วันที่ 15 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Thousands protest against Moon as Seoul scrambles to curb virus resurgence ระบุว่า แม้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ยังน่าเป็นห่วง แต่ประชาชนหลายพันคนยังออกมาชุมนุมขับไล่ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน (Moon Jae-in) โดยผู้ชุมนุมไม่พอใจนโยบายด้านอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีกรณีเรื่องอื้อฉาวทางเพศในหมู่ผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลด้วย
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (KCDC) ระบุว่า ในวันที่ 14 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 166 คน ในจำนวนนี้เป็นการระบาดภายในประเทศถึง 155 คน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 15,039 คน และเสียชีวิตรวม 305 ราย ซึ่งการระบาดส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซล โดยการติดเชื้อเป็นกลุ่มใหญ่มาจากการรวมกลุ่มในพิธีกรรมทางศาสนาและในร้านอาหาร
ชุง ไซ-คยุน (Chung Sye-kyun) นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวว่า เกาหลีใต้กำลังเผชิญสถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่งและอาจนำไปสู่การระบาดระลอกใหม่ได้หากไม่สามารถเอาชนะวิกฤติครั้งนี้ ขณะที่ ปาร์ค นึง-ฮู (Park Neung-hoo) รัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่าร้อยคนเชื่อมโยงกับโบสถ์คริสต์ในกรุงโซล และขณะนี้กำลังไล่ตรวจคัดกรองประชาชน 4,000 คน ที่เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาดังกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยังยกระดับมาตรการรับมือโรคระบาดเป็นระดับ 2 ในพื้นที่กรุงโซลและ จ.คย็องกี ซึ่งมาตรการรับมือระดับ 2 โดยจะมีการจำกัดการชุมนุมในร่มไม่เกิน 50 คน และกลางแจ้งไม่เกิน 100 คน และไม่อนุญาตให้เข้าชมการแข่งขันกีฬาในสนาม แต่ยังไม่ถึงขั้นระดับ 3 คือการให้สถานศึกษาและกิจการต่างๆ ปิดบริการ