8 ส.ค.63 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกวันนี้ 8 สิงหาคม 2563 ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 8 สิงหาคม 2563
เมื่อวานติดเพิ่มอีกถึง 301,059 คน ตายเพิ่ม 6,740 คน รวมแล้วติดไป 19,499,886 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 63,060 คน รวม 5,086,665 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 50,230 คน รวม 2,962,442 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 61,455 คน รวม 2,086,864 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,241 คน รวม 877,135 คน
แอฟริกาใต้ เม็กซิโก เปรู ติดกันเพิ่มอีก 6-7 พันกว่า แต่ที่น่าห่วงมากคือ"สเปน" ติดเพิ่มในจำนวนพอกัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังแค่ระดับพันต้นๆ
เยอรมัน ฝรั่งเศส อิหร่าน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ก็เกาะหลักพันอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ดูไม่ดีขึ้น
หลายประเทศในยุโรป รวมถึงปากีสถาน สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ก็เป็นหลักหลายร้อยจนเกือบพัน
ส่วนจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม ยังเกาะหลักสิบอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 19.5 ล้านราย เสียชีวิตเพิ่ม 6 พันราย
เยอรมนีจ่อบังคับผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูง ตรวจโควิด-19
โตเกียว - โอกินาวา ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่ง
ญี่ปุ่นไฟเขียวใช้ทุนสำรองอีกกว่า 3.3 แสนล้านสู้ภัยโควิด
ที่น่าสนใจคือจีน เมื่อวานติดไป 37 คน แต่ในจำนวนนี้ 27 คนเป็นการติดกันภายในประเทศ หรือ community transmission ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่มีประเทศใดอยากจะให้เป็นเช่นนี้ เพราะจะจัดการยากและใช้เวลาในการควบคุมโรค แถมยากกว่าระลอกแรก
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในเวียดนามได้ตั้งข้อสังเกต การระบาดซ้ำของเค้าเกิดจากไวรัสสายพันธุ์ที่ต่างจากครั้งก่อน มีการแพร่ระบาดเร็วกว่าเดิม 3 เท่า คือคนติดเชื้อสามารถแพร่ไปให้คนอื่นได้ 5-6 คน ทั้งๆ ที่ไวรัสเดิมแพร่ได้ประมาณ 2 คน ทำให้การระบาดของเค้าเร็ว และดูเหมือนรุนแรงกว่าเดิม เพราะมีคนป่วยหนักและเสียชีวิตไปหลายคนในระยะเวลาสั้นๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เวียดนามไม่มีรายงานคนเสียชีวิตเลย
สำหรับเมืองไทย…ย้ำหลายครั้งว่า ความเสี่ยงในการระบาดซ้ำนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนระเบิดเวลา เพราะเริ่มแง้มประตูประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ยังไม่มีประเทศใดรอดจากการระบาดซ้ำได้ และมักเกิด 4-6 สัปดาห์หลังเปิดประตู
ของไทย ที่น่าจับตาคือ หลังจากกลุ่มแรงงานต่างด้าว กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ และ medical and wellness program เข้ามา สถานการณ์น่าจะสุกงอมตั้งแต่ปลายเดือนนี้ไปถึงปลายเดือนกันยายน
การระบาดทั่วโลกรุนแรง มีโอกาสที่คนติดเชื้อจะเล็ดรอดเข้ามาได้เสมอ วัคซีนและยามาตรฐานยังไม่มี
สิ่งที่เราทำได้คือ สร้างภูมิคุ้มกันตนเองด้วยการป้องกันตัวอยู่เสมอ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ
ใส่หน้ากาก ล้างมือ อยู่ห่างๆ พูดน้อยลง พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออดที่ชุมนุมที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้รีบไปตรวจรักษา
กระทรวงสาธารณสุขออกข่าวเมื่อวานว่า อัตราการใส่หน้ากากเหลือแค่ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ หากผลการสำรวจครอบคลุมเพียงพอที่จะสะท้อนความเป็นจริงเช่นนั้น จะแปลว่า หากมีคนติดเชื้อหลุดเข้ามาในชุมชน โอกาสระบาดซ้ำและรุนแรงวงกว้างมีสูงยิ่งนัก
เพราะเชื้อสายพันธุ์ใหม่หาก R0 = 5-6 ตามที่เวียดนามคาดประมาณไว้ ภูมิคุ้มกันหน้ากากของเราต้องสูงมากๆ มากกว่า 90% จึงจะมีโอกาสรอดได้บ้าง
ช่วยกันนะครับทุกคน รักตัวเองและครอบครัว ต้องป้องกันตัวเสมอ
ประเทศไทยต้องทำได้
