วันที่ 12 สิงหาคม 2563 ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลจังหวัดระยองนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลระยองแล้ว เหตุเกิดเป็นร้านขายของชำ ถนนชายกระป่อม 2 ตรงข้ามโรงไฟฟ้าย่อย ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ขอให้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุด้วย จึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแจ้ง พันตำรวจเอกฐาปนะ คลอสุวรรณา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง พันตำรวจโท เกียรติพงศ์ กมขุนทด รองผู้กำกับการปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง พันตำรวจตรี ธนา วิเศษชัย สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง พร้อมกำลังชุดสายตรวจและชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำห้องแถวยาวจำนวน 10 ห้อง ห้องที่เกิดเหตุเลขที่ 50/19 ถนนชายกระป่อม 2 ตรงข้ามโรงไฟฟ้าย่อย ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีชาวบ้านยืนดูจำนวนมาก เจ้าหน้าทึ่ตำรวจได้นำเชือกมาดึงกั้นเพื่อไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในร้านเนื่องจากเกรงว่าจะทำลายพยานวัตถุหลักฐาน บริเวณโต๊ะบัญชีในร้านลิ้นชักถูกเปิดออกเบื้องต้นไม่ทราบว่ามีเงินหายไปจำนวนเท่าไหร่ที่พื้นมีรอยหยดเลือดจำนวนมาก บริเวณข้างร้านค้า พบกองเลือดจำนวนมากมีเศษผ้าก๊อตสีขาวเปื้อนเลือดตกอยู่ มีรองเท้าแตะสีแดงเปื้อนเลือด 1 คู่ ผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง ทราบชื่อ นายยุทธพงษ์ (แดง) พลกุล อายุ 62 ปี บาดเจ็บมีบาดแผลที่ถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณคอด้านซ้ายและด้านขวารวมกว่า 10 แผลและเหนือราวนมด้านซ้าย 2 แผล ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตต่อมา อีกราย ชื่อ นางทองอยู่ สุวรรณ อายุ 58 ปี พบบาดแผลถูกอายุธมีดแทงที่คอด้านขวา 1 แผล รู้สึกตัวดีแต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
จากกานสอบสวน นางสมศรี พลกุล อายุ 61 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตเล่าให้ฟังว่า ตนเองและสามีได้เปิดร้านขายของชำมาหลายปี ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ที่ร้าน ออกไปซื้อของที่ตลาดเพื่อจะนำมาขายที่ร้านค้า พอกลับมาถึงเห็นคนมุงดูกันที่ร้านค้ารู้สึกตกใจและทราบว่าสามีถูกอาวุธมีดแทงนำตัวส่งโรงพยาบาลระยองพร้อมกับ นางทองอยู่ สุวรรณ บาดเจ็บ ซึ่งเป็นน้องสาวของตน ตนคิดว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นเหตุทะเลาะวิวาทน่าจะเป็นเหตุชิงทรัพย์เนื่องจากผู้ตายอยู่ร้านคนเดียวและเป็นคนที่มีร่างกายไม่แข็งแรงเนื่องจากเส้นเลือดฝอยแตกมานานหลายปี เดินไม่ค่อยแข็งแรง และช่วงสบโอกาสคนร้ายเห็นว่าสามีอยู่คนเดียวจึงเข้ามาก่อเหตุ
นางสาวเพิดพินิจ ลุล่วง อายุ 34 ปี ชาวบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากร้านค้าว่าช่วยด้วยช่วยด้วย จึงได้เดินมาดูที่ร้านค้าและเห็นว่ามีคนถูกแทงบาดเจ็บ 2 คนคนที่ก่อเหตุเป็นชาย 1 รายลักษณะวัยรุ่นสวมเสื้อแขนยาวไม่แน่ใจว่าสีเทาหรือดำ กางเกงขายาว สวมหมวกกันน๊อคเต็มใบขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นคลิกสีขาว - ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังจากก่อเหตุหลบหนีไปทางถนนจันทอุดม ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
ร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง กล่าวว่า คดีนี้คนร้ายที่ก่อเหตุหวังต่อทรัพย์สินจึงได้ก่อเหตุ และมีการต่อสู้กัน เนื่องจากผู้ตายไม่ยอม และผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อยู่ห้องติดๆกันได้ยินเสียงร้องจึงออกมาช่วยแต่ถูกคนร้ายแทงได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้สอบปากคำพยานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุไว้แล้ว 2 ปาก และได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจเช็คกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้ๆที่เกิดเหตุ ส่วนอาวุธมีดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้นไม่พบตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้วน่าจะนำอาวุธมีดติดตัวไปด้วย และแจ้งสายตรวจเขตทุกเขตช่วยสังเกตรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป