โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ปี65 ศก.ไทยเดินหน้าหักด่าน “Omicron” กลับมาโต 3-4%...ส่วนหุ้นมีลุ้น 1,800 จุด !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 05.00 น. • เผยแพร่ 24 ธ.ค. 2564 เวลา 08.00 น. • กฤษฎิ์ รัตนธีระธาดา

“เศรษฐกิจ” และ “ตลาดหุ้นไทย” เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการทยอยเปิดเมืองหรือจังหวัดท่องเที่ยวใหญ่ๆ จนเกิดเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ดีขึ้น
แต่ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ทั้งในต่างประเทศและภายในประเทศนั้นยังไม่สามารถคลี่คลายดีนัก ด้วยตัวเลขผู้เชื้อไวรัสสายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่ยังส่อแววจะขึ้นเรื่อยๆ
จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่า “เศรษฐกิจไทยในปี 65” จะมีการเติบโตได้มากน้อยเพียงใดในเงื่อนไขที่ ภาคการท่องเที่ยว ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมา
ในวันนี้ทาง ‘Wealthy Thai’ จึงได้มีมุมมองเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยในปี 65 ผ่านผู้เชี่ยวชาญสายงาน “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด” มาแชร์ให้แก่ผู้อ่านในครั้งนี้

คาดศก.ไทยปี65 โตได้ 3-4% รับอานิสงส์ ‘เปิดเมือง’…ส่วน “Omicron” ไม่ได้แย่อย่างที่คิด

โดย “คมสัน ผลานุสนธิ” กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและผลิตภัณฑ์ บลจ. แอสเซท พลัส ได้ให้มุมมองว่า อัตราการเติบโตของ “เศรษฐกิจไทย” ในปี 65 มีโอกาสที่จะกลับมาเติบโตได้ 3-4% ด้วยมาตรการคลายล็อกดาวน์ของประเทศจนทำให้สามารถกลับมาเปิดเมืองได้ปกติ
ซึ่งหลังจาก “เปิดเมือง” ส่งผลให้ภาคการบริโภคในประเทศ การจับจ่ายใช้สอย และการจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยออกมาได้มากขึ้นหรือในระดับ 80%จากปีนี้ที่ทำได้เพียง 50%และเมื่อสถานการณ์ต่างเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นก็จะสนับสนุนให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาเติบโตได้

(คมสัน ผลานุสนธิ)

“ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ประเมินว่าอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคาดการณ์ถึงแม้ว่าการติดเชื้อจะง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ในแง่ของความรุนแรงนั้นยังค่อนข้างต่ำหรือความรุนแรงใกล้เคียงกับไข้หวัดธรรมดา”
ซึ่งในกรณีที่ดีที่สุดอาจเป็นตัวพลิกเกมให้สถานการณ์ COVID-19 กลับมาเร็วกว่าที่คาดได้เช่นกัน แต่หากผลลัพธ์ออกมาเป็นอีกทางหนึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ดีด้วยอัตราตัวเลขการฉีดวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนที่อยู่ในระดับสูง จึงมีโอกาสที่อัตราการแพร่กระจายของไวรัสจะค่อนข้างจำกัด
“แต่ปัจจัยที่น่ากังวลอย่าง ‘นโยบายของรัฐบาลจีน’อย่างยุทธศาสตร์ ‘Zero COVID’ หรือแนวทางกำจัดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ภายในประเทศทำให้ประชาชนจีนยังไม่สามารถออกมาเที่ยวยังประเทศอื่นๆ ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยอาจจะออกมาได้ไม่ดีอย่างที่คาดการณ์”

ชี้ปีเสือ “ตลาดหุ้นไทย” ขาขึ้นมีโอกาสทะยานแตะ 1,800 จุด

สำหรับ “ตลาดหุ้นไทย” ในปีหน้ามองว่ายังคงเป็น ‘ขาขึ้น (Bullish)’ ไปถึงระดับ 1,700 จุด และมีโอกาสที่จะทะลุ 1,800 จุด ซึ่งภาพรวมการปรับตัวขึ้นของตลาดเชื่อว่าจะได้เห็นทุกตลาดในภูมิภาคอาเซียน ในแง่ของผลการดำเนินงานหรือกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทย ประเมินว่าจะเติบโตได้ 10-15%
สำหรับกลุ่มหุ้นที่แนะนำหรือน่าสนใจหากประเมินเป็นรายอุตสาหกรรม “กลุ่มพลังงาน” ค่อนข้างน่ากังวลเนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันจะไม่มีความเคลื่อนไหวมากนักหลังจากที่ในปี 64 ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงและขณะเดียวกันผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เริ่มส่งสัญญาณความต้องการกลับมาผลิตอีกครั้ง
“กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่แนวโน้มผลการดำเนินงานจะกลับมาได้ดี อย่าง ‘กลุ่มธนาคารพาณิชย์’ เนื่องจากเป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาได้ และการวิวัฒนาการของธนาคารใหญ่ที่ได้เริ่มปรับโครงสร้างจะทำให้รายอื่นเริ่มปรับตัวตามไปด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้อุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ”

ถัดมา “กลุ่มเทเลคอม” หรือ “กลุ่มสื่อสาร” การควบรวมของ ‘บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)’จำกัด หรือ DTAC และ ‘บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)’หรือ TURE ก็จะช่วยลดการแข่งขันและเสริมพื้นฐานให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะทำให้หุ้นมีความน่าสนใจขึ้น
“ด้าน ‘กลุ่มค้าปลีก’ และ ‘กลุ่มอสังหาริมทรัพย์’ประเมินว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะมีการฟื้นตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจได้ ขณะที่ ‘กลุ่มการส่งออก’หากสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวค่าเงินบาทก็อาจจะแข็งค่าขึ้นและเป็นตัวกดดันแก่อุตสาหกรรมเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมีความน่าสนใจอยู่”
แต่อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้มากน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับการปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ“ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)” ว่าจะเริ่มส่งสัญญาณการปรับดอกเบี้ยช้าเร็วเพียงใด ซึ่งจะมีผลต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยด้วยปัจจัยสนับสนุนภายในประเทศก็มีโอกาสที่ตลาดจะมีผลงานดีกว่า (Outperform) หลายๆ ตลาดได้
“ตลาดหุ้นไทยปีพยัคฆ์ อาจจะเป็นปีเสือพุ่งทะยานด้วยปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณกลับมาดีขึ้นเรื่อยๆและแน่นอนว่าเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสุดท้ายราคาหุ้นเองก็ขานรับกับปัจจัยต่างๆ ด้วยเช่นกัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0