นักเลงคีย์บอร์ด ถึงขั้นต้องก้มกราบ หลัง "หมอเหรียญทอง" เอาจริง กรณีถูกโพสต์พาดพิง และนำรูปครอบครัวไปใช้ พร้อมโพสต์ข้อความ ขอบคุณนายแพทย์ทหารคนดัง ที่ให้อภัย ไม่เอาผิดทางกฎหมาย
วันนี้ (9 ส.ค.) เฟซบุ๊ก "เหรียญทอง แน่นหนา" ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ภาพชายคนหนึ่ง ก้มกราบตัวเอง และโพสต์ของผู้ที่ใช้บัญชีเฟซบุ๊กว่า "Paromkorn Kwampaiboon“ ซึ่งมีข้อความขอโทษ และขอบคุณ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ว่า
"จากการที่ข้าพเจ้าได้ทำการแสดงความคิดเห็น ในสเตตัสของเฟซบุ๊ก คุณหมอเหรียญทอง แน่นหนา โดยการใช้รูปครอบครัวของคุณหมอ จากในเฟซบุ๊กของคุณหมอ ด้วยมีเจตนาที่ไม่ดีนั้น เป็นการกระทำที่เกิดจากการขาดความเข้าใจในโพสต์ ขาดสติยั้งคิด และด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
บัดนี้ข้าพเจ้าได้สำนึกผิดว่า สิ่งที่กระทำลงไปนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร และเป็นการล่วงละเมิดต่อคุณหมอ และครอบครัว
วันนี้คุณหมอมีความกรุณาให้เข้าพบ เพื่ออบรมสั่งสอน ชี้แจงให้เข้าใจในสิ่งต่างๆ ในอีกมุมมองมากขึ้น และมอบโอกาสให้ข้าพเจ้าได้กราบขอขมาคุณหมอ และคุณหมอได้ให้อภัย และไม่เอาผิดทางกฎหมายในความผิดพลาดของข้าพเจ้า ที่กระทำการไม่สมควรลงไป
จากการแสดงออกของข้าพเจ้าจึงเป็นบทเรียนว่าควรใช้สติ ตระหนักถึงขอบเขต ก่อนการแสดงความคิดเห็นใดๆ หรือการโพสต์ใดๆ มิให้ไปล้ำเส้น หรือล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น เพราะผลที่จะได้รับก็ย่อมมาจากการกระทำของตัวเราเอง ซึ่งเราต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง
ขอขอบพระคุณคุณหมอเหรียญทอง แน่นหนา มา ณ ที่นี้อีกครั้ง ที่ให้อภัยต่อข้าพเจ้า ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กระทำผิดพลาดลงไป และที่ไม่แจ้งความดำเนินคดีใดๆ กับข้าพเจ้า เพื่อที่ให้โอกาสข้าพเจ้า ได้ปรับปรุงตัวไปในทางที่ดีขึ้นต่อไป
และขอให้เรื่องของข้าพเจ้าได้เป็นอุทาหรณ์กับท่านอื่นๆ ที่จะกระทำก็ดี หรือได้กระทำไปแล้วก็ดี ซึ่งพวกท่านอาจจะไม่ได้รับโอกาสที่โชคดีเช่นข้าพเจ้า จึงขอให้ทุกท่านอย่าได้ทำผิดพลาดเช่นข้าพเจ้าอีก”
นอกจากนี้ ยังมีเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า"เอกลักษณ์ จิตรอักษร" ซึ่งลงภาพขณะก้มพราบ พล.ต.นพ.เหรียญทอง และโพสต์ข้อความขอบคุณ และขอโทษเช่นกัน โดยระบุว่า
"จากกรณีการโพสต์เฟซบุ๊ก ในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เกตเพลสในประเด็น “เปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ อยากเล่นใครก่อนครับ” ด้วยการนำรูปคุณหมอเหรียญทอง แน่นหนา มาประกอบ พร้อมข้อความดังกล่าว ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดสิทธิ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวคุณหมอ
สิ่งที่ผมได้กระทำลงไปเป็นสิ่งที่ผิดพลาด และผมได้ตระหนักถึงความผิดดังกล่าว วันนี้ ผมจึงได้ติดต่อคุณหมอผ่านทางเลขาฯ เพื่อเข้าไปขอขมาต่อสิ่งที่ผิดพลาดเหล่านั้น และหลังจากได้พบคุณหมอ คุณหมอยอมอโหสิกรรมต่อสิ่งที่ผมได้กระทำลงไป และจะไม่เอาผิดผมในประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ คุณหมอได้กรุณาเมตตา อบรม สั่งสอน และอธิบายในสิ่งที่ผมยังไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิดไป ทำให้ผมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง จากตัวคุณหมอโดยตรง จากเหตุการณ์ดังกล่าว
การเรียกร้องประชาธิปไตยของผม ได้เลยขอบเขตของหลักประชาธิปไตย นั่นคือไปก้าวล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น เข้าข่ายการหมิ่นประมาท เป็นการกระทำที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
หากคุณหมอไม่เมตตา อโหสิกรรมต่อการกระทำดังกล่าว ก็อาจจะทำให้โดนฟ้องร้องดำเนินคดีตามมาได้ ซึ่งย่อมมีผลกระทบต่อชีวิตตามมาในหลายๆ ด้าน
กรณีของผมถือว่ายังโชคดี ที่ผู้ถูกล่วงละเมิดเมตตาให้อภัย แต่หากการละเมิดดังกล่าวเกิดขึ้น ดังที่ผมได้กระทำ และไม่ได้รับความเมตตา จากผู้ถูกละเมิด ก็คงไม่โชคดีอย่างที่ผมได้รับเช่นวันนี้ จึงอยากให้ทุกคนได้ตระหนัก นำกรณีของผมเป็นอุทาหรณ์ ก่อนจะโพสต์หรือกระทำอะไรลงไป ควรคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นเป็นสำคัญครับ”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
