โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อย่าเพิ่งตื่น!! ญี่ปุ่นพบติดโควิด​ 2 รายบินจากไทย​ กรมควบคุมโรคโต้​​ เร่งสอบสวนโรค

PPTV HD 36

อัพเดต 11 ส.ค. 2563 เวลา 17.50 น. • เผยแพร่ 11 ส.ค. 2563 เวลา 17.49 น.
อย่าเพิ่งตื่น!! ญี่ปุ่นพบติดโควิด​ 2 รายบินจากไทย​ กรมควบคุมโรคโต้​​ เร่งสอบสวนโรค
กรมควบคุมโรค​แจงยิบ​ บินจากไทยพาเชื้อโควิด-19​ เข้าญี่ปุ่น เร่งติดตามและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม​ โต้ผลตรวจ​ ตั้งข้อสังเกตวิธีตรวจ

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพบชายชาวญี่ปุ่นติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หลังเดินทางกลับจากไทย เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา  หลังจากได้รับรายงานกรมควบคุมโรคได้ประสานไปยังจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR national focal point) ของประเทศญี่ปุ่นทันที เพื่อสอบสวนโรค ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม และติดตามบุคคลรายดังกล่าว

รัสเซีย อนุมัติใช้วัคซีน โควิด-19 ประเทศแรกในโลก

พบว่า กรณีที่มีผู้เดินทางจากไทยไปญี่ปุ่น ตรวจพบการติดเชื้อโควิด -​19 มี 2 เหตุการณ์ ดังนี้ 

รายแรกเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 24 ปี เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ญี่ปุ่น กลับมาไทยเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 63 เข้ารับการกักตัวที่สถานที่กักกันที่ราชการกำหนด จนถึงวันที่ 21 ก.ค. 63 ได้รับการหาเชื้อ​ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อทั้งสองครั้ง หลังจากนั้นเดินทางกลับบ้านที่จ.เชียงราย ซึ่งพักอยู่บ้านกับมารดาเพียง 2 คน ไม่ได้เดินทางไปไหน และในวันที่ 29 ก.ค. 63 ไปเกณฑ์ทหารโดยปฏิบัติตัวในการป้องกันโรคโควิดอย่างเคร่งครัด ต่อมาได้เดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 63 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 1 ส.ค. 63 ได้รับการเก็บน้ำลายส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลเป็นบวก และถูกส่งเข้าสถานที่กักตัวของรัฐ 

หลังทราบผลได้แจ้งให้มารดาที่จ.เชียงรายทราบ มารดาจึงไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลไม่พบเชื้อ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย มีการติดตามผู้สัมผัสที่เป็นเพื่อน 3 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 28 คน รวมมารดาด้วยทั้งสิ้น 32 ราย ผลไม่พบเชื้อทั้งหมด และในวันที่ 8 ส.ค. 63 ได้แจ้งมาทางมารดาว่า โรงพยาบาลในญี่ปุ่นตรวจซ้ำอีก 2 ครั้งหลังกักกัน 7 วัน ผลตรวจเป็นลบทั้งสองครั้ง และอนุญาตให้ออกจากสถานที่กักกัน  ดังนั้น สรุปได้ว่ารายนี้ จากผลตรวจครั้งที่สองเป็นลบ ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน และการตรวจผู้สัมผัสใกล้ชิดก็ไม่พบการติดเชื้อเช่นเดียวกัน จึงไม่น่าใช่ผู้ติดเชื้อโควิด- 19 

จากทุกมุมโลก ! อัปเดตข่าวต่างประเทศและสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ 11 ส.ค.63

รายที่สอง เป็นเพศชาย สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 47 ปี เดินทางจากไทยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 63 ได้รับการตรวจน้ำลายหาเชื้อที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ ผลโควิด 19 เป็นบวก รายนี้ได้ประสานงานผ่านกลไกกฎอนามัยระหว่างประเทศ อยู่ระหว่างรอรายละเอียดการอาศัยและผู้สัมผัสที่อยู่ในไทย อีกทั้งได้ประสานสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบที่อยู่และค้นหาผู้สัมผัส ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการเช่นเดียวกัน และเมื่อได้รับข้อมูลแล้ว จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป 

สำหรับวิธีการตรวจที่สนามบินในญี่ปุ่นที่ใช้กับผู้เดินทางทั้ง 2 รายนี้ เป็นวิธีใหม่ เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 63 คือวิธี CLEIA (ChemiLuminescent Enzyme ImmunoAssay) โดยตรวจหาเชื้อจากตัวอย่างน้ำลาย ซึ่งเป็นวิธีการตรวจที่องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้รับรอง ทั้งนี้ ประเทศไทยยังใช้วิธีการตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูกด้วยวิธี RT PCR ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโควิด -​19 

สธ.จับตา เวียดนามใกล้ชิด หลังโควิด-19 ระบาดรอบ 2

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธาณสุข ได้ปฏิบัติตามหลักในการป้องกันควบคุมโรค ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations :IHR)  ที่ได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศที่มีระบบความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ ทำให้มีการตรวจสอบติดตามและสอบสวนป้องกันโรคได้อย่างรวดเร็ว มีการดำเนินงานและควบคุมโรคภายในประเทศได้ดี  จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคที่มีความเข้มแข็งและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0