วอชิงตัน, 9 ส.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (8 ส.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งผู้บริหารหลายรายการ เพื่อขยายแผนบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังการเจรจาระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตประสบความล้มเหลว
1 ใน 4 คำสั่งผู้บริหารของทรัมป์จะขยายระยะเวลาการได้รับค่าชดเชยจากการว่างงานเพิ่มเติมไปจนถึงสิ้นปี 2020 โดยลดมาอยู่ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์ (ประมาณ 12,000 บาท) แทนที่ค่าชดเชยเดิมจำนวน 600 ดอลลาร์ (ประมาณ 18,000 บาท) ที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ได้สิ้นกำหนดบังคับใช้ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ด้านคำสั่งอื่นประกอบด้วย การกลับมาบังคับใช้คำสั่งห้ามฟ้องขับไล่ผู้เช่าของรัฐบาลกลาง (moratorium on evictions) ซึ่งสิ้นผลบังคับใช้ไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมเช่นกัน นอกจากนี้ยังเลื่อนการชำระเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาไปตลอดปี 2020 และเลื่อนการเรียกเก็บภาษีการจ้างงานบางส่วน
อย่างไรก็ดี สื่อสหรัฐฯ รายงานว่าคำสั่งของทรัมป์มีแนวโน้มเผชิญความท้าทายทางกฎหมาย เนื่องจากสภาคองเกรสมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการกำหนดงบประมาณของรัฐบาลกลาง
เมื่อไม่นานนี้ พรรคเดโมแครตเสนอให้ตัดงบประมาณบรรเทาทุกข์ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 106 ล้านล้านบาท) ของพวกเขาลงไป 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31.22 ล้านล้านบาท) หากพรรครีพับลิกันยินยอมเพิ่มงบในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของรีพับลิกันในจำนวนเดียวกัน แต่ข้อเสนอดังกล่าวได้ถูกปัดตกไป
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ (7 ส.ค.) ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะลงนามในคำสั่งผู้บริหารเพื่อเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 บางส่วน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรคเดโมแครตได้
