องค์กรต้านคอร์รัปชั่นขอนแก่น บุกโรงพักขอนแก่นจี้ตำรวจเอาผิด ม.112 ทนายอานนท์ ปมขึ้นเวทีปราศรัย ที่ มธ. พร้อมระบุการชุมนุมทำได้ แต่อย่าจาบจ้วงสถาบัน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายตุลย์ ประเสริฐศิปล์ป ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น นำคณะกรรมการองค์กรฯ ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
จากการขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยการยื่นหนังสือร้องทุกข์ดังกล่าวส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารีกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
นายตุลย์ กล่าวว่า ในการขึ้นเวทีปราศรัย “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาของนายอานนท์ นำภา เป็นการดูหมิ่น ใส่ร้าย เหยียดหยาม สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขของชาติอย่างชัดเจน
ทั้งยังปลุกระดม ยุยง ปลุกปั่น ให้บุคคลกระทำผิด ละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และถือเป็นความผิดที่ชัดแจ้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้ เครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ จึงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายใน 4 ประเด็น
“เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแสดงฝีมือและกระทำการในอำนาจหน้าที่ ซึ่ง 4 ข้อเรียกร้องที่ เครือข่ายฯ ยื่นต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น วันนี้ คือการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นหนังสือต่อศาลอาญา เพื่อถอนประกันตัวนายอานนท์ เพราะได้ทำผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัว และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแผ่นดินทั้งยังกระทำผิดซ้ำซาก
โดยให้ดำเนินการเอาผิดตาม มาตรา 112 และ 116 เพื่อให้ตัวการและผู้ที่สนับสนุนนั้นได้รับโทษอย่างเด็ดขาด รวมทั้งให้พนักงานสอบสวนต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ด้านการเงิน และทรัพย์สินของตัวการและผู้สนับสนุน เพื่อให้ ปปง.เข้าไปยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริต
ที่สำคัญคือกพนักงานสอบสวนจะต้องคัดค้านการประกันตัวผู้กระทำผิดทุกราย ที่ดูหมิ่นใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ และความมั่นคงของรัฐ เพราะมีอัตราโทษสูงและผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งจัดเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐอันร้ายแรงอีกด้วย”
นายตุลย์ กล่าวต่ออีกว่า การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น มีความผิดชัดเจน ในฐานะเครือข่ายภาคพลเมืองจึงรวมตัวกันร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญากับนายอานนท์ และพวกทุกคนให้ถึงที่สุด ในขณะที่การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ก็ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย อย่าล่วงเกินหรือดูหมิ่นสถาบันโดยเด็ดขาด
