วันที่ 18 ส.ค.63 นายเทิดศักดิ์ ภูโชคศิริ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่ามีอาการคันตามลำตัว หลังจากลงเล่นน้ำทะเลและเล่นกีฬาทางน้ำ หน้าอ่าวประจวบคีรีขันธ์ด้านทิศใต้ ใกล้รั้วกองบิน 5 ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการปล่อยน้ำเสียจากชุมชนลงบริเวณชายหาดโดยไม่ผ่านการบำบัด และที่ผ่านมากว่า 30 ปีจะมีปัญหาแทบทุกครั้งหลังจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ จะมีน้ำเสียจำนวนมากไหลลงทะเล ในฐานะนายกสมาคมท่องเที่ยวฯ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้ง เทศบาลเมืองประจวบฯและ องค์การจัดการน้ำเสีย ที่ได้รับงบประมาณก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียหลายร้อยล้านบาทที่ด้านหลังวัดธรรมิการราม เร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน
“ เพื่อนำน้ำเสียที่มีกลิ่นเน่าเหม็นไปเข้าระบบบำบัด มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและ ภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยว ที่กำลังฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด 19 ที่สำคัญบริเวณดังกล่าวถือเป็นแลนมาร์คใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางไปพักผ่อน เนื่องจากมีโรงแรมและร้านอาหารจำนวนมาก แต่ปัจจุบันชายหาดมีสำดำคล้ำ คุณภาพน้ำทะเลมีปัญหาเพราะสัมผัสแล้วมีอาการคัน “ นายเทิดศักดิ์ กล่าว
มีรายงานว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2562 นายสุทธิพร เที่ยงธรรม ปลัดเทศบาล รักษาการนายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ ชี้แจงว่า กรณีที่โซเชียลมีการแชร์ภาพน้ำเสีย สีดำคล้ำ ปล่อยจากท่อระบายน้ำ ลงชายหาดหน้าอ่าวประจวบฯ จากการตรวจสอบพบว่ามีปริมาณน้ำฝนจำนวนมาก ไหลปะปนกับน้ำเสียในท่อรวมน้ำเสีย ซึ่งออกแบบเป็นระบบท่อรวม รวบรวมทั้งน้ำฝนและน้ำเสียไว้ด้วยกัน จากปริมาณน้ำในท่อที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตะกอนสีดำที่ตกค้างสะสมอยู่ในท่อ ไหลล้นรวมกับน้ำฝนและน้ำเสียออกมาตามจุดระบายน้ำล้นของบ่อผันน้ำ เพื่อการป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน จำนวน 3 จุด บริเวณอ่าวประจวบฯ ออกแบบก่อสร้าง ตั้งแต่ปี 2541 โดยองค์การจัดการน้ำเสีย และเทศบาล จะร่วมกันแก้ไขปัญหา จะงบลอกตะกอนในท่อรวบรวมน้ำเสีย และออกแบบแนวท่อรวบรวมน้ำเสียและสถานีสูบน้ำเสียเพิ่มเติม จะดำเนินการก่อสร้างสถานีสูบน้ำเพิ่มเติมระยะที่ 1 จำนวน 2 จุดในปี 2563 ใช้งบกว่า 20 ล้านบาท แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียรวมที่สร้างตั้งแต่ปี 2541 หลังวัดธรรมิฯ ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการ ฯ แต่ล่าสุดทั้งองค์การจัดการนำ้เสียกับเทศบาลยังหาแปลนท่อเก่าทั้งระบบไม่เจอ ปัญหาจึงมีดแปดด้าน หลังจากเทศบาลตั้งงบ17 ล้านในปี63 แยกน้ำเสียกับนำ้ฝน ถนนเลียบอ่างประจวบฯแต่การก่อสร้างต้องมีการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม
