โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แอร์โฮสเตสสาวเล่าความรู้สึกในวันที่ไม่ได้กลับไทยเกือบ 5 เดือนแล้ว

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 05 ส.ค. 2563 เวลา 11.24 น. • เผยแพร่ 05 ส.ค. 2563 เวลา 10.56 น.

แอร์โฮสเตสสาวท่านหนึ่งโพสต์ระบายความรู้สึก ในวันที่ไม่ได้กลับไทยเกือบ 5 เดือน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่ได้กลับบ้าน ชี้ แม้การได้บินไปต่างประเทศ หลายๆที่รอบโลก อาจทำให้หลายคนอิจฉา แต่หารู้ไม่ว่า การที่มีไฟลท์กลับไทยนั้น เป็นอะไรที่มีความสุขมากที่สุดแล้ว และกำลังเฝ้ารอวันที่เปิดประเทศ เพื่อจะได้กลับไปหาคนที่เรารักในสักวัน

ความรู้สึกของแอร์เบสต่างประเทศ ในวันที่ไม่ได้กลับไทยเกือบ 5 เดือน

 

งานของเรา เรารู้ดีว่ามันไม่มีความแน่นอนและตายตัวในเรื่องของเวลา แต่เชื่อไหม ในวันที่ตารางบินออก พวกเราพยายามจัดสรรตารางในทุกๆ เดือนอย่างดีที่สุด เพื่อให้ได้มีไฟลท์ กทม. หรืออย่างน้อยที่สุด ภูเก็ต ก็ได้ ส่วนตัวตั้งแต่บินมาที่สายการบินปัจจุบันเกือบ 2 ปี เราทำไฟลท์กรุงเทพไปแล้ว 44 ครั้ง ซีเนียร์บางคนทำไฟลท์กรุงเทพมาแล้ว 100, 200, หรือ 300 กว่าครั้งก็มี เรียกได้ว่า ทั้งเดือนพยายามที่จะบินแต่กรุงเทพให้ได้มากที่สุด

 

หลายครั้งเพื่อนๆ ที่ไทยถามว่า..

-บินกรุงเทพเพื่ออะไร?

-เป็นแอร์อินเตอร์ ไหนบอกอยากเที่ยวรอบโลก?

-วันหยุดกลับไทยบ่อยๆ ทำไม?

 

ใช่…ยอมรับว่า เรามาเป็นแอร์สายนอก เพราะอยากเปิดหูเปิดตา อยากเที่ยว อยากไปเห็นอะไรใหม่ๆ และอีกมากมายที่เคยคิด และหลายคนคิดเอาไว้ อืมม.. เราไปนะ..ไปมาหมดแล้ว ทุกคนก็จะพูดเหมือนๆ กันว่า “โห..ดีจัง ได้ไปนั่นไปนี่..” แต่สิ่งเหล่านั้น มันก็แค่ชั่วขณะเท่านั้น จะมีใครรู้มั้ยว่ารูปสวยๆ ที่ออกไปถ่ายตามแลนด์มาร์คต่างๆ ต้องหอบร่างหลังแลนด์ออกไป เหนื่อยล้าแค่ไหน บางทีเหมือนลอยออกไปแต่ตัว แต่สมองคืออยู่บนเตียงที่โรงแรมตั้งแต่เช็กอินแล้ว

 

สุดท้ายเชื่อไหมว่า การไปพักต่างประเทศ คือ การไปหาร้านอาหารไทยอร่อยๆ กิน และการได้ไฟลท์กรุงเทพ เราจะสนุกมากกับการเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วแบบมาราธอน ไม่หลับไม่นอน ต่อให้ร่างจะพัง ไฟลท์จะโหดแค่ไหน ความคิดแรกตั้งแต่ sign in ก็คือ “เดี๋ยวเราจะไปทำอะไรก่อนดี?”

 

ถ้าแลนตอนเช้า ก็จะมีเวลาทั้งวัน ถ้าแลนเย็น/ดึก ก็จะมีเวลาคืนนี้กับพรุ่งนี้เช้า พ่อแม่จะแพ็คอาหารมาให้ต้องเคลียร์กระเป๋ารอ ต้องไปซื้อผัก ซื้ออาหารแห้ง มาม่า ผงปรุงรสซอง น้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่ม ฯลฯ อีก

 

พี่ๆ บางคนตอนเช้าจะไปส่งลูกไปโรงเรียน หรือถ้าตอนเย็น ก็จะไปรอรับกลับบ้านมาด้วยกัน คนมีแฟน…โอเค เดี๋ยวแฟนมารอที่ล็อบบี้โรงแรม ไปกินข้าวกันที่ไหนดีนะวันนี้

 

มันคือ 24 ชม. , 36 ชม.ที่คุ้มค่ามากที่สุด คือการพักที่ดีที่สุดจากการบินไปมาทั่วโลก เพราะอะไรรู้มั้ย? เพราะมันมี “ความสุข” รออยู่ไง

 

- สุข ที่ได้เจอหน้าคนที่เรารัก

- สุข ที่ได้กินอาหารที่ถูกปาก

- สุข ที่ได้พูดภาษาตัวเอง

- สุข ที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เคยเป็น

 

การเป็นแอร์ มันสอนให้เราเห็นคุณค่าของเวลานะ มันทำให้เรารู้ว่า ถ้ามีโอกาสอะไรให้รีบทำ เราไม่ได้มีเวลาที่ตรงกับคนอื่นมาก แต่เชื่อเถอะ ว่าทุกเวลาที่เราใช้ไป ไม่ว่ากับใคร เราใช้มันอย่างคุ้มค่าและเต็มที่มากๆ จริงๆ

 

ถามว่าเกือบ 5 เดือนที่ผ่านมา เราที่ติดอยู่ต่างประเทศ พลาดอะไรกันไปบ้าง ที่เจ็บปวดที่สุดก็คือช่วงวันหยุดต่างๆ ไม่ว่าจะสงกรานต์ วันจักรี วันพืช วันวิสาขฯ อาสาฬห หรือหยุดอะไรใดใด ที่คนอื่นๆ ได้หยุดยาวกัน หรืออย่างเดือนนี้ “วันแม่” ที่ปกติเราจะพาแม่ไปกินข้าวทุกปี ก็กลายเป็นทำได้แค่โทรกลับไทย มองดูรูปในโซเชียล วันหยุด ที่ปกติ เราจะพยามกลับไทยให้ได้

 

วันหยุด ที่ปกติ เราจะพยามขอลีฟกัน แต่ตอนนี้เราทำได้แค่มองให้มันผ่านไป หลายๆ ครั้งเราตั้งคำถามกับตัวเองนะ

- ว่าเราจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานมั้ย?

- ทำไมพี่ๆ เค้าเก่งจัง บินไป บินมา ได้ไงเป็นสิบๆ ปี

- กลับไปอยู่ไทยดีมั้ย?

 

แต่พอคิดกลับไปกลับมาอีกที งานนี้ มันก็คืองานที่เรายังรักอยู่ แต่สำหรับพี่ๆ ที่บินมาเยอะๆ แล้วก็ไม่แปลกใจหรอก ที่เค้าเลือกที่จะแขวนปีก และกลับไปใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องแข่งกับไทม์โซนใดใด , ไม่ต้อง 4x100 เพื่อไปสนามบินหลังแลน , ไม่ต้องไปยืนรอตั๋วแสตนบาย ลุ้นที่บนไฟลท์ ก็เอาเป็นว่า ถ้าวันนึง ชีวิตเรามีแพลนที่ไทยชัดเจน มีเป้าหมายว่า “กลับไปเพื่ออะไร และเพื่อใคร”

 

- เพื่อตัวเอง…เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพมั้ย?

- เพื่อครอบครัว…เราสามารถเป็นเสาหลักได้รึเปล่า?

- เพื่อคนรัก…เรามีอนาคตร่วมกันแน่แล้วใช่มั้ย?

 

สำหรับเรา ถ้า 3 อย่างนี้ ตอบโจทย์ทั้งหมดละก็… ”One day the plane ticket will be one way” แต่ตอนนี้ ขอกอดตัวเองไปก่อนนะ อยากให้คนที่ไทยรู้ว่า พวกเราก็รออยู่ รอวันที่ไทยจะเปิดประเทศ จะได้ “กลับไปหาความสุขของเรา” เหมือนกัน"

 

 

 

 

CR เฟซบุ๊ก Namphon Sirikul

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0