(20 ม.ค.2562) เวลา 18:00 น. นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยกับ JS100 ว่า หลังจากที่ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอันส่งผลต่อคุณภาพอากาศ ผ่านมา 1 สัปดาห์ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและประชาชนที่ช่วยกัน ภาพรวมค่าฝุ่นละอองลดลงไปมากแม้จะยังเกินค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. หากรัฐไม่เข้มงวดตัวเลขน่าจะสูงยิ่งกว่านี้ กรมควบคุมมลพิษได้ประสานการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดในการรายงานคุณภาพอากาศ ช่วงที่เห็นผลที่สุดคือช่วงที่ฝนตกลงมา ทั้งฝนธรรมชาติและฝนหลวง ประกอบกับการเข้มงวดการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ ทำให้ค่าฝุ่นละอองละออง PM2.5 ดีขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่เขตจตุจักร
สถานการณ์วันนี้จากการประเมินสถานีวัดคุณภาพอากาศ ภาพรวมเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน ยังคงแนะนำให้ประชาชนงดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง ส่วนการติดตามรายงานคุณภาพอากาศขอให้ติดตามจากภาครัฐ ติดตามจากกรมควบคุมมลพิษเท่านั้น ยืนยันรายงานตามข้อเท็จจริงจาก 42 สถานีตรวจวัด อุปกรณ์ผ่านการรับรองจากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency -EPA) ซึ่งเป็นมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ( WHO) ดังนั้นข้อมูลจากแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ Air4Thai เชื่อถือได้แน่นอน อัปเดตเรียลไทม์ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 24 ชม. เช่น หากตรวจสอบข้อมูลเวลา 15:00 น. ก็จะเป็นตัวเลขค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 15:00 น. เมื่อวาน มาจนถึง 15:00 น. วันนี้
"บางคนอาจจะไปดูตัวเลขรายงานคุณภาพอากาศจากแหล่งอื่น ซึ่งมีทั้งจากบริษัทเอกชน หรือตรวจวัดจากอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ กรมฯไม่สามารถบอกได้ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นมีมาตรฐานเชื่อถือได้ทุกชิ้นหรือไม่ แต่สิ่งประชาชนควรรู้คืออุปกรณ์เหล่านั้นจะอ่านค่า 'ณ ขณะนั้น' หมายถึง ขณะที่วัดอาจมีตัวแปรที่แตกต่างกันออกไป เช่น ตอนวัดมีรถเมล์วิ่งผ่านพอดี ตอนวัดเป็นจังหวะที่มีลมพอดี แม้ค่าขณะนั้นจะถูกต้อง แต่ไม่สามารถใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงได้ ส่วนสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ จะมีเซ็นเซอร์อ่านค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด อ่านออกมาเป็นค่าเฉลี่ย 24 ชม. ย้อนหลัง ต้องอย่าลืมว่าควันที่ออกมาจากท่อไอเสียขณะนั้นไม่ได้หายไปทันที แต่จะลอยขึ้นไปบนอากาศ 500 - 1,000 เมตร เลยทีเดียว" อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าว
