากในปี20 ที่ผ่านมา แต่โลกในยุคดิจิทัลเป็นของจริงที่เกิดขึ้นแน่นอน และนั่นทำให้นี่ยังเป็นธีมการลงทุนที่ยังน่าสนใจในระยะยาวอย่างปฏิเสธไม่ได้
เช่นเดียวกับ “หุ้น ESG” ซึ่งได้ก้าวมาเป็นหนึ่งใน Megatrend หลักของโลกการลงทุนอย่างเต็มตัว จากทิศทางที่โลกกำลังมุ่งไปเพื่อดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นี่จึงเป็น 2ธีมหุ้นที่ยังคงตอบโจทย์นักลงทุนระยะยาวได้เป็นอย่างดี วันนี้ ทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ มีมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจมาอัพเดทกัน
“บลจ.บัวหลวง” เผยลงทุนใน ‘หุ้น ESG-สูง’ ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าจริง…และ “ESG” กำลังเป็นกระแสหลักของโลกการลงทุน
โดย “สันติ ธนะนิรันดร์” ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.บัวหลวง (กองทุนบัวหลวง) มองว่า ภาพรวมการลงทุนในปี22 จะคล้ายกับปีนี้ ผู้ลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นจะได้รับผลตอบแทนที่ดีชนะเงินเฟ้อได้ ปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับการคัดเลือกธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ชัดเจนขึ้น โดยพบว่า 10 เดือนของปี21 มีเงินลงทุนไหลเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่มี ESG สูงกว่าทั้งปี20 แล้ว และการลงทุนในบริษัทที่ได้รับคะแนน ESG สูง ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าธุรกิจที่คะแนน ESG ต่ำ ทั้งยังมีความผันผวนต่ำกว่าด้วย
(สันติ ธนะนิรันดร์)
“นอกจากนี้บริษัทที่มีประเด็นเรื่อง ESG พบว่า เผชิญกับเงินลงทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำให้เห็นว่า ESG กำลังอยู่ในกระแสหลักของการลงทุน บริษัทเชื่อว่าหลังจากนี้ทั่วโลกก็จะมุ่งเรื่อง ESG มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะสหรัฐที่มีท่าทีชัดเจนในเรื่องนี้มากขึ้น ในอนาคตก็จะมีบริษัทในสหรัฐที่มี ESG ให้เลือกลงทุนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันตัวเลือกส่วนใหญ่อยู่ในยุโรปเป็นหลัก ซึ่งนั่นยังคงทำให้การลงทุนในหุ้นธีม ESG นี้มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย”
อีกหนึ่งธีมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ “หุ้นเทคโนโลยี” ที่มองว่าจะมีความโดดเด่นในช่วง 10 ปีจากนี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยี ABCEV คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), บิ๊กดาต้า (Big data), ไซเบอร์ซิเคี้ยวริตี้ (Cybersecurity), รถยนต์ไฟฟ้าทั้งสายการผลิต (EV) และโลกเสมือน (Virtual) ที่จะมีบทบาทอย่างมากต่อธุรกิจและการใช้ชีวิต ซึ่งในช่วงที่เงินเฟ้อสูง และดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น หุ้นเทคโนโลยีที่มีความสามารถทำกำไรแข็งแกร่ง มีความสามารถในการปรับขึ้นราคาได้ ก็มีโอกาสปรับขึ้นโดยไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
“บลจ.เอ็มเอฟซี” ชี้ “Metaverse” การลงทุนที่ไม่ควรมองข้ามในโลกแห่งอนาคต
เช่นเดียวกับ “ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ที่เห็นด้วยว่า “หุ้นในธีมเทคโนโลยี” ยังน่าสนใจลงทุนในระยะยาว และ “Metaverse” ก็เป็นอีกธีมที่น่าจับตามอง จากเทคโนโลยีของโลกที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ส่งผลให้พฤติกรรมและกิจกรรมการใช้ชีวิตของคนปรับเปลี่ยนไป ในขณะที่การติดต่อสื่อสารข้ามพรมแดนสามารถทำได้หลากหลายช่องทางภายในเวลาอันรวดเร็ว ภาพจินตนาการถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีในอนาคตจึงไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไปเมื่อ “Metaverse”หรือ “โลกเสมือนจริง” ที่พาผู้คนหรือผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน เช่น การปฏิสัมพันธ์ การเล่นเกมออนไลน์ การทำงานร่วมกัน โดยอาศัยเทคโนโลยี การใช้ความเป็นจริงเสมือน (VR) หรือเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริง (AR)
(ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์)
“จากข้อมูลของ ‘Bloomberg’ (ณ วันที่ 4 ก.ค. 21) ได้ประมาณการว่าขนาดของตลาด ‘Metaverse’ จะมีมูลค่าสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี2024 และเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2030 ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสในการลงทุนที่ไม่ควรมองข้ามในโลกแห่งอนาคต”
ช่วงเทศกาลแห่งความสุข “ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่” นี้ ใครกำลังมองหา “หุ้น” ที่มีพื้นฐานรองรับสามารถลงทุนระยะยาวแล้วถือได้อย่างสบายใจ สามารถสร้างทั้งผลตอบแทนและเอาชนะเงินเฟ้อได้ เชื่อว่า “หุ้น ESG & หุ้นเทคฯ” ยังน่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ของคุณได้ไม่มากก็น้อย
