เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2020 แล้วรู้สึกแปลกตาและใจหาย แข้งดังซีเนียร์ถูกปล่อยเกือบทั้งหมดไม่หลงเหลือทีมชุดแชมป์ไทยลีกปี 2016 กลายเป็นเวลาผลักดันดาวรุ่งสายเลือดใหม่ อันที่จริงพวกเขามีเยาวชนมากมายที่เลี้ยงไว้เกิน 100 ชีวิต แน่นอนว่าเด็กเหล่านี้ถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นกับทีมพันธมิตรเพื่อสั่งสมประสบการณ์ บางคนถ้าแจ้งเกิดก็จะถูกเรียกตัวกลับมาใช้งาน แต่ถ้าไม่เกิดก็ต้องวนเวียนยืมตัวจนกว่าจะหมดสัญญา
เมืองทอง สูญเสียดาวรุ่งฝีเท้าดีในมือตัวเองไปไม่ต่ำกว่า 30 ชีวิต ที่ออกไปเติบโตที่เชียงราย ยูไนเต็ด และ พัทยา ยูไนเต็ด หรือในชื่อใหม่ สมุทรปราการ ซิตี้ โดยบางคนก้าวไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ และนั้นทำให้ผู้บริหารเลือกจะผลักดันเด็กขึ้นมาใช้งานอย่างจริงจัง แทนการบ้าจี้ซื้อตัวนักเตะเว่อๆและสร้างมูลค่าทีมแบบที่ผ่านมา
ขอบสนามขอนำเสนอ 5 แข้งตัวท็อปเมืองทอง ที่ออกไปเติบโตแจ้งเกิดกับทีมอื่น
1.พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล
กองกลางตัวรับอเนกประสงค์ที่สถาปนาเป็นคีย์แมนหลักทีมชาติไทยในเวลาอันรวดเร็ว "เต้" คือคนที่ฉกฉวยโอกาสในจังหวะที่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ บาดเจ็บและยึดตำแหน่งตัวจริงในทีเชียงราย ยูไนเต็ด ขึ้นมาเป็นกัปตันทีม ทำหน้าที่ตัดเกม คุมจังหวะ สร้างจังหวะให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ง่ายขึ้น แถมด้วยความเป็นคนใฝ่ดีมีวินัยฝึกฝนตัวเอง ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ทำให้ พิธิวัต เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ทั้งที่ความจริง 5 ปีที่แล้ว เขายังเป็นตัวสำรองในทีมชุดใหญ่ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของดราแกน ทาลายิช ที่ไร้วี่แววจะประสบความสำเร็จ แค่ก้าวกระโดดออกมาครั้งเดียวชีวิต พิธิวัต เปลี่ยนไปตลอดกาล
2.สุพรรณ ทองสงค์
เด็กหนุ่มจากเมืองขุนแผน ที่เข้ามาเรียนหนังสือที่อัสสัมชัญธนบุรีพร้อมโควต้านักฟุตบอล ก่อนจะได้โอกาสรับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งแต่ยังไม่จบม.6 "เชน" ก็ใฝ่ฝันอยากลงเล่นไทยลีกกับทีมในฝันของเขา ทว่าเขากลับพบความจริงว่า ตัวเองคือดาวรุ่งที่ไม่ได้รับโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ และต้องออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยสัญญายืมตัว กับสมุทรสงคราม และ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และเมื่อกลับมาอยู่ในรั้วกิเลนผยอง เมื่อปี 2016 สุพรรณ เป็นอะไหล่ในยุคของ"โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ทว่าด้วยความคิดของผู้บริหารที่ต้องการตัว ชาริล ชัปปุยส์ มาสร้างความแตกต่างและดึงแฟนบอลเข้าสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม พวกเขาจึงประเคน เชน สู่อ้อมกอดสุพรรณบุรี เอฟซี
3.พิชา อุทรา
แนวรุกร่างเล็กจากเชียงใหม่ ผลผลิตจากจีเอ็มจี อะเคเดมี่ที่อำเถอบ้านบึง ในชลบุรี เมื่อโครงการถูกยุบเขาจึงถูกส่งตัวมาเป็นเยาวชนเมืองทอง ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา เขาเป็นดาวรุ่งฝีเท้าจัดจ้านและช่วยกิเลนผยองผงาดคว้าแชมป์โค้ก คัพ 2 สมัย และถูกปล่อยตัวไปวาดลวดลายกับพัทยา ยูไนเต็ด ในระดับดิวิชั่น 1 และเมือช่วยทีมโลมาน้ำเงินขึ้นสู่ไทยลีก เคน จึงถูกขายแบบถาวร ทำให้เขาต้องออกไปแจ้งเกิดกับทีมอื่นที่ไม่ใช่เมืองทอง ภาพรวมพิชา ถือว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่เล่นในบทบาทจอมทัพ, ตัวริมเส้น, หน้าต่ำ จนมีชื่อติดทีมชาติไทย 23 ปี และชุดใหญ่ และด้วยสัญญาที่กำลังหมด ทำให้กิเลนผยอง รีบดำเนินการซื้อตัวมาร่วมทีมอีกครั้ง ซึ่งมันน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ พิชา ถูกซื้อกลับมาร่วมทีมกับสโมสรที่ครั้งหนึ่งเคยมองข้ามฝีเท้าของเขา
4.ศิวกรณ์ เตียตระกูล
ดาวรุ่งลูกคนมีฐานะจากสระบุรี ผู้ที่มีฝันที่ชัดเจนว่าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพในเมืองหลวง และมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า จากเด็กที่เกาะรั้วเพื่อดูเมืองทอง ยูไนเต็ด ลงแข่งขันในระดับดิวิชั่น 1 และฝันก็มาใกล้ตัวหลังโชว์ฟอร์มเยี่ยมให้โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนในการแข่งขันจตุรมิตร ยิงฟรีคิกใส่เทพศิรินทร์ หลังจบเกม เฟย ได้รับสัญญาเป็นนักเตะกิเลนผยองทันที และก็ถูกส่งไปหาประสบการณ์ในระดับดิวิชั่น 2 กับนครนายก, ศุลกากร และทีมลูกอีสาน กระทั่งเขาแจ้งเกิดในสีเสื้อพัทยา ยูไนเต็ด และถูกดึงตัวมาสู่ทีมชุดใหญ่ เมืองทอง ในยุคของดราแกน ทาลายิช ช่วงเลก 2 ปี 2015 ทว่าเมื่อจบซีซั่นเมืองทอง ตัดสินใจปล่อย ศิวกรณ์ ให้บีอีซี เทโรศาสน เขาแจ้งเกิดได้ไฉไล กลายเป็นเจ้าพ่อลูกนิ่ง และใช้เท้าซ้ายในการสังหารประตูเป็นว่าเล่น เมื่อจบฤดูกาล 2016 เชียงราย ยูไนเต็ด จึงทุ่มเงินเกือบ 20 ล้านบาทมาซื้อตัวไปร่วมทีม
5.ชินภัทร ลีเอาะ
กองหลังพันธ์ุโหดจากนครปฐม ที่ชาญฉลาดในเรื่องการตัดเกมคู่แข่ง ที่มาเรียนหนังสือให้อัสสัมชัญธนบุรี ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกับ "บอมบ์" จึงแบกอายุไปเผชิญหน้ากับแข้งที่โตกว่า และได้โอกาสติดทีมชาติในระดับเยาวชนแทบทุกรุ่น จนถูกเมืองทอง เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ น่าเสียดายที่โอกาสในทีมชุดใหญ่มันไม่เคยมีที่ว่างสำคัญเขาเลย และถูกส่งตัวไปร่วมทีมอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และพัทยา ยูไนเต็ด จนเมื่อเชียงราย ยูไนเต็ด ขอเหมาแข้งเมืองทองไปร่วมทีม 5 ชีวิต ชินภัทร จึงได้โอกาสลงเล่นในไทยลีกและแจ้งเกิดจนก้าวมาเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งระดับต้นๆของลีก
