โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อาชีพรับจ้างทำให้คู่รักเลิกกัน กำลังเฟื่องฟูในญี่ปุ่น

Khaosod

อัพเดต 11 ส.ค. 2563 เวลา 15.45 น. • เผยแพร่ 11 ส.ค. 2563 เวลา 15.45 น.
_113866681_70234aa9-f4b9-4a34-89d9-7d018f8b8d7c.jpg

อาชีพรับจ้างทำให้คู่รักเลิกกัน กำลังเฟื่องฟูในญี่ปุ่น - BBCไทย

ปี 2010 นายทาเคชิ คุวาบาระ ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานฆาตกรรมนางริเอะ อิโซฮาตะ คู่รักของเขา  ทว่าสิ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้ติดตามข่าวทั่วโลกกลับไม่ใช่เรื่องของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น แต่เป็นประเด็นที่ว่านายคุวาบาระ เป็น "วะคะเระซาเซยะ" (wakaresaseya) หรือผู้ที่สามีของนางอิโซฮาตะ ว่าจ้างให้มาเป็นมือที่สาม ช่วยให้การสมรสของพวกเขาจบลง

ในชีวิตจริง ตัวของนายคุวาบาระแต่งงานและมีลูกอยู่แล้ว เขามีอาชีพที่ช่วยให้คู่รักแยกทางจากกันโดยไม่มีการเผชิญหน้าที่รุนแรง ซึ่งในกรณีของนางอิโซฮาตะ เขาได้วางแผนการในการพบและทำความรู้จักกับเธอที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าตนเองเป็นพนักงานด้านไอที

การสวมแว่นตาและภาพลักษณ์แบบหนุ่มเนิร์ด อาจช่วยดึงดูดความสนใจของนางอิโซฮาตะ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มแอบคบหากัน จนในที่สุดได้นำไปสู่การมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง

 อาชีพรับจ้างทำให้คู่รักเลิกกัน
 อาชีพรับจ้างทำให้คู่รักเลิกกัน

ธุรกิจวะคะเระซาเซยะเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันในสังคมญี่ปุ่น / ALAMY

ขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมงานของนายคุวาบาระ ก็จะรับหน้าที่ถ่ายรูปทั้งสองขณะเข้าโรงแรม เพื่อให้สามีของนางอิโซฮาตะนำไปใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องหย่า (หลักฐานเหล่านี้มีความสำคัญสำหรับใช้ต่อสู้คดีฟ้องหย่าในญี่ปุ่น)

แต่เมื่อนางอิโซฮาตะได้ทราบความจริงว่าตนเองถูกหลอกลวง เธอรู้สึกโกรธมาก และพยายามตัดความสัมพันธ์กับนายคุวาบาระ แต่เขาไม่ยอมเลิก แล้วใช้เชือกรัดคอเธอจนเสียชีวิต ในปีต่อมานายคุวาบาระ ได้ถูกตัดสินจำคุก 15 ปีในความผิดดังกล่าว

ธุรกิจวะคะเระซาเซยะ จึงได้รับความสนใจนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งปัญหาการต้มตุ๋น บวกกับคดีฆาตกรรมอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ได้นำไปสู่การปฏิรูปการประกอบธุรกิจประเภทนี้ในญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงการกำหนดให้สำนักงานนักสืบเอกชนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นายยูสุเกะ โมชิซูกิ สายลับจาก "ร้านบอกลา" ที่มีชื่อว่า First Group ระบุว่า การยกเครื่องดังกล่าวรวมถึงการปราบปรามโฆษณาธุรกิจวะคะเระซาเซยะทางออนไลน์ และการที่สังคมมีความเคลือบแคลงสงสัยมากขึ้น ซึ่งทำให้สายลับวะคะเระซาเซยะทำงานได้ยากขึ้น

ปัจจุบัน เวลาได้ล่วงเลยมา 1 ทศวรรษแล้ว นับแต่เกิดคดีฆาตกรรมนางอิโซฮาตะ และโฆษณาธุรกิจวะคะเระซาเซยะทางออนไลน์ก็กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง แม้จะมีค่าบริการสูง และเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันในสังคมก็ตาม

จุดดึงดูดของ "วะคะเระซาเซยะ"

ธุรกิจนี้ยังคงได้รับความสนใจจากคนเฉพาะกลุ่มในสังคม โดยการสำรวจชิ้นหนึ่งพบข้อมูลว่า ปัจจุบันมีโฆษณาให้บริการของบริษัทรับจ้างทำให้คู่รักเลิกรากัน 270 แห่งทางออนไลน์ หลายแห่งเป็นธุรกิจที่ผูกอยู่กับบริษัทนักสืบเอกชน

นายโมชิซูกิ อดีตนักดนตรีที่หันเอาความสนใจส่วนตัวเรื่องสายลับมาทำเป็นอาชีพหลัก ยอมรับว่า "บริการวะคะเระซาเซยะมีค่าบริการค่อนข้างสูง" โดยอาจมีราคา 4 แสนเยน (ราว 1.21 แสนบาท) สำหรับกรณีที่ไม่ซับซ้อน เช่น มีข้อมูลมากเกี่ยวกับกิจกรรมของบุคคลเป้าหมาย แต่ราคาก็จะสูงขึ้นหากเป้าหมายเป็นคนสันโดษ

นอกจากนี้ ค่าบริการอาจสูงพุ่งถึง 20 ล้านเยน (ราว 5.9 ล้านบาท) หากลูกค้าเป็นนักการเมือง หรือบุคคลมีชื่อเสียง ซึ่งต้องการให้ดำเนินการเป็นความลับในระดับสูง (แม้ว่านายโมชิซูกิจะอ้างว่าบริษัทของเขามีอัตราความสำเร็จสูง แต่ผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจประเภทนี้ได้แนะผู้ที่อาจไปใช้บริการให้พึงระวัง และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข้ออ้างเหล่านี้ รวมทั้งให้เตรียมรับความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นได้)

น.ส.สเตฟานี สกอตต์ นักเขียนจากกรุงลอนดอน ได้นำเค้าโครงเรื่องบางส่วนจากคดีฆาตกรรมนางอิโซฮาตะมาเขียนไว้ในนิยายเรื่องใหม่ของเธอที่มีชื่อว่า What's Left of Me Is Yours ซึ่งเธอได้ค้นคว้าข้อมูลมากมายสำหรับแต่งนิยายเรื่องนี้ โดยร่วมงานกับสมาชิกสมาคมกฎหมายญี่ปุ่นแห่งอังกฤษ

สเตฟานี สกอตต์ นักเขียนจากกรุงลอนดอน นำเค้าโครงเรื่องบางส่วนจากคดีฆาตกรรมนางอิโซฮาตะไปเขียนในนิยายเรื่องใหม่ของเธอ / JULIUS HONNOR

น.ส.สกอตต์ เล่าว่า การว่าจ้างวะคะเระซาเซยะ "ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า" มันเป็นวิธีการระยะสั้นในการแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากโดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และภรรยาของคุณก็มีแนวโน้มที่จะยอมหย่ามากขึ้นหากเธอตกหลุมรักกับคนอื่น และอยากจะเดินหน้าต่อไปในความสัมพันธ์ครั้งใหม่" ดังนั้นบริการนี้จึงมีประโยชน์เป็นพิเศษในกรณีที่คู่สมรสไม่ยอมตกลงหย่า ซึ่งมักทำให้กระบวนการยุติการสมรสมีความยุ่งยาก

แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ของนายโมชิซูกิมักไม่ใช่คนที่ต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้แยกทางกับคู่สมรสของตน แต่เป็นคนที่ต้องการให้คู่สมรสที่แอบนอกใจไปกับคนอื่นได้ยุติความสัมพันธ์นั้นลง เขายกตัวอย่างกรณีที่อาจเกิดขึ้นดังนี้

สมมติว่า อายะ เชื่อว่า บุงโก สามีของเธอกำลังมีชู้ เธอจึงติดต่อนักสืบวะคะเระซาเซยะ ที่ชื่อว่า ชิคาฮิเดะ

ชิคาฮิเดะ จะเริ่มศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เช่น ดูว่าอายะมีข้อมูลอะไรให้บ้าง สะกดรอยตามดูความเคลื่อนไหวของบุงโก ดูโปรไฟล์ทางออนไลน์ของเขา และข้อความที่สื่อสารกันในนั้น เพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนฝูงและกิจวัตรของเขา ชิคาฮิเดะ ได้ตามถ่ายภาพและพบว่าบุงโกนอกใจภรรยาจริง

บุงโก เป็นคนจากเมืองคาโงชิมะผู้รักการออกกำลังกายในยิมเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้น ชิคาฮิเดะ จึงส่ง ไดสุเกะ เพื่อนร่วมงานชายที่มีสำเนียงพูดแบบคนคาโงชิมะเข้าไปตีสนิทกับบุงโก

ไดสุเกะ เริ่มไปที่ยิมเดียวกับบุงโก แล้วเริ่มชวนคุยเพื่อสร้างความสนิทสนมกับเขา โดยการที่ไดสุเกะได้ข้อมูลเกี่ยวกับบุงโกมากมายจากการค้นคว้าของชิคาฮิเดะ จึงทำให้เขาสามารถพูดคุยเรื่องที่บุงโกสนใจได้ และทำให้พวกเขาดูเหมือนว่ามีอะไรคล้าย ๆ กัน จนในที่สุด ไดสุเกะ ก็ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับ เอมิ กิ๊กสาวของบุงโก

การว่าจ้างวะคะเระซาเซยะ เป็นวิธีการระยะสั้นในการแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิตคู่โดยไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้า
การว่าจ้างวะคะเระซาเซยะ เป็นวิธีการระยะสั้นในการแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิตคู่โดยไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้า

ถึงตอนนี้ ชิคาฮิเดะ จะดึงนักสืบหญิงที่ชื่อ ฟูมิกะ ให้มาทำหน้าที่แบบเดียวกับไดสุเกะ โดยทำทีเข้าไปตีสนิทกับเอมิ เพื่อล้วงข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอ ซึ่งรวมถึงเรื่องรูปแบบความสัมพันธ์และผู้ชายแบบที่เธอชื่นชอบ และในที่สุดฟูมิกะจะทำทีนัดเอมิไปทานอาหารค่ำกับกลุ่มเพื่อน ๆ ของเธอ ซึ่งเป็นสายลับปลอมตัวมา และหนึ่งในนั้นคือสายลับชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า โกโร

โกโร มีข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเอมิ ทั้งเรื่องที่เธอชอบและไม่ชอบ แล้วสร้างภาพให้ตัวเองกลายเป็นเนื้อคู่ที่เธอเฝ้ารอมานาน จากนั้นเขาจะหว่านเสน่ห์ให้เธอตกหลุมรัก (อย่างไรก็ตาม สายลับตัวจริงอย่างนายโมชิซูกิได้ย้ำว่าสายลับจะไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุคคลเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการค้าประเวณี)

เมื่อเอมิได้ตกหลุมรักชายอื่น เธอจึงตัดสินใจบอกเลิกบุงโก กรณีนี้จึงจบลงด้วยความสำเร็จ (บางครั้งลูกค้าอาจกลับมาใช้บริการอีกครั้งหากคู่สมรสกลับไปสานสัมพันธ์กับชู้รักคนเดิม หรือหันไปสานสัมพันธ์กับคนใหม่) ส่วนโกโรจะค่อย ๆ ตีตัวออกห่างจากเอมิ โดยที่ไม่เปิดเผยให้เธอได้ล่วงรู้ว่าเขาคือสายลับที่ถูกว่าจ้างมาหลอกเธอ

การต้องใช้สายลับถึง 4 คน และใช้เวลาปฏิบัติการราว 4 เดือนกว่าจะทำให้ความสัมพันธ์นอกสมรสนี้จบลงได้ นี่จึงเป็นงานที่ต้องใช้ความอุตสาหะ

"คุณจำเป็นต้องช่ำชองในกฎหมายญี่ปุ่น" นายโมชิซูกิ กล่าว ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวกับการสมรส การหย่า และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่สามารถละเมิดได้ (เช่น การลักลอบเข้าพื้นที่ส่วนบุคคล และการข่มขู่) แม้จะมีวะคะเระซาเซยะที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต แต่เขาคิดว่าบริษัทลักษณะนี้มักรับจ้างทำงานเดียวแล้วปิดกิจการหนีไป

ทัศนคติเรื่องการหย่าร้าง และการนอกใจในสังคมญี่ปุ่น ที่ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้โดยง่าย น่าจะทำให้ธุรกิจวะคะเระซาเซยะเป็นที่ต้องการต่อไป
ทัศนคติเรื่องการหย่าร้าง และการนอกใจในสังคมญี่ปุ่น ที่ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้โดยง่าย น่าจะทำให้ธุรกิจวะคะเระซาเซยะเป็นที่ต้องการต่อไป

บริการด้านความสัมพันธ์ในญี่ปุ่น

แม้ธุรกิจวะคะเระซาเซยะในญี่ปุ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ น.ส.สกอตต์ ระบุว่า มีบริการคล้ายกันในหลายประเทศทั่วโลก โดยอาจเป็นธุรกิจที่มีลักษณะเป็นทางการน้อยกว่าและหลอกให้บุคคลเป้าหมายติดกับดักในกลเกมรัก หรืออาจเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนักสืบเอกชน

น.ส.สกอตต์ ชี้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงผลกระทบที่ธุรกิจวะคะเระซาเซยะส่งผลต่อผู้คน "คนมักไม่อยากถูกมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทนี้ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงกรณีที่ตกเป็นเหยื่อของมัน" เพราะวะคะเระซาเซยะมีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม สายลับอาจถูกจ้างให้เก็บหลักฐานของคู่สมรสที่กระทำผิดฐานคบชู้ เพื่อให้อีกฝ่ายใช้ในการเรียกเงินปลอบขวัญได้ด้วย ดังนั้น สายลับวะคะเระซาเซยะจึงไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะด้านอารมณ์ แต่ยังรวมถึงด้านการเงินด้วย

การที่ยังมีธุรกิจประเภทนี้อยู่ในญี่ปุ่น ก็บ่งชี้ว่า เรื่องเงินทองและการโกหกหักหลังยังเป็นประเด็นที่คู่รักไม่กล้าเผชิญหน้ากันอย่างตรงไปตรงมามากกว่าที่คิด นอกจากนี้ กฎหมายการหย่าร้างและบรรทัดฐานทางสังคมต่อเรื่องการนอกใจในสังคมญี่ปุ่นที่ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปได้โดยง่าย ก็น่าจะทำให้บริการของนายโมชิซูกิ ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าอยู่ต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0