ไม่แปลกที่คนเราจะมีความอยากได้ อยากมี อยากเป็น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่หรือที่ทำให้จิตใจของเราเป็นทุกข์ ทำให้เราต้องเหนื่อย วิ่งตามทุกสิ่งอย่างแบบไม่หยุดหย่อนเพื่อให้ได้มี ได้เป็นอย่างที่ต้องการ
แถมคนส่วนใหญ่ยังไม่ชอบอยู่กับความจริง กลับชอบใช้ชีวิตอยู่บนความหวังและความต้องการแทน ทั้ง ๆ มันคือต้นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ แต่ทั้งที่รู้ก็ยังไม่ยอมละทิ้งความต้องการเหล่านั้น กลับตะเกียกตะกาย ขวนขวายให้ได้มา แม้สุดท้ายจะเป็นความทุกข์ก็ตาม
นาน ๆ เข้าก็กลายเป็นความเคยชิน ไม่รู้ตัวว่ากำลังละทิ้งความจริง มัวแต่อยู่กับความต้องการของตัวเอง ขุ่นเคืองโทษสิ่งต่าง ๆ จนเป็นทุกข์ เจ็บตัว เจ็บใจ และเหน็ดเหนื่อยโดยใช่เหตุ ลองเปลี่ยนมาอยู่กับความจริงให้มากขึ้น แล้วคุณจะพบความสุขที่แท้จริง
วิธีการใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริง
คิดไว้เสมอว่าไม่มีอะไรเป็นไปตามที่เราต้องการได้ ความคาดหวังมากเกินไปนั่นแหละคือการไม่ยอมรับความจริง
การมีสติ และปัญญาในการจัดการชีวิตจะทำให้มองเห็นความจริง แม้ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า ต้องมีแผน มีอนาคต แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง เช่น เวลาทำงานอย่าเพิ่งคิดว่าอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร จะดีไหม ได้เงินเยอะไหม ได้เลื่อนตำแหน่งไหม ให้ดูที่เนื้องานเป็นหลักก่อน เพราะถ้าเราทำงานอย่างมีความสุข สนุกและเต็มที่อยู่กับทุกขณะที่ทำงาน ทุกอย่างจะออกมาดีด้วยตัวของมันเอง
ยอมรับความจริงได้ ก็ไม่ทุกข์
สาเหตุของความทุกข์ส่วนใหญ่มาจากการที่เราคาดหวังมากเกินไป อยากให้เป็นอย่างโน้น อยากให้เป็นอย่างนี้ พอไม่ได้ดั่งใจก็เลยเป็นทุกข์ นั่นเพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตบนพื้นฐานของความจริงเลย ยกตัวอย่างง่าย ๆ คุณทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่เคยตั้งใจทำงานเลย ทำส่ง ๆ ให้เสร็จ ๆ ไป แต่ดันหวังว่าจะได้เป็นหัวหน้า ได้โบนัสเยอะ ๆ พอไม่ได้ก็โมโหโกรธา แค้นใจ อิจฉาริษยา แช่งชักหักกระดูกต่าง ๆ นานา ทำให้จิตใจไม่เป็นสุข ทุกข์ร้อนอยู่แต่กับตัวเอง
จริง ๆ แล้วคุณต้องเปลี่ยนวิธีคิด ยอมรับความจริงเสียว่าทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ปลูกถั่วงอกแต่หวังจะได้กินข้าว มันเป็นไปไม่ได้ อยากเป็นหัวหน้า อยากได้โบนัสก็ต้องตั้งใจทำงาน แสดงศักยภาพให้เต็มที่ ไม่ใช่ฝันลอย ๆ แต่งานการไม่เดิน และถ้ายอมรับความจริงได้เมื่อไหร่ ความทุกข์ในใจก็จะหมดไป
อยู่กับความจริงแต่อย่าทิ้งความฝัน
ความฝันในกรณีนี้คือ ความใฝ่ฝันหรือเป้าหมายในอนาคต คนเราทุกคนมีฝัน มีเป้าหมายกันทั้งนั้น เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ง่ายบ้าง ยากบ้างแล้วแต่จะกะเกณฑ์กันขึ้นมา ซึ่งความฝันแบบนี้ไม่ใช่การไม่อยู่กับความเป็นจริง แต่เป็นการตั้งเป้าหมายเพื่อไปสู่ความเป็นจริงในอนาคต โดยจะเป็นแค่ฝันหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของแต่ละคนนั่น
และจงฝันบนพื้นฐานของความจริง ฝันอย่างมีเหตุมีผลเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ไม่ใช่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ เพ้อเจ้อไปวัน ๆ
ความเห็น 60
Toon
แง่คิดดีครับ
08 ธ.ค. 2560 เวลา 23.47 น.
สนธยา พันผิว
มีความสุขได้ไง ความจริงเป็นหนี้ นี้คือความเป็นจริง
08 ธ.ค. 2560 เวลา 23.58 น.
Shin da Nai
อันนี้ดีๆ สรุปคือ ต้องยอมรับความจริงให้ได้ และอย่าคาดหวังก็ไม่ผิดหวัง และอย่าคิดกังวลเองถึงอนาคต ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ก็จะไม่ผิดหวัง
09 ธ.ค. 2560 เวลา 15.14 น.
สุธาศินี
ทุกคนทำได้คะแต่ใจของแต่ละคนไม่เหมือนกันคะ่อยู่ที่ตัวเองจะแข็งแรงพอไหมและรับครามจริงได้แค่ไหนคะ
08 ธ.ค. 2560 เวลา 22.58 น.
มีใครทำได้ใหม.ตอบด่วน
08 ธ.ค. 2560 เวลา 11.38 น.
ดูทั้งหมด