โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เมื่อแฟนนอกกาย จะคบกันต่อไปดีไหม - ฟาร์มรัก

LINE TODAY

เผยแพร่ 14 มิ.ย. 2563 เวลา 17.00 น. • เพื่อนตุ้ม

เมื่อคำถามทั่วไปตอบง่าย แต่คำถามหัวใจดันตอบยาก..ความรักก็เลยมักมีปัญหาเสมอ

จะทำอย่างไรเมื่อแฟนไปมีความสัมพันธ์แบบซื้อกินแล้วจบ ความสัมพันธ์ทางกายแบบนี้เป็นเรื่องที่ผู้หญิงส่วนใหญ่รับไม่ได้เสมอ แม้จะเป็นแค่ของชั่วคราวก็ตาม

“เราคบกับแฟนด้วยความจริงใจ เขาเอาใจใส่เราทุกอย่าง มีอะไรไม่เคยปิดบัง ที่สำคัญครอบครัวของเขารักและคาดหวังกับเรามากว่าจะได้มาเป็นคู่ของลูกชายเขา มีอยู่มาวันหนึ่งเขามาบอกว่าไปมีอะไรกับผู้หญิงกินเที่ยวคนหนึ่ง พอเรารู้ก็เสียใจมาก แต่เขาบอกว่าทำไปเพราะอยากลองจะได้รู้ว่าเวลามีอะไรกันจะได้ทำเป็น ไม่เคยคิดจะนอกใจเราเลย แต่เรารับไม่ได้

“เขาก็เสียใจเหมือนกัน ตามง้อเรามาเป็นนานปี แต่เราลืมเรื่องนี้ไม่ได้ ปรึกษาผู้ใหญ่ก็บอกว่าธรรมดาของผู้ชายอย่าไปคิดมากเลย เขารักเราจริง ถึงมาบอกความจริง ประมาณว่าที่บ้านก็ยังส่งเสริมและรับเขาได้ ตอนนี้บางครั้งเราก็ยังรู้สึกหวั่นไหวกับการง้อของเขา แต่ก็สับสนว่าจะเอายังไงดี จะยอมคืนดีหรือเลิกร้างกัน เพื่อน ๆ พี่ ๆ คิดว่ายังไงคะ จนป่านนี้เราก็ยังตัดสินใจไม่ได้เลย”

หลายต่อหลายคู่เคยเจอปัญหานี้มาก่อน..จนมีคำถามขึ้นมาบ่อย ๆ ว่าเมื่อเกิดการนอกใจหรือนอกกายไปแล้ว แต่อีกคนไม่รู้ แถมเรื่องราวก็จบลงไปแล้วด้วย ประเด็นแบบนี้ควรจะบอกสิ่งที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วให้อีกคนได้รับรู้อีกหรือไม่

ส่วนใหญ่คนที่สารภาพความจริงออกไป มักจะยังต้องคงความสัมพันธ์เอาไว้ และกลัวว่าอีกคนจะมารู้ความจริงทีหลัง รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองจนไม่อาจปิดบังความจริงเอาไว้ได้ ทำให้การบอกออกไปก็เหมือนกับการได้ไถ่โทษในระดับหนึ่ง

ทว่าพอสารภาพไปแล้ว กลับไม่มีอะไรเป็นเหมือนเดิม…

การสารภาพไม่ใช่การล้างมลทิน บางคนพอสารภาพไปแล้วแทนที่จะรู้สึกโล่งอกขึ้น กลับกลายเป็นการปิดฉากความสัมพันธ์ของตัวเองลงซะดื้อ ๆ จึงมีคำถามตามมาว่า “ในเมื่อมันจบไปแล้ว อีกฝ่ายก็ไม่รู้ จะสารภาพเรื่องแบบนี้ไปเพื่ออะไร”

นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ได้ออกมาแนะนำว่า ในกรณีที่เรื่องมันผ่านไปแล้ว ซื้อกินแล้วจบ ไม่มีทางที่จะมีความสัมพันธ์กันต่อไปได้ ให้หุบปากเอาไว้ให้เงียบที่สุด ไม่มีใครยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการนอกใจหรือนอกกายก็ตาม การสารภาพความจริงก็เหมือนการกระชากเอาความไว้เนื้อเชื่อใจทั้งหมดที่มีไปย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกลับมารักกันเหมือนเดิมโดยไม่เหลือความไว้ใจ

ด้านของคนที่รู้ความจริง แน่นอนว่าต้องผิดหวัง รู้สึกเหมือนทุกอย่างพังครืนลงตรงหน้า ความรัก ความไว้ใจที่มีมาตลอดถูกทำลายไปหมดสิ้นจนไม่รู้ว่าจะไปต่อกับความสัมพันธ์นี้ยังไง

“ใจหนึ่งก็รัก อีกใจก็เจ็บ..” น่าจะเป็นคำนิยามที่เหมาะกับเรื่องนี้ได้ดีที่สุด จากคำบอกเล่า เหตุการณ์นี้น่าจะเกิดขึ้นสักพักแล้ว ซึ่งในเมื่อเรื่องมันดำเนินมาขนาดนี้แล้ว อาจถึงเวลาที่เราต้องถามตัวเองจริง ๆ จัง ๆ แล้วก็ได้ว่ายังรักผู้ชายคนนี้อยู่หรือไม่ ถ้ารัก..แล้วพร้อมจะให้อภัยเขาหรือไม่ เพราะถ้ารักอย่างเดียว แต่ยังไม่พร้อมจะให้อภัย ยังไงความสัมพันธ์มันก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้อยู่ดี

มีหลายคนที่โดนแฟนนอกใจ แต่ก็กลับมารักกันเหมือนเดิมได้ สิ่งที่ทำให้กลับมาได้ก็คือการที่คนหนึ่งให้อภัย ส่วนอีกคนก็ยอมรับผิด และยืนยันว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก บางคู่ถึงพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ดีกว่าเดิมด้วย แต่ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ความรัก ความไว้ใจ ความเชื่อใจมันไม่ได้กลับคืนกันมาได้ง่าย ๆ

>>โดนนอกใจ..ควรจะไปต่อ หรือ พอแค่นี้<< 

ถ้าถามตัวเองแล้ว คำตอบที่ได้คือมันไม่ได้จริง ๆ ใจเฝ้าแต่คิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงที่ไม่รู้จักตลอดเวลา ก็คงไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่กับความคิดนั้นต่อไปเรื่อย ๆ เคลียร์กับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจนว่าความสัมพันธ์นี้มันไปต่อไม่ได้จริง ๆ เราไม่พร้อมที่จะไปต่อทั้งที่รู้สึกแบบนี้ และไม่มั่นใจด้วยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เชื่อว่าความรู้สึกที่ชัดเจนของเราน่าจะทำให้ผู้ใหญ่รับรู้ได้

ส่วนที่ต้องเคลียร์อย่างจริงจังที่สุดก็คือความรู้สึกของตัวเอง ถ้าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เรายังให้คำตอบตัวเองไม่ได้ แปลว่าเราเองก็ยังไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่ายังรักเขาอยู่ไหม และไม่แน่ใจด้วยว่าจะไม่มีเขาได้ไหม เพราะฉะนั้นเคลียร์ใจกับตัวเองข้อนี้ให้ดี อย่าลืมว่าความชัดเจนและมั่นใจสำคัญที่สุด

สุดท้ายที่ต้องเคลียร์ก็คือเขา การที่เขายังตามง้อ ตามตื้อก็เพราะเราไม่ชัดเจน และความไม่ชัดเจนก็ไม่ต่างอะไรกับการให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ดังนั้นก็ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่ายังมีโอกาส ถ้ายังลังเลหรือสับสนว่าจะทำยังไงกับความสัมพันธ์นี้ดี คำตอบอาจจะอยู่ตรงหน้าเรามาตั้งนานแล้วก็ได้

สุดท้ายอย่าลืมว่าความรักของเราก็ต้องเป็นไปในแบบของเรา ไม่มีใครมีสิทธิ์มาตัดสินใจแทนเราว่ามันควรดำเนินต่อไปยังไง หน้าที่ของเราก็คือฟังความคิด ฟังหัวใจตัวเอง และทำตามสิ่งที่ความคิดและหัวใจบอกก็เท่านั้น ~

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0