พักเรื่องดราม่าร้อนแรงของ“เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เอาไว้ก่อน แต่ลองมาดูอีกมุมหนึ่งของชีวิตนักร้องลูกทุ่งสาวคนดังในวัยเพียง 25 ปี ที่ทำงานหาเงินด้วยลำแข้งจนสามารถก่อตั้งค่ายเพลงของตัวเองขึ้นมาได้ พร้อมปั้นศิลปินหน้าใหม่ๆ ในค่าย และปล่อยผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จะพาไปส่องไทม์ไลน์เส้นทางชีวิตของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” จากเป็นแค่เด็กโนเนม กลายเป็นเน็ตไอดอลคนดังบนยูทูป พัฒนามาเป็นนักร้องลูกทุ่งที่แต่งเพลงเอง เล่นดนตรีเอง และมาสู่การเป็นเจ้าของค่ายเพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น” พร้อมส่องสินทรัพย์และค่าตัวของเธอว่าแต่ละงานรับเงินไปกี่หลัก
1. “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เป็นใคร?
เจนนี่ รัชนก เกตุสุวรรณ มีชื่อที่รู้จักในวงการเพลงลูกทุ่งว่า “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” เป็นที่รู้จักจากการแต่งเพลงร้องประชดแฟนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ช่องทาง Youtube ต่อมาคลิปร้องเพลงดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้คนนำคลิปไปแชร์ต่อ รวมถึงมีคนนำเพลงดังกล่าวของเธอไปร้อง Cover ต่ออีกมากมายหลายคน จนทำให้ชื่อ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” โด่งดังเป็นพลุแตกในเวลาเพียงไม่กี่วัน
2. “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” และครอบครัว
เจนนี่ รัชนก เกตุสุวรรณ จบการศึกษาจากสาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชไสใหญ่ เธอมีน้องสาวต่างพ่อ 1 คน ชื่อว่า ลิลลี่ นารีนาท เชื้อแหลม ปัจจุบันอายุ 15 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ส่วนคุณพ่อของเธอเป็นนักแต่งเพลง คุณแม่เกตุทำอาชีพขายเครื่องดื่มขายขนม เมื่อเจนนี่อายุได้เพียง 2 เดือน พ่อของเธอบอกแม่ว่าไปเล่นดนตรีแล้วก็ขาดการติดต่อไป ตั้งแต่นั้นชีวิตครอบครัวของเธอก็ถือว่าค่อนข้างลำบากมาตลอด แม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาแม่แต่งงานใหม่และมีน้องสาวเพิ่มอีกคน ปัจจุบันคุณแม่ของเจนนี่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ก็เข้ารักษาตัวจนมะเร็งหาย ขณะนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูสุขภาพ
3. เจนนี่ ทำงานหาเงินตั้งแต่เด็ก
ก่อนที่จะมาเป็นนักร้องลูกทุ่งอินดี้โด่งดัง เมื่อก่อนครอบครัวของเจนนี่มีหนี้ก้อนใหญ่รวมแล้วหลักล้าน ทำให้แม่ของเธอพาลูกๆ ย้ายที่อยู่หลายครั้งเพื่อหนีหนี้ แต่เจนนี่ก็ไม่เคยท้อถอย ออกไปช่วยแม่ขายของตลอด คอยหารายได้เสริมมาช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นเปิดวงแดนเซอร์ ชวนเพื่อนๆ และน้องสาวมารับจ้างเต้นตามงานเลี้ยง รับจ้างล้างจาน ร้องเพลงตามไนต์คลับ เริ่มเก็บเงินจากการร้องเพลงเอามาลงทุนขายผลไม้และขายรองเท้าตามตลาดนัดด้วย
4. เจนนี่ เป็นเด็กกิจกรรม
ในช่วงที่ยังเรียนหนังสือชั้นมัธยม เธอเป็นเด็กกิจกรรมที่โดดเด่นในทุกโรงเรียนที่ย้ายไป เธอเคยเป็นทั้งประธานนักเรียน เชียร์ลีดเดอร์ และเข้าร่วมประกวดกิจกรรมวิชาการต่างๆ เช่น การแข่งขันแต่งกลอน เป็นต้น
5. จุดเปลี่ยนชีวิต "เจนนี่" สู่เน็ตไอดอลบนยูทูป
ย้อนไปเมื่อปี 2559 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตของเจนนี่ เมื่อเธอได้โพสต์เพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น” ลงเฟซบุ๊ก เพื่อประชดแฟนหนีเที่ยว แต่ผลการตอบรับจากคนฟังในโลกโซเชียลนั้นดีเกินคาดคิด มีคนแชร์คลิปอย่างล้นหลาม ทำให้เธอโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน กลายเป็นที่สนใจของสังคมและมีงานติดต่อให้ไปเล่นคอนเสิร์ตเข้ามากมาย ทำให้เธอหารายได้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถซื้อรถคันแรกให้ตัวเองได้ ตามมาด้วยซื้อบ้าน และปลดหนี้ให้แม่ได้หมด
6. ผลงานเพลง “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น”
จากความโด่งดังดังกล่าว ทำให้เธอพัฒนาต่อยอดผลิตผลงานเพลงลูกทุ่งอินดี้ออกมาอีกมากมายหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ถ้าเลิกกับพี่ได้ดีทุกคน, น้องเสร็จไปแล้ว, คิดถึงคนไกล, รักผิดเวลา เป็นต้น ซึ่งทุกเพลงก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ดีมาก แต่ละเพลงมียอดวิวหลายสิบหลายร้อยล้านวิว นอกจากนี้ยังได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง มนต์รัก ดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ ที่สร้างโดยลูกทุ่งแดนใต้อย่าง เอกชัย ศรีวิชัย ด้วย
7. เส้นทางสู่เจ้าของค่ายเพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น”
ต่อมาในปี 2562 เจนนี่ได้เปิดค่ายเพลงในชื่อ “ได้หมดถ้าสดชื่น” โดยมี ลิลลี่ น้องสาวของเธอเป็นศิลปินเบอร์แรก เปิดตัวด้วยเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” โด่งดังมากยอดวิวทะลุหลักล้านในเวลาอันรวดเร็ว ณ วันที่ 4/08/63 มียอดวิวอยู่ที่ 351,399,041 วิว
จากนั้นก็พัฒนาและเพิ่มจำนวนศิลปินในค่ายอีกหลายคน ได้แก่ เปิดตัวเกิร์ลกรุ๊ปในสังกัดชื่อว่า “Butterfly” และมีผลงานเพลงออกมาชื่อว่า “บัตเตอร์ฟลายรายงานตัว” มียอดวิวถึง 15,773,102 วิว (เดือนมิ.ย. 63), ไตเติ้ล ได้หมดถ้าสดชื่น, เบบอล, ป๊อกแป๊ก, มินนี่, กีตาร์, อั๋น ปาลิตา เป็๋นต้น และล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63 ได้ปล่อยเพลงใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า “ได้หมดถ้าสดพอ” ผลงานจากอีกหนึ่งศิลปินค่าย “อั๋น ปาลิตา” ซึ่งตอนนี้ยอดวิวถึงสองล้านกว่าๆ ในเวลาอันรวดเร็ว
8. มีบริษัทจดทะเบียน “ได้หมดถ้าสดชื่น”
ทีมข่าวฯ พบว่าค่ายเพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น” ได้มีการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด เพื่อจำหน่ายเพลงและลิขสิทธิ์เพลง มีหมายเลขนิติบุคคล คือ 0805562000876 โดยจดทะเบียนวันที่ 1 เมษายน 2562 มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มีสถานะยังดำเนินกิจการอยู่ แต่ยังไม่มีการรายงานทรัพย์สินของบริษัท
9. เรตราคาค่าตัว “เจนนี่” และเด็กในค่าย “ได้หมดถ้าสดชื่น”
สำหรับเรตราคาค่าตัวในการรับงานรีวิวสินค้า หรือรับงานทำคลิปรีวิวต่างๆ ของ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” และเด็กในค่าย พบว่ามีเรตราคาดังนี้
- เจนนี่แชร์โพสต์ 10,000 บาท
- ถ่ายรูปคู่สินค้า 40,000 บาท
- ไลฟ์สด 1 ชั่วโมง 60,000 บาท
- ทำคลิปลงเพจและยูทูบ 150,000 บาท
- ทำคลิปลง TikTok 80,000 บาท
- แชร์ไลฟ์ 15,000 ต่อครั้ง
- คลิปรีวิว 3-4 นาที 150,000 บาท
- คลิปรีวิว 5-10 นาที 200,000 บาท
- ถ่ายคู่สินค้า 50,000 บาท
- ไลฟ์สด 100,000 บาท (40 นาที)
10. ทรัพย์สินหลักสิบล้าน ส่องคลิปรีวิวค่ายเพลง
ไม่นานมานี้ “เจนนี่” ได้เผยแพร่คลิปรีวิวค่ายเพลง “ได้หมดถ้าสดชื่น” พร้อมพาไปดูรถ บ้าน อาหารค่ายเพลง และส่วนต่างๆ ในค่ายเพลง รวมทรัพย์สินทั้งหมดน่าจะราวๆ หลายสิบล้านบาท โดยเจ้าตัวบอกเล่ารายละเอียดในส่วนต่างๆ ในค่ายเพลง ดังนี้
- ค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่นมีสมาชิกในค่ายทั้งหมด 60 คน
- มีรถยนต์มีทั้งหมด 7 คัน เลือกใช้ตามความเหมาะวสมกับงาน แบ่งเป็นรถซีดาน 2 คัน, รถอเนกประสงค์ SUV 2 คัน, รถตู้ 1 คัน, รถสปอร์ตสองที่นั่ง 1 คัน, รถกระบะ 1 คัน (รถของแฟนเจนนี่)
- มีห้องรับแขกขนาดใหญ่ ใช้สำหรับรับแขกที่เข้ามาคุยงาน และปรับใช้เป็นห้องซ้อมเต้นของแดนเซอร์สำหรับงานคอนเสิร์ตต่างๆ ด้วย
- มีห้องทำงาน Office สำหรับทำบัญชี ทำเอกสารภาษีต่างๆ ของทางค่ายเพลง
- มีห้องนอนรับรองแขกขนาดห้องกว้างขวาง เตียงขนาดคิงไซส์ 2 เตียง โต๊ะเครื่องแป้ง 3 หลัง และตู้เสื้อผ้าอีก 2 ตู้
- มีห้องฟิตเนสเล็กๆ เอาไว้ให้สมาชิกในค่ายเพลงได้ออกกำลังกาย
- บ้านใหญ่ : เป็นบ้านพักอาศัยของเจนนี่ ลิลลี่ และแม่เกตุ ซึ่งอยู่ติดกับอาคารที่เป็นค่ายเพลง ในส่วนของบ้านใหญ่ก็จะมีห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องซ้อมดนตรี ส่วนชั้นสองของตัวบ้านประกอบไปด้วย ห้องนอน 3 ห้อง และห้องเสื้อผ้า 1 ห้อง
----------------------------
ที่มา :
instagram.com/janey_suwannaket
youtube.com/watch?v=7SILdiCNd9I
DBD ข้อมูลนิติบุคคลงบการเงิน