เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยมานานว่าทำไม 'นนทบุรี' มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ชื่อที่ปรากฎทุกครั้งหลังฝนตก คือ แยกแคราย ,เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ,ใต้ทางด่วน งามวงศ์วาน ,ซอยจุฬาเกษม ,ซอยสามัคคี ฯลฯ สำหรับผู้ที่ไม่รู้ มักเหมารวมความผิดให้กรุงเทพมหานคร แต่แท้ที่จริงแล้วชื่อที่กล่าวมากลับอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของ จ.นนทบุรี จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า.. ทำไมไม่มีใครคิดแก้ปัญหาน้ำท่วมที่มีมานับ 10 ปี เรียกว่า ท่วมอย่างไรก็ท่วมอย่างนั้นต่อไป อย่างนั้นหรือ ??
JS100 สอบถามไปที่ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้ข้อมูลถึงปัญหาดังกล่าว ทำให้ทราบว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหานี้ ดูเหมือนว่าคงต้องยอมรับให้น้ำท่วมต่อไป แต่โจทย์ที่สำคัญ คือ จะเร่งระบายน้ำให้รวดเร็วที่สุดอย่างไรมากกว่า
การขยายตัวของเมือง จ.นนทบุรี กำลังประสบปัญหาเดียวกับเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร คือการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว และไม่เป็นระบบระเบียบเท่าที่ควร มีหมู่บ้านเก่าแก่ หมู่บ้านใหม่ และคอนโดมิเนียม เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แทนที่พื้นที่รองรับน้ำธรรมชาติ แต่ในที่สุดน้ำฝนจะไหลกลับลงมาสู่ท้องถนนและท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำท่วมต้องรอการระบาย
พื้นที่เอกชน หลายพื้นที่ที่เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ มีการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่เทศบาลไม่ได้เข้าไปบริหารจัดการได้โดยตรง เพราะถือเป็นของเอกชน บางครั้งการยกถนนก็ทำไม่ได้ เพราะต้องเห็นชอบกันเป็นส่วนใหญ่ ปัญหาเหล่านี้พบมากในซอยสามัคคี และซอยจุฬาเกษม ซึ่งถือเป็นซอยที่มีทางเชื่อมต่อกับชุมชนจำนวนมาก หรือกรณีเมืองทองธานี ก็เป็นของเอกชนบริหารจัดการเอง
ปัญหารุกล้ำคลองธรรมชาติ คลองระบายน้ำ มีปัญหาสร้างที่อยู่อาศัยรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่คลอง จะขับไล่ทันทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เช่น คลองส่วย ที่มีปัญหาน้ำระบายไปได้ไม่เต็มที่ จะย้อนมาท่วมพื้นที่ใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน และบริเวณห้างฯเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ส่วนอีกจุดที่คลองบางตลาด ประสบปัญหาเดียวกัน เป็นคลองที่รับน้ำบริเวณซอยสามัคคี ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ คือการขุดลอดคูคลองตามรอบ เพื่อเตรียมการให้ได้มากที่สุด
ระบบท่อระบายน้ำเก่า ระบบท่อระบายน้ำของ จ.นนทบุรี ยังคงเป็นระบบเก่าแก่ตั้งแต่เริ่มสร้างเมือง มีขนาดเพียง 60 ซม. เช่นเดียวกับในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครที่ยังไม่ได้เปลี่ยนใหม่ ซึ่งในการใช้งานจริง มีปัจจัยเรื่องขยะเข้าไปอุดตันก็ทำให้ระบายได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ปัญหาสำคัญบริเวณแยกแคราย ,หน้าสถาบันโรคทรวงอก ,โลตัส ติวานนท์ ,กสท. โทรคมนาคม
เปลี่ยนท่อเหมือนจะง่าย งบประมาณมี แต่ทำยาก แน่นอนว่าการแก้ปัญหาหาระยะยาว คือ "การวางท่อระบายน้ำใหม่" ซึ่งท่านผู้ว่าฯยืนยันว่า งบประมาณไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือ การดำเนินการร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เช่น หากจะขอเปิดผิวจราจรก็ต้องประสานกรมทางหลวง หากเปิดมาแล้วก็ต้องเคลื่อนย้ายสารสื่อสารต่างๆใต้ดินกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทีโอที และหน่วยงานเอกชนอื่นๆ ยังไม่นับลำดับการดำเนินงานระหว่างที่ รฟม. กำลังสร้างรถไฟฟ้า ฯลฯ สรุปว่า การหารือทั้งหมดพร้อมกันไม่ใช่เรื่องง่าย และยังไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะยังอยู่ในขั้นแนวคิด และยังไม่ได้เริ่มคุยกันเสียด้วยซ้ำ
บทสรุประยะสั้น การแก้ปัญหาข้างต้นที่กล่าวมาทำได้แค่ "ระยะสั้น" เท่านั้น คือการ "ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ" และขุดลอกคูคลองตามรอบ คงต้องยอมรับว่าน้ำคงต้องท่วม แต่ต้องเร่งระบายให้เร็วที่สุด ลดผลกระทบให้เร็วที่สุด โดยปัจจุบันมีทั้งการติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบถาวร และแบบเร่งด่วนฉุกเฉิน ช่วยระบายน้ำลงสู่คลองบางซื่อ คลองเปรมประชากร คลองบางตลาด ฯลฯ
เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้คงไม่ใช่แค่ จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เท่านั้น เพราะเมืองใหญ่อื่นๆอย่างพัทยา ปากช่อง นครราชสีมา ภูเก็ต เชียงใหม่ ฯลฯ ก็ประสบปัญหาไม่ต่างกัน คงต้องคิดวางระบบผังเมืองกันใหม่ หาวิธีการใหม่ๆมา"ป้องกัน"ดีกว่ามาตาม"แก้ปัญหา" เพราะหากไม่ใช่"เมืองหลวง" ก็ไม่รู้ว่าจะได้เริ่มทำ อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ ได้บ้างหรือไม่
