"เทพไท" เสนอถอยคนละก้าว รัฐบาลต้องชัดเจนในการแก้รัฐธรรมนูญ ม็อบนักศึกษาต้องยึดข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ มีผลกระทบและผูกพันกับทุกองคาพยพในสังคมไทย ถ้ากฎหมายรัฐธรรมนูญมีปัญหา ทุกอย่างก็จะมีปัญหาเชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ ถ้ารัฐบาลตีโจทย์ปัญหาของบ้านเมืองไม่แตก ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด การชุมนุมของนักศึกษาในขณะนี้ ข้อเรียกร้องหลัก คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความชัดเจน กล้าประกาศจุดยืนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร ไม่ต้องรอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 จะทำให้สามารถลดบรรยากาศความร้อนแรงทางการเมืองลงได้ ยิ่งมีการจับกุมนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำการชุมนุมของนักศึกษา ยิ่งเป็นการเติมไฟลงไปในสถานการณ์ทางการเมืองให้ร้อนแรงขึ้นอีก จะทำให้การชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษา มีพลังและขยายแนวร่วมได้มากยิ่งขึ้น เมื่อรัฐบาลเพิ่มแรงกดดันมากเท่าไหร่ กระแสต่อต้านก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น รัฐบาลควรใช้วิธีการแก้ปัญหาอย่างละมุนละม่อม ใช้วิธีการเจรจาพูดคุย ทำความเข้าใจกัน จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะกลุ่มนิสิตนักศึกษาเหล่านั้น คือเยาวชนของชาติ เปรียบเสมือนลูกหลาน ต้องให้โอกาส และสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง และสามารถวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นปัญหาในเชิงวิชาการได้ แต่ไม่ควรเคลื่อนไหวในเชิงเสียดสี ดูหมิ่น หรือจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง เพราะจะทำให้เกิดแรงต่อต้าน และความขัดแย้งของคนในชาติรุนแรงมากยิ่งขึ้น
นายเทพไท กล่าวต่อว่า จึงขอเสนอให้ทุกฝ่ายถอยกันคนละก้าว คือ รัฐบาลควรมีความชัดเจนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะแก้ไขอย่างไร แก้ไขมาตราใดบ้าง หรือจะยินยอมให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)หรือไม่ ต้องมีปฎิทินทางการเมือง หรือไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ในส่วนการชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษา ก็ควรเคลื่อนไหวภายใต้ข้อเสนอที่มีความเป็นไปได้ ยึดมั่นข้อเรียกร้องเดิม3ข้ออย่างมั่นคง ส่วนข้อเสนอใหม่10ข้อที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้าเป็นข้อเสนอทางวิชาการ ไม่ริดรอนพระราชอำนาจ ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นการก้าวล่วง ก็ไม่บังควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะข้อเรียกร้องทั้งหมดเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของสังคม ที่พึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ การเคลื่อนไหวใดๆต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเท่านั้น
