นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองและผู้กว้างขวางในแวดวงธุรกิจกลางคืน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ พร้อมภาพเผยให้เห็นกลุ่มชายกำลังปืนบันได เพื่อถอดกล้องวงจรปิดออก มีแม่บ้านกำลังทำความสะอาด ขณะที่มีศพจากเหตุยิงกันนอนเรียงรายใกล้ๆ เท่าที่ปรากฎในภาพ 3 ศพ จากเหตุยิงกันเสียชีวิต 4 ราย ในสถานที่ลับ ที่ถูกระบุเป็นบ่อนการพนัน ย่านพระราม 3 ใจความว่า
ผบช.น.จ่อสอบลึก 'บ่อนพระราม 3' มีจริงหรือ เรียก 'ชูวิทย์ - สันธนะ' ให้ข้อมูล
กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว กฎหมาย มีไว้ให้คนในสังคมปฎิบัติตาม ผู้ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ต้องอำนวยความยุติธรรมให้บังเกิดแก่ทุกคนในสังคมอย่างเท่าเทียม แต่กลับพลิกแพลง ใช้ประสบการณ์ ความรู้ ความชำนาญ เอื้ออำนวย ปกปิด บิดพริ้วความเป็นจริง และใช้อำนาจปกป้องหน่วยงานของตัวเอง โดยพยายามชี้นำสังคมถึงความเชื่อถือบนซากปรักหักพังที่ล่มสลาย การพูดเรื่องผิดให้กลายเป็นถูก เพื่อประโยชน์ต่อตัวเองและพวกพ้องหรือ
"ไม่ว่าการอ้างไม่มีกล้องวงจรปิด ขนย้ายหลักฐานเพื่อกลบเกลื่อนความผิดในการตั้งบ่อนการพนันและมีคนตาย โดยไม่สนใจถึงสภาพที่เกิดเหตุ ความเป็นจริงของคดี"
ในที่สุด ความยุติธรรมที่บิดเบี้ยว ก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวท่านเองอย่างเหลือเชื่อ
"ข่าวล่าสุด ผบช.น.(พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา) จะเรียกผมไปสอบขอข้อมูลบ่อนเฮียตี้ จะเรียกผมไปทำไม?ควรเรียก 2 คนในรูปที่เห็นปีนบันไดลิง มือถือสว่านถอดกล้องอยู่ ไปให้การยังดีเสียกว่า ว่าถอดไปทำไม? แบบนี้เท่ากับเคลื่อนย้ายหลักฐานออกจากที่เกิดเหตุ ทั้งๆที่มีศพนอนอยู่ข้างๆแบบนั้น ทำกันได้ถึงขนาดนี้ ไม่อายฟ้าดินบ้างเลย พ่อเจ้าประคุณเอ๋ย"
ผบช.น.สั่งสอบวงจรปิดหาย ย้ายหลักฐานหนีจาก'บ่อนเฮียตี้' เด้งกราวรูด 'ผบก.-สารวัตร'
นักเล่น แฉ 'บ่อนพระราม3' ไม่ใช่ของ'เฮียตี้' อ้างยิงกันตายตั้งแต่บ่าย มือยิง ช. 'มีสี' คุมบ่อน
